วันเสาร์ที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2559

วันฤกษ์ดีประจำปีพ.ศ.๒๕๖๐ ("เมื่อผมต้องหาฤกษ์แต่งงานปี 2560" ภาค ๒)

สืบเนื่องจากการที่ผมได้โพสต์บทความเกี่ยวกับการหาฤกษ์แต่งงานโดยมีข้อกำหนดที่ต้องสอดคล้องกับสภาพการดำเนินชีวิตในปัจจุบันเช่น มักจะแต่งงานกันในวันเสาร์ อาทิตย์หรือวันนักขัตฤกษ์เพื่อไม่ให้กระทบกับการทำงานประจำของแขกเหรื่อที่จะมาร่วมงาน คือไม่ต้องลางานนั่นเองครับ จะได้มากันเยอะๆ และควรจะต้องจบทุกพิธีที่สำคัญในวันเดียวกันเช่น หมั้น แต่ง ส่งตัว จะได้ไม่ต้องเสียเวลายืดยาวไปหลายวัน

บทความที่ผมเขียนไว้นั้นได้มีผู้สอบถามมากมายถึงวันที่มีฤกษ์ดี ผมก็เลยคิดว่าน่าจะเขียนบทความสรุปให้เลยจะดีกว่า ว่าทั้งปีพ.ศ.๒๕๖๐นั้น มีวันดีๆที่สามารถจัดงานพิธีต่างๆได้ และจัดได้ทั้งวันตั้งแต่พระอาทิตย์ขึ้นยันพระอาทิตย์ตกดินนั้น มีวันใดบ้าง หลังจากที่ผมได้ตรวจดูแล้ว พบว่าบางวันที่ดูเหมือนจะเป็นวันดี แต่ก็ดีไม่ตลอดวัน วันเหล่านี้ผมก็จะตัดทิ้งไป เพื่อให้ง่ายในการดูสำหรับบุคคลทั่วไปครับ

ก่อนอื่นผมขอบอกวิธีการพิจารณาฤกษ์มงคลก่อนครับ

สำหรับผมแล้ว ผมจะพิจารณาโดยใช้ทั้งฤกษ์บน(ดาวบนท้องฟ้า)และฤกษ์ล่าง(วันต่างๆที่คำนวณโดยไม่ใช้สมผุสดาวต่างๆ) และทั้งสองแบบนี้จะต้องไม่ขัดแย้งกัน คือถ้าฤกษ์บนดี ฤกษ์ล่างต้องดีด้วย มาเริ่มกันเลย

กาลโยค

เป็นการกำหนดวันมงคลแต่ละปีที่นิยมใช้กันมานมนานกาเล ผมจะไม่กล่าวถึงรายละเอียดคำนวณ แต่ขอบอกว่า กาลโยคจะเริ่มนับจากวันสงกรานต์เป็นต้นไปเป็นเวลา 1 ปี ถ้านับปีตามปฏิทินสากลโดยเริ่มจากเดือนมกราคมถึงธันวาคม วันมงคลตามหลักกาลโยคจะถูกแบ่งเป็น 2 ช่วง คือ ก่อนสงกรานต์ และหลังสงกรานต์

วันตามหลักกาลโยคจะแบ่งเป็น 4 แบบคือ
  • วันธงชัย
  • วันอธิบดี
  • วันอุบาทว์
  • วันโลกาวินาส
ถ้าวันใดเป็นเป็นวันธงชัยหรือวันอธิบดี วันนั้นจะสามารถจัดงานมงคลใดๆก็ได้ในปีนั้น แต่ถ้าวันใดเป็นวันอุบาทว์หรือวันโลกาวินาส วันนั้นไม่ควรประกอบพิธีมงคลใดๆทั้งสิ้น

กาลโยคก่อนสงกรานต์ปีพ.ศ.๒๕๖๐ ได้แก่

  1. วันเสาร์ เป็นวันธงชัย
  2. วันพุธ เป็นวันอธิบดี
  3. วันเสาร์ เป็นวันอุบาทว์
  4. วันเสาร์ เป็นวันโลกาวินาส
นั่นคือก่อนวันสงกรานต์ปีพ.ศ.๒๕๖๐ ไม่ควรจัดงานมงคลใดๆในวันเสาร์


กาลโยคหลังสงกรานต์ปีพ.ศ.๒๕๖๐ ได้แก่

  1. วันอังคาร เป็นวันธงชัย
  2. วันพฤหัส เป็นวันอธิบดี
  3. วันจันทร์ เป็นวันอุบาทว์
  4. วันเสาร์ เป็นวันโลกาวินาส
นั่นคือหลังวันสงกรานต์ปีพ.ศ.๒๕๖๐ ไม่ควรจัดงานมงคลใดๆในวันจันทร์และวันเสาร์


หมวดฤกษ์

มี 9 หมวดได้แก่ มหัทธโน โจโร ภูมิปาโล เทศาตรี เทวี เพชรฆาต ราชา สมโณ ทลิทโท ซึ่งคำนวณมาจากสมผุสของดวงดาวบนท้องฟ้า เรียกว่าเป็นฤกษ์บนนั่นเอง ส่วนวิธีการคำนวณ ผมไม่ขอกล่าวถึงอีกเช่นกัน เพราะยุ่งยากมากกว่ากาลโยคเสียอีก

ในจำนวนหมวดฤกษ์ทั้งหมดนี้ ผมกล่าวโดยสรุปก่อนว่า มหัทธโนฤกษ์ เทวีฤกษ์ และราชาฤกษ์ เป็นฤกษ์ที่ใช้สำหรับการจัดงานมงคลทุกประเภท และโดยทั่วไปจะใช้สมผุสของดาวจันทร์(๒)เป็นหลักในการพิจารณาฤกษ์ครับ

ดิถีเรียงหมอน

เป็นวันข้างขึ้นหรือข้างแรมทางจันทรคติเพื่อใช้กำหนดวันส่งตัวคู่บ่าวสาวเข้าสู่เรือนหอ ใช้สำหรับพิธีแต่งงานเท่านั้น อาจไม่จำเป็นต้องตรงกับวันหมั้นหรือวันแต่งงานก็ได้

กฎเกณฑ์ก็คือวันขึ้น 7, 10, 13 ค่ำ และวันแรม 4, 8, 10, 14 ค่ำ จึงจะสามารถทำพิธีการส่งตัวเจ้าบ่าวเจ้าสาวได้ครับ

วันมงคลประจำปีพ.ศ.๒๕๖๐

จากหลักการข้างต้นผมขอสรุปวันที่ใช้ทำการมงคลได้ตลอดทั้งวันตั้งแต่พระอาทิตย์ขึ้นยันพระอาทิตย์ตกดังนี้ครับ


x = ทำพิธีส่งตัวคู่บ่าวสาวได้




วันเสาร์ที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2559

พระอัจฉริยภาพทางด้านโหราศาสตร์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 และดวงพระชะตา (ตอนจบ)

เกริ่นไว้เมื่อตอนที่แล้วว่า ดาวมฤตยู(๐)มักจะส่งผลร้ายกับพระองค์ท่านมาโดยตลอด ทั้งเรื่องของพระบรมราชชนกและเรื่องพระเชษฐาธิราช ซึ่งพระองค์ท่านสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักทั้งสองพระองค์ในช่วงที่ดาวดวงนี้โคจรมากระทบตำแหน่งศุภะ(บิดา)และลาภะ(พี่)ในเรือนพระชะตา

ดวงพระชะตา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙

ในตอนนี้ผมจะขอทำความเข้าใจเบื้องต้นก่อน เกี่ยวกับจุดเปราะบางของทุกดวงขะตาที่เมื่อดาวใดๆโคจรมาทับ(กุม)แล้ว จะส่งผลดีร้ายตามสถานภาพของดาวนั้นๆ และโหรมักจะนำมาใช้ในการพยากรณ์จร ว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นบ้าง จุดนี้เรียกว่า จุดเจ้าชะตา

จุดเจ้าชะตาแรกที่สำคัญที่สุดคือ "ลัคนา" ซึ่งเป็นตัวตนที่แท้จริงของทุกดวงชะตา สำหรับพระลัคนาของพระองค์ท่านสถิตอยู่ ณ ราศีกรกฎครับ

จุดเจ้าชะตาที่สองที่มีความสำคัญไม่แพ้กันก็คือ "เจ้าเรือนลัคนา" สำหรับตำแหน่งนี้ของพระองค์ท่านคือ ดาวจันทร์(๒)ที่สถิตอยู่ ณ ราศีเมษ เนื่องเพราะดาวจันทร์(๒)นี้คือเจ้าเรือนของราศีกรกฎนั่นเอง โดยทั่วไป โหรใช้พยากรณ์สิ่งที่เจ้าชะตาต้องการหรือสิ่งที่กังวลสนใจ

จุดเจ้าชะตาที่สามที่โหรมักจะใช้กันคือ ดาวอาทิตย์(๑) จุดนี้จะใช้สำหรับตรวจดูทางกายภาพ (Physical) เช่นลักษณะของร่างกายหรือสุขภาพของเจ้าชะตา

เมื่อทราบดังนี้แล้ว ต่อไปเรามาดูกันว่าพระองค์ท่านจะทรงแก้ไขอย่างไรเมื่อดาวมฤตยู(๐)โคจรมากระทบกับจุดเจ้าชะตาของพระองค์
ทรงผนวช วันที่ ๒๒ ตุลาคม พ.ศ.๒๔๙๙

ทรงผนวช

โดยปกติแล้วผู้ชายชาวไทยมักจะอุปสมบทหรือบรรพชาเมื่ออายุครบ20ปีบริบูรณ์ แต่สำหรับพระองค์ท่านทรงผนวชในวันที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2499 ในขณะพระชนมายุย่าง 29 พรรษา ทำไมล่ะครับ?

ช่วงที่พระชนมายุ 20 พรรษา พระองค์ท่านยังทรงมีภารกิจทางการศึกษาอยู่ หลังจากนั้นพระองค์ท่านก็ยังไม่มีโอกาสให้ทรงผนวช เนื่องจากพระองค์ท่านยังทรงติดภารกิจต่างๆในต่างประเทศ รวมถึงพระองค์ยังทรงได้รับอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อปีพ.ศ. 2491 จนกระทั่งทรงได้พบรักและทรงมีพระบรมราชาภิเษกในที่สุด ดังที่ผมได้กล่าวถึงในตอนที่แล้ว

และเป็นธรรมดาสำหรับคนที่มีครอบครัวแล้วก็ต้องมีบุตรธิดา พระองค์ท่านก็เช่นกัน ทรงมีพระราชธิดาและพระราชโอรส ก่อนที่ดาวมฤตยู(๐)จะโคจรทับพระลัคนาระหว่างวันที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2496 ถึง วันที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2503 ในระหว่างนั้นยังมีดาวราหู(๘)โคจรเข้าเรือนปุตตะ(บุตรบริวาร)ระหว่างวันที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2498 ถึง วันที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2500 ซึ่งก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้พระองค์ท่านทรงออกผนวช เนื่องเพราะอาจจะเกรงว่าพระราชธิดาและพระราชโอรสจะทรงได้รับอันตรายเหมือนกับที่พระองค์ท่านเคยประสบมาแล้วจากการที่ดาวราหู(๘)โคจรทับดาวเจ้าเรือนพระลัคนาในราศีเมษ

การที่พระองค์ท่านทรงผนวชนั้น ในทุกยุคทุกสมัย บุคคลชั้นสูงมักจะนำมาใช้ในการแก้เคล็ดเพื่อป้องกันมิให้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่พึงประสงค์ นัยว่าเป็นการตายจาก จะได้หมดเคราะห์กันไป เราๆท่านๆก็สามารถนำเทคนิคนี้ไปใช้กันได้นะครับ แต่ข้อสำคัญที่ไม่ควรละเลยก็คือ ฤกษ์สึก ซึ่งถือเป็นการเกิดใหม่ จึงต้องมีการวางฤกษ์ให้ดี เพื่อที่ว่าชีวิตหลังสึกจะได้ดีตามฤกษ์ที่วางไว้
ดวงพระชะตาจร
ณ วันที่ ๑๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๙
เวลา ๑๕.๕๒ นาฬิกา
(ตัวเลขสีแดง) สัมพัทธ์
กับดวงพระชะตากำเนิด(ตัวเลขสีดำ)

สวรรคต

วันที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2559 เป็นวันที่ผมเองคาดไม่ถึง เพราะผมคิดไปเองว่า ดาวเสาร์(๗)ที่กำลังโคจรทับดาวอาทิตย์(๑)กำเนิดซึ่งทำให้พระวรกายอ่อนแอ และดาวมฤตยู(๐)ที่กำลังโคจรทับดาวจันทร์(๒)เจ้าเรือนพระลัคนาอยู่ ยังไม่น่าจะทำอะไรได้ น่าจะมีอีกหนึ่งดวงคือดาวราหู(๘)ซึ่งเป็นเจ้าเรือนมรณะของพระองค์ท่านกำลังโคจรเข้ามาทับพระลัคนาในวันที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2560 ด้วยเหตุนี้ ผมคาดคะเนไว้ในเบื้องตนว่าพระองค์ท่านน่าจะสวรรคตตั้งแต่วันที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2560 เป็นต้นไป

แต่กาลกลับไม่เป็นเช่นนั้น ผมก็เลยต้องรีบย้อนกลับมาดูใหม่ว่าทำไมไม่เป็นไปตามที่คาดไว้ ผมก็เลยพบข้อสังเกตุอีกอย่างหนึ่งคือ ดาวจันทร์(๒)เจ้าเรือนพระลัคนากำลังโคจรอยู่ในเรือนมรณะนั่นเอง

สรุปได้ว่านอกจากดาวมฤตยู(๐)แล้ว เราก็ต้องระวังดาวเจ้าเรือนลัคนาของตัวเองด้วย เมื่อใดก็ตามที่ดาวเจ้าเรือนลัคนาโคจรอยู่ในตำแหน่งด้อยเช่น ประ หรือนิจ รวมถึงการโคจรอยู่ในทุสถานะภพอันได้แก่ อริ มรณะ หรือวินาสน์ ก็เป็นไปได้ว่าสุขภาพจะอ่อนแอลงกว่าปกติ ความคิดความอ่านก็มักจะไม่คล่องแคล่วว่องไว ไม่มีความสุข

สำหรับพระองค์ท่านแล้ว เมื่อไรที่ดาวจันทร์(๒)เจ้าเรือนพระลัคนาโคจรในราศีพิจิก(นิจ) หรือราศีธนู(อริ) หรือราศีมังกร(ประ) หรือราศีกุมภ์(มรณะ) หรือราศีเมถุน(วินาสน์) ก็ล้วนทำให้พระองค์ท่านทรงพระประชวรได้ทั้งสิ้น

ถ้าถามว่าทรงพระประชวรบ่อยแค่ไหน ผมขอบอกว่า ตั้งแต่ดาวมฤตยู(๐)โคจรทับดาวจันทร์(๒)เจ้าเรือนพระลัคนาเมื่อตอนต้นปีพ.ศ. 2559 พระองค์ท่านจะทรงพระประชวรแทบทุกเดือน เพราะดาวจันทร์(๒)โคจรผ่านราศีที่บอกทุกเดือน (ดาวจันทร์โคจรผ่านทุกราศีจะใช้เวลาประมาณเกือบหนึ่งเดือน)

อีกประการหนึ่งก็คือดาวมฤตยู(๐)เป็นดาวที่ก่อให้เกิดเหตุการณ์แบบปัจจุบันทันด่วน ไม่รู้เนื้อรู้ตัว ไม่ทันตั้งตัว ก็อาจเป็นเหตุให้พระองค์ท่านสวรรคตแบบที่ใครๆหรือแม้กระทั่งผมเองก็ไม่ทันได้เตรียมใจไว้ก่อน

จริงๆแล้วผมยังมีอีกหลายเหตุการณ์ที่สามารถนำมายกตัวอย่างได้ เช่นเหตุการณ์ทางการเมืองต่างๆ ความสัมพันธ์ของพระองค์ท่านกับบุคคลทางการเมืองการทหาร แต่เกรงว่าจะใช้เวลานานเกินไป ก็เลยขอจบบทความพระอัจฉริยภาพทางด้านโหราศาสตร์ของพระองค์ท่านไว้เพียงเท่านี้ และขอน้อมส่งเสด็จพระองค์ท่านสู่สวรรคาลัยด้วยเทอญ



วันอาทิตย์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

พระอัจฉริยภาพทางด้านโหราศาสตร์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 และดวงพระชะตา (ตอนที่ 3)

นอกจากพระองค์ท่านจะทรงทราบถึงดวงพระชะตากำเนิดของพระองค์แล้ว ดังที่ผมได้อรรถาธิบายไว้ในตอนที่ 1 และ 2 พระองค์ยังทรงทราบถึงการพยากรณ์ดวงชะตาจรอีกด้วย ซึ่งหลายๆท่านก็คงทราบกันดีว่า การพยากรณ์ดวงชะตาจรได้อย่างแม่นยำนั้น มีความยากเพียงใด เนื่องเพราะแต่ละคนมีดวงชะตากำเนิดไม่เหมือนกัน ดังนั้นดวงดาวแต่ละดวงจึงส่งผลแต่ละคนไม่เหมือนกัน

ในบางช่วงเวลา ผมสันนิษฐานว่าพระองค์ท่านได้ทรงแก้ไขดวงพระชะตาของพระองค์เองอีกด้วย เพื่อหลีกเลี่ยงเหตุการณ์ไม่ดีที่พระองค์ทรงคาดว่าจะเกิด ส่วนจะเป็นเรื่องอะไรนั้น เราลองมาดูเหตุการณ์สำคัญๆในส่วนพระองค์กันครับ

พระบรมราชชนก
(ภาพจากวิกิพีเดีย)

พระบรมราชชนกสิ้นพระชนม์

วันที่ ๒๔ กันยายน พ.ศ. ๒๔๗๒ ในขณะที่พระองค์ท่านมีพระชนมายุเพียง 2 พรรษา พระบรมราชชนกได้ทรงนิวัติประเทศไทยหลังจากสำเร็จการศึกษาสาสขาแพทยศาสตร์เกียรตินิยมจากประเทศสหรัฐอเมริกา แต่พระบรมราชชนกทรงมีพระพลานามัยไม่แข็งแรงนัก จึงทำให้พระองค์สิ้นพระชนม์ในวันดังกล่าว

ดวงจรวันที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2472
ตามรูปดวงจรในวันนั้น ผมจะวิเคราะห์ดวงดาวหลักๆให้ทราบกันก่อนครับ

ดาวมฤตยู(๐) โคจรในราศีมีน สถิตภพศุภะในดวงพระชะตา พยากรณ์ได้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างกระทันหันเกี่ยวข้องกับพระบรมราชชนก โดยปกติโหรหลายๆท่านใช้ดาวมฤตยู(๐)พยากรณ์ในเรื่องเหตุการณ์ความรุนแรงต่างๆ ดังที่กล่าวกันเป็นคำกลอนว่า "... ทายภัยอาเภท ทายมฤตยู"

ดาวพฤหัส(๕) โคจรในราศีพฤษภ สถิตภพลาภะ กุมดาวราหู(๘)ในดวงกำเนิดซึ่งให้โทษในตำแหน่งนิจและยังเป็นดาวมรณะอีกด้วย ดาวพฤหัส(๕)นี้คือตัวแทนของพระบรมราชชนกนั่นเอง

พระปรเมทรมหาอานันทมหิดล
(ภาพจากวิกิพีเดีย)

พระเชษฐาธิราชสวรรคต


ในวันที่ ๙ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๘๙ เป็นวันที่พระองค์ท่านได้ทรงเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวงในทุกเรื่อง ถือได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่พระองค์ท่านมิได้ทรงปรารถนา อีกทั้งเป็นจุดเริ่มต้นของการเป็นราชันย์แห่งกษัตริย์ทั้งปวง เนื่องจากเป็นวันที่พระองค์ท่านได้ทรงเสียพระเชษฐาธิราชของพระองค์ไปอย่างไม่มีวันกลับ ในขณะเดียวกัน ก็เป็นวันที่พระองค์ได้รับการทูลเชิญให้ดำรงพระอิสริยยศเป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ ๙ แห่งราชวงศ์จักรี

ดังที่ผมได้กล่าวไว้แล้วว่าพระลัคนาของพระองค์ท่านทรงสถิตในราศีกรกฎ และตามรูปดวงจรในวันนั้น สามารถวิเคราะห์ได้ดังนี้

ดวงจรวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2489
ดาวมฤตยู(๐) โคจรในราศีพฤษภ สถิตภพลาภะในดวงพระชะตา พยากรณ์ได้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างกระทันหันเกี่ยวข้องกับพระเชษฐาธิราช และดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น แต่ดาวดวงนี้โคจรเป็นช่วงเวลาที่ยาวนานถึง 7 ปี ดังนั้น ต้องพิจารณาดาวดวงต่อไปที่จำกัดช่วงเวลาให้แคบเข้าไปอีก

ดาวราหู(๘) โคจรในราศีพฤษภ สถิตภพลาภะในดวงพระชะตา ได้ตำแหน่งนิจ ซึ่งเป็นตำแหน่งให้โทษอย่างรุนแรง พยากรณ์ได้ว่า พระเชษฐาธิราชจะประสบกับเหตุร้าย ซึ่งโดยทั่วไป เมื่อดาวราหู(๘)ให้โทษในภพเรือนใด มักจะทำให้ภพเรือนนั้นป่วย เจ็บ ทะเลาะ ล้มหายตายจาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งดาวราหู(๘)ของชาวราศีกรกฎเป็นดาวเจ้าเรือนมรณะ ภพแห่งการจากนั่นเอง แต่ยังเป็นช่วงเวลาที่ยาวนานถึง 1 ปีครึ่งโดยประมาณ ยังต้องใช้ดาวดวงต่อไปจำกัดช่วงเวลาให้แคบลงอีก

ดาวอาทิตย์(๑) โคจรในราศีพฤษภ สถิตภพลาภะในดวงพระชะตา โดยปกติโหรมักใช้ดาวอาทิตย์(๑)พยากรณ์ว่าเหตุการณ์นั้นจะเกิดในช่วงเดือนใด ในที่นี้คือประมาณกลางเดือนพฤษภาคมถึงกลางเดิอนมิถุนายน เรียกได้ว่าดาวอาทิตย์เป็นตัวซ้ำเติมเหตุการณ์นั่นเอง

ดาวจันทร์(๒) โคจรในราศีกันย์ กุมดาวพฤหัส(๕)ซึ่งกำลังให้โทษในตำแหน่งประ และดาวพฤหัส(๕)ยังเป็นดาวเจ้าเรือนอริของราศีกรกฎอีกด้วย พยากรณ์ว่าจะมีเรื่องมงคล เรื่องดีๆเกิดขึ้น แต่พระองค์ท่านคงไม่ทรงอยากรับนัก นั่นคือการรับทูลเชิญขึ้นเถลิงถวัลยราชสมบัติเป็นพระมหากษัตริย์องค์ที่ ๙ แห่งราชวงศ์จักรี

ภาพจากวิกิพีเดีย

ทรงหมั้น


หลังจากที่พระองค์ท่านทรงเผชิญกับเหตุการณ์ร้ายๆมาตลอด ในที่สุดก็ถึงเวลาที่พระองค์ท่านจะเริ่มมีความสุขเสียที โดยทรงหมั้นกับหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ กิติยากร ในวันที่ ๑๙ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๙๒ 

ดวงจรวันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2492
โดยหลักเกณฑ์การพยากรณ์เรื่องการแต่งงาน การมีคู่ครอง ในทางโหราศาสตร์แล้ว ไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไร โหรมักดูจากดาวพฤหัส(๕)เป็นหลักครับ เรามาดูรูปดวงจรกันว่าเป็นอย่างไร

ดาวมฤตยู(๐) โคจรในราศีเมถุน สถิตภพวินาสน์ ในช่วงเวลานี้ นับได้ว่าเหตุเภทภัยต่างๆได้สงบความเลวร้ายลงไป

ดาวพฤหัส(๕) โคจรในราศีมังกร สถิตภพปัตนิ ให้โทษในตำแหน่งนิจ แต่เมื่อดูมุมสัมพันธ์กับพระลัคนา ดาวอาทิตย์(๑) และดาวจันทร์(๒)แล้ว กลับอยู่ในตำแหน่งที่ดีเรียกว่าดวงแบบ "จันทร์ คุรุ สุริยา"

ในตอนนี้พอจะจับสังเกตกันได้แล้วนะครับว่า ดาวมฤตยู(๐)นั้นส่งผลกับพระลัคนาของพระองค์ท่านอย่างมีนัยสำคัญเพียงใด แต่เชื่อมั๊ยครับว่าพระองค์ท่านก็ทรงทราบในข้อสังเกตนี้เหมือนกัน คราวหน้าเป็นตอนสุดท้ายที่ผมจะบอกว่าพระองค์ท่านทรงแก้ไขอย่างไร เผื่อว่าพวกเราที่กำลังประสบปัญหานี้อยู่ จะได้นำหลักการนี้ไปปฏิบัติตามรอยพระบาทกันต่อไปครับ





วันอาทิตย์ที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

พระอัจฉริยภาพทางด้านโหราศาสตร์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 และดวงพระชะตา (ตอนที่ 2)

คราวที่แล้วผมได้อธิบายถึงพระอัจฉริยภาพทางด้านโหราศาสตร์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ไปแล้ว โดยการยกตัวอย่างจากบทพระราชนิพนธ์ "พระมหาชนก" ซึ่งผมเห็นว่าเด่นชัดที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องที่พระองค์ท่านได้บอกเป็นนัยอะไรบางอย่างว่า พระองค์ท่านนั้นมีพระลัคนาสถิตราศีกรกฎ

จะจริงหรือเท็จประการใดผมขออนุญาตวิเคราะห์ดวงพระชะตาให้ท่านทั้งหลายดูว่า ที่พระองค์ท่านทรงบอกเป็นนัยนั้น สมเหตุสมผลหรือไม่

ดวงพระชะตากำเนิดพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙


ผมขอใช้พระบรมฉายาลักษณ์และพระราชประวัติจากวิกิพีเดียเจ้าประจำของผมที่ "พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช" และขอขอบพระคุณมา ณ โอกาสนี้ครับ

พระองค์ทรงพระราชสมภพ ณ โรงพยาบาลเมาต์ออเบิร์น เมืองเคมบริดจ์ รัฐแมสซาชูเซตส์ สหรัฐอเมริกา เมื่อวันจันทร์ เดือนอ้าย ขึ้น 12 ค่ำ ปีเถาะ นพศก จุลศักราช 1289 ตรงกับวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2470 ส่วนเวลานั้นผมตรวจดูจากหลายๆแหล่งบอกตรงกันว่าทรงพระราชสมภพเวลา 8 นาฬิกา 45 นาที เป็นเวลาท้องถิ่นประเทศอเมริกาที่กล่าวข้างต้น

เนื่องจากการคำนวณสมผุสของดวงดาวต่างๆตามคัมภีร์สุริยยาตรที่ผมใช้อยู่ จะใช้เวลาของประเทศไทย ดังนั้นการคำนวณหาพระลัคนาของพระองค์ท่านตลอดจนสมผุสต่างๆ ผมจำเป็นต้องแปลงเวลาท้องถิ่นอเมริกามาเป็นเวลาประเทศไทย

การแปลงเวลานั้น ผมเทียบจากเวลามาตรฐานเมืองกรีนิซ ซึ่งเขตเวลารัฐแมสซาชูเซตส์จะช้ากว่าเวลามาตรฐานประเทศไทยอยู่ 11 ชั่วโมง 

ดังนั้นในขณะที่ทรงพระราชสมภพเาลา 8:45 นั้น เวลาประเทศไทยจะเป็น 19:45 ครับ เมื่อคำนวณตามเวลาที่แปลงเรียบร้อยแล้วจะได้รูปดวงพระชะตาดังนี้

ดวงพระชะตาพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ ๙
วันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ.๒๔๗๐ เวลา ๘ นาฬิกา ๔๕ นาที
รัฐแมสซาชูเซตส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา

เมื่อพิจารณาตามเกณฑ์มาตรฐานของโหราศาสตร์ไทยแล้ว จะได้ดังรูปต่อไปนี้

ตารางแสดงเกณฑ์ต่างๆของดวงพระชะตา

ถ้าให้ผมดูแบบเร็วๆแล้ว ผมไม่เห็นดาวดวงใดของพระองค์ไปสถิตในตำแหน่งทุสถานภพเลยแม้แต่ดวงเดียว เพียงเท่านี้ก็สามารถบอกได้คร่าวๆแล้วครับว่า เป็นดวงของบุคคลที่มักจะประสบความสำเร็จและยิ่งใหญ่ได้อย่างไม่ยากเย็น คราวนี้มาวิเคราะห์กันตามหลักเกณฑ์ของโหราศาสตร์โดยละเอียดกันนะครับ ว่าพระองค์ทรงเป็นราชันย์แห่งกษัตริย์ทั้งปวงได้อย่างไร

1. พระลัคนาสถิตราศีกรกฎ ได้เกณฑ์ปัญจมหาบุรุษโยค พระองค์ท่านจึงทรงมีบุคลิกภาพเป็นที่น่ารักใคร่แก่ผู้พบเห็น เป็นผู้ที่มีความอ่อนน้อม สุภาพเรียบร้อย รักถิ่นที่พำนักอาศัย พระองค์ทรงมีพระราชอำนาจมากมาย และพระองค์ทรงเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงที่สุดในบรรดาราชวงศ์ของพระมหากษัตริย์จากประเทศต่างๆทั่วโลก

2. ดาวเจ้าเรือนลัคนาราศีกรกฎคือดาวจันทร์(๒) ได้ตำแหน่งมหาจักร ซึ่งหมายถึงความมีฤทธิ์มีเดช เมื่อสถิตอยู่ในตำแหน่งเด่นเช่นนี้ จึงยิ่งทำให้พระองค์ท่านเป็นบุคคลที่มีเสน่ห์ เป็นที่รักแก่บุคคลทั่วไป ในขณะเดียวกันก็มีอำนาจบารมีเป็นที่เคารพยำเกรงอีกด้วย

3. ดาวเจ้าเรือนลัคนาคือดาวจันทร์(๒)สถิตภพกัมมะในดวงพระชะตา ทำให้พระองค์ท่านทรงมีพระราชกรณียกิจอยู่ตลอดเวลา แม้ว่าจะกำลังทรงพระประชวรอยู่ก็ตาม เราจะเห็นได้ว่าตลอดรัชกาลของพระองค์ ไม่มีวันใดเลยที่พระองค์ทรงว่างจากพระราชกรณียกิจ แม้ในขณะที่พระองค์ท่านทรงงานอดิเรก พระองค์ท่านก็ยังทรงนำงานนั้นมาเป็นส่วนหนึ่งของพระราชกรณียกิจ ไม่ว่าจะเป็น ดนตรี กีฬา ทรงพระอักษร หรืองานวิจัยต่างๆ

4. ดาวอังคาร(๓)เจ้าเรือนกัมมะสถิตภพปุตตะในราศีพิจิกได้ตำแหน่งเกษตร พระราชกรณียกิจที่พระองค์ทรงได้ทำจึงมักเป็นงานที่ยิ่งใหญ่ มีคุณค่า และเป็นประโยชน์อย่างสูงสุด พระราชกรณียกิจของพระองค์ท่านจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับพสกนิกรของพระองค์แทบทั้งสิ้น

5. ดาวอังคาร(๓)เจ้าเรือนปุตตะสถิตภพปุตตะในราศีพิจิกได้ตำแหน่งเกษตร กุมดาวอาทิตย์(๑) ดาวพุธ(๔)และดาวเสาร์(๗)ได้ตำแหน่งพินทุบาทว์ ที่เรือนปุตตะนี้เองที่ทำให้พระองค์ท่านทรงมีความทุกข์ในพระราชหฤทัยอย่างแสนสาหัส เนื่องจากพสกนิกรของพระองค์มีหลายจำพวก แต่ละจำพวกก็มีความโดดเด่นในตัวเอง จึงมักเกิดการชิงดีชิงเด่นกันเองจนก่อให้เกิดเหตุการณ์ความวุ่นวายหลายครั้งหลายหนในรัชสมัยของพระองค์  แต่ในขณะเดียวกันพระราชการณียกิจนั้นๆก็เป็นสิ่งที่ทำให้ชื่อเสียงของพระองค์ท่านขจรขจายไปทั่วทั้งโลก

6. ดาวอาทิตย์(๑)เจ้าเรือนกดุมภะ ดาวพุธ(๔)เจ้าเรือนวินาสน์และสหัสชะ ดาวเสาร์(๗)เจ้าเรือนปัตนิสถิตภพปุตตะได้ตำแหน่งพินทุบาทว์ ทำให้พระองค์ทรงนำทรัพยากรของพระองค์หลายสิ่งหลายอย่างเข้ามาช่วยเหลือพสกนิกรของพระองค์ ไม่ว่าจะเป็น ทรัพย์สินเงินทองส่วนพระมหากษัตริย์ การสื่อสาร การโฆษณาประชาสัมพันธ์ หรือแม้กระทั่งการที่พระบรมราชินีนาถทรงดำเนินโครงการต่างๆเพื่อสนับสนุนพระราชกรณียกิจของพระองค์ท่านด้วย

7. ดาวศุกร์(๖)สถิตราศีตุลย์ ได้ตำแหน่งเกษตร และได้อัมพุเกณฑ์ ดาวศุกร์(๖)นี้เป็นดาวเด่นที่สุดในดวงพระชะตาเนื่องจากไม่มีดาวดวงใดมากุมแล้วทำให้เกิดผลเสีย  พระองค์จึงทรงมีความเป็นศิลปินในตัวเองอย่างสูง พระองค์ทรงมีพระปรีชาสามารถหลายๆด้านเช่น ทรงดนตรีได้แทบทุกชนิด ทรงแต่งบทเพลงพระราชนิพนธ์ที่มีความไพเราะเข้ากับเหตุการณ์ได้ทุกยุคทุกสมัย ทรงพระราชนิพนธ์ทั้งร้อยแก้วและร้อยกรองไว้มากมายรวมถึงภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ที่ช่างภาพมืออาชีพบางรายยังมิอาจเทียบได้

8. ดาวศุกร์(๖)เจ้าเรือนลาภะสถิตราศีตุลย์ ได้ตำแหน่งเกษตร พระองค์ท่านประสบความสำเร็จอย่างสูงสุดในรัชสมัยของพระองค์ไม่ว่าจะทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจอะไรก็แล้วแต่ อันเจ้าเรือนลาภะนี้ อีกความหมายหนึ่งก็คือ พี่ชายหรือพี่สาว พระองค์จึงทรงมีพระเชษฐาที่ยิ่งใหญ่เช่นกันซึ่งก็คือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 8 นั่นเอง

9. ดาวศุกร์(๖)เจ้าเรือนพันธุสถิตราศีตุลย์ ได้ตำแหน่งเกษตร หมายถึงพระองค์ทรงมีพระราชชนนีที่ยิ่งใหญ่เช่นกันตามที่ได้ทราบกันดี และจากพระราชประวัติของพระองค์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 7 ได้ทรงพระราชทานตั้งชื่อให้แด่พระองค์ว่า "ภูมิพล" ซึ่งหมายถึงพลังแห่งแผ่นดินนั้น มีที่มาอย่างไร ผมขออนุญาตสันนิษฐานตามหลักการแห่งโหราศาสตร์ดังนี้

ในสมัยก่อน การตั้งชื่อในราชวงศ์ มักใช้ตำราโหราศาสตร์หรือตำราทักษามาช่วยเพื่อให้เป็นสิริมงคลแก่ดวงพระชะตามากที่สุด สำหรับพระองค์ก็เช่นกัน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 7 ได้ทรงนำทั้งโหราศาสตร์และทักษามาเป็นหลักพิจารณา ซึ่งถ้าเราดูผมว่าไม่ใช่เรื่องบังเอิญอย่างแน่นอน

เมื่อมีดาวเด่นที่สุดในเรือนพันธุ ซึ่งหมายถึงที่ดิน บ้าน วงศ์ตระกูล ดังนั้นควรตั้งชื่อให้มีความหมายตามเรือนพระชะตาที่เด่นนี้

พระองค์เสด็จพระราชสมภพในวันจันทร์ เมื่อตั้งชื่อโดยใช้หลักทักษาที่ให้ความหมายถึงที่ดิน ก็จะใช้อักษรของวรรคมูละ อันได้แก่อักษร บ ป ผ ฝ พ ฟ

ตามกฎเกณฑ์ดังกล่าวข้างต้น พระองค์จึงทรงมีพระนามว่า "ภูมิพล" โดยความเป็นสิริมิ่งมงคลนี้ ผมคงปฏิเสธไม่ได่ว่า พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 7 ก็ทรงมีพระปรีชาสามารถทางด้านโหราศาสตร์ชนิดที่ทรงสามารถเป็นพระโหราจารย์อีกท่านหนึ่งได้เลยทีเดียว

10. ดาวพฤหัส(๕)เจ้าเรือนอริและเจ้าเรือนศุภะ สถิตภพศุภะ ได้ตำแหน่งเกษตร กุมดาวมฤตยู(๐) พระองค์ทรงมีคุณธรรมอันสูงส่งดังจะเห็นได้จากพระองค์ทรงอยู่ในทศพิธราชธรรม ในขณะเดียวกัน พระองค์ทรงมีพระปรีชาสามารถทางด้านต่างประเทศ หรือแม้กระทั่งทางด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีสมัยใหม่ และเรือนศุภะนี้หมายถึงพระบรมราชชนก พระองค์จึงทรงมีพระบรมราชชนกที่มีพระปรีชาสามารถเช่นกัน แต่เป็นที่น่าเสียดาย เนื่องจากดาวพฤหัส(๕)นี้คือเจ้าเรือนอริ และยังถูกกุมด้วยดาวมฤตยู(๐) จึงทำให้พระบรมราชชนกของพระองค์สิ้นพระชนม์ในขณะที่มีพระชนมายุยังน้อยอยู่

11. ดาวราหู(๘)เจ้าเรือนมรณะ สถิตภพลาภะ ในตำแหน่งนิจ พระองค์ทรงประสบความสำเร็จจากการที่ต้องสูญเสียบางสิ่งบางอย่างไป ซึ่งเรือนลาภะนี้หมายถึงพระเชษฐาของพระองค์อีกด้วย นั่นหมายถึงการที่พระองค์ทรงเสด็จขึ้นครองราชย์แต่ก็ต้องสูญเสียพระเชษฐาไปอย่างไม่มีวันกลับ


มาถึง ณ จุดนี้ ผมเองค่อนข้างแน่ใจว่าพระลัคนาของพระองค์สถิต ณ ราศีกรกฎอย่างแน่นอน แต่เพื่อความมั่นใจ ผมขอบรรยายต่อในครั้งต่อไปในเรื่องของการวิเคราะห์ดวงจรโดยใช้พระลัคนานี้ ว่าจะมีความแม่นยำเป็นประการใด






วันอาทิตย์ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2559

พระอัจฉริยภาพทางด้านโหราศาสตร์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 และดวงพระชะตา (ตอนที่ 1)

จากเหตุการณ์สวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ในวันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2559 เวลา 15 นาฬิกา 52 นาที ได้ยังความเศร้าโศกเสียใจเป็นอันมากแก่ประชาชนทั้งประเทศ เป็นสิ่งที่แทบทุกคนไม่คาดคิดและไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจกันล่วงหน้า แต่ถึงจะเตรียมตัวเตรียมใจกันไว้แล้วก็ตาม ก็ยังอดที่จะใจหายไม่ได้

สำหรับผมเอง ต้องยอมรับว่าได้แอบตรวจสอบดวงพระชะตาไว้ก่อน และได้เตรียมใจไว้ล่วงหน้าแล้ว เพียงแต่ช่วงเวลาไม่ได้เป็นไปอย่างที่ดูไว้ว่าน่าจะเป็นปีพ.ศ.2560 ซึ่งกว่าจะถึงก็ยังอีกหลายเดือน แต่เหตุการณ์เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและกระทันหัน ทำให้ผมเกิดความรู้สึกไม่ต่างจากประชาชนทั้งประเทศครับ

อย่างไรก็ตาม พวกเราทั้งหลายก็ยังคงต้องดำเนินชีวิตกันต่อไปตามแต่บุญแต่กรรมของแต่ละคน และผมขอถือโอกาสนี้ นำเสนอพระอัจฉริยภาพทางด้านโหราศาสตร์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 เพื่อให้ทราบว่า วิชาโหราศาสตร์นั้น ไม่ได้มีการศึกษาเฉพาะประชาชนทั่วไปเท่านั้น แม้แต่บุคคลชั้นสูงก็ได้มีการศึกษากันอย่างแพร่หลายด้วยเช่นกัน

และขออัญเชิญดวงพระชะตาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 มาเป็นกรณีศึกษาสำหรับบุคคลที่เกิดในต่างประเทศจะใช้โหราศาสตร์ไทยดูดวงได้หรือไม่และอย่างไร ที่สำคัญเป็นอย่างยิ่งคือ ผมขอมีความเห็นต่างจากโหราจารย์หลายๆท่านในเรื่องของพระลัคนาของพระองค์ท่านครับ

พระอัจฉริยภาพทางด้านโหราศาสตร์ไทย


บอกตามตรง ผมไม่ทราบว่าพระองค์ท่านเริ่มศึกษาโหราศาสตร์ตั้งแต่เมื่อไร และทรงศึกษาจากสถาบันใดหรือโหราจารย์ท่านใดกันแน่ แต่ผมคะเนเอาจากรูปที่ท่านอาจารย์สิงห์โต สุริยาอารักษ์ ได้ถวายหนังสือโหราศาสตร์ไทยแด่พระองค์ท่าน ไม่น่าจะต่ำกว่า40-50ปีผ่านมาแล้ว ผมเชื่อมั่นว่าพระองค์ท่านคงได้ทรงเปิดอ่านไม่มากก็น้อย เพราะพระองค์ท่านทรงสนใจทุกสิ่งทุกอย่างที่พสกนิกรของท่านกำลังทำอยู่ และมักจะทรงช่วยพัฒนาให้ดีขึ้นอยู่เสมอ




สิ่งที่สะท้อนถึงพระอัจฉริยภาพทางด้านโหราศาสตร์ที่เห็นได้อย่างชัดเจนที่สุดคือบทพระราชนิพนธ์เรื่อง "พระมหาชนก" ในปีพ.ศ.2531 ซึ่งในขณะนั้นยังไม่เป็นที่แพร่หลาย พระองค์จึงได้ทรงให้ช่างวาดภาพประกอบในปีพ.ศ.2539 จนมาถึงฉบับการ์ตูนในปีพ.ศ.2542 ซึ่งประสบความสำเร็จมากที่สุดเนื่องจากมีผู้นิยมอ่านเป็นจำนวนมาก ทำให้ผมได้มีโอกาสเห็นภาพประกอบที่เป็นรูปดวงในขณะที่พระมหาชนกได้ทำความเพียรอย่างบริสุทธิ์ด้วยการว่ายน้ำในมหาสมุทรไปยังเมืองมิถิลา


   

จะเห็นได้ว่าพระองค์ท่านทรงนำความรู้ทางด้านโหราศาสตร์ไปประยุกต์ให้เข้ากับอุทกศาสตร์หรืออุตุนิยมวิทยา เพื่อพยากรณ์สภาพอากาศได้อย่างกลมกลืน ที่สำคัญคือ พระองค์ท่านไม่ได้ทรงใช้โหราศาสตร์อย่างงมงาย ทรงใช้เพื่อประโยชน์ในการทรงงานอย่างมีเหตุมีผลและเป็นประโยชน์กับผู้อื่นรวมถึงพระองค์ท่านเองด้วย

จากรูปดวงที่เป็นภาพประกอบ ผมได้ลองพิจารณาแล้ว เห็นว่าน่าจะเป็นช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม ปีพ.ศ.2537 ซึ่งเป็นช่วงที่พระองค์ท่านทรงกำลังเตรียมภาพประกอบ สังเกตได้ง่ายๆก็คือ ดาวอาทิตย์( ๑ หรือ 1 )สถิตราศีเมษ ดาวพฤหัส( ๕ หรือ 5 )สถิตราศีตุลย์หรือปีจอนั่นเอง

นอกจากโหราศาสตร์ไทยแล้ว พระองค์ท่านยังทรงใช้ความรู้ทางด้านทักษา (ซึ่งผมขอแยกออกมาจากวิชาโหราศาสตร์เนื่องจากหลักการและวิธีการไม่เกี่ยวข้องกับดวงดาวบนท้องฟ้า) มาใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันอีกด้วย

ตัวอย่างเช่น การที่พระองค์ท่านเลือกฉลองพระองค์สีชมพูหลังจากที่ทรงได้รับการรักษาจากโรงพยาบาลศิริราช

เนื่องจากพระองค์ท่านทรงประสูติในวันจันทร์(สีเหลือง) ตามหลักทักษาแล้ว วันอังคาร(สีชมพู)ก็คือสุขภาพร่างกายของผู้ที่เกิดวันจันทร์ ดังนั้นพระองค์ท่านจึงทรงเลือกฉลองพระองค์สีชมพูดังกล่าวแล้ว เพื่อความเป็นสิริมงคลกับพระวรกายและพระพลานามัยของพระองค์เอง

ที่ผมกล่าวมานี้ แสดงให้เห็นว่าพระองค์ท่านทรงมีพระปรีชาสามารถทางด้านวิชาโหราศาสตร์เป็นอย่างดีเลยทีเดียว และยังทรงพระปรีชาสามารถในการพัฒนาเพื่อให้เหมาะสมกับความเป็นสากล โดยสังเกตได้จากรูปดวงในบทพระราชนิพนธ์ข้างต้น จะไม่ทรงใช้ตัวเลขไทย แต่จะทรงใช้ตัวเลขอารบิกแทน เนื่องจากพระองค์ต้องการสื่อให้ผู้อ่านที่ไม่เข้าใจภาษาไทยได้เข้าใจด้วย (มีบทภาษาอังกฤษคู่กับภาษาไทยในบทพระราชนิพนธ์)


 


เรื่องสำคัญอีกเรื่องหนึ่งที่ผมสันนิษฐานว่า พระองค์ทรงต้องการสื่ออะไรบางอย่างในวิชาโหราศาสตร์ อันมิอาจละเลยได้ สิ่งที่พระองค์ท่านทรงสื่อออกมาให้ได้เห็นก็คือเรื่องเกี่ยวกับ ปูทะเลยักษ์ ครับ ทำไมอยู่ๆในบทพระราชนิพนธ์จึงได้ทรงแทรกเรื่องนี้ขึ้นมา ?

อย่างที่ทราบกันดีว่า ปู เป็นสัญลักษณ์ของราศีกรกฎ แล้วราศีกรกฎเกี่ยวกับอะไรกับพระองค์ท่านครับ คำตอบคือ ราศีกรกฎเป็นที่สถิตของพระลัคนาของพระองค์นั่นเอง

นี่เป็นพระอัจฉริยภาพที่แท้จริงของพระองค์ท่าน คือพระองค์ท่านทรงเข้าใจดีว่า ในทางโหราศาสตร์นั้น ตัวตนที่แท้จริงของแต่ละบุคคลคือ ลัคนา อันจะนำไปสู่การพยากรณ์เรื่องราวต่างๆได้อย่างแม่นยำครับ

พระองค์ท่านทรงนำพระลัคนาของพระองค์มาใช้ในการดำเนินเรื่องส่วนหนึ่งได้อย่างชาญฉลาด เพื่อให้ผู้อ่านได้ติดตามเรื่องราวบทพระราชนิพนธ์ได้อย่างสนุกสนานมากขึ้น

แต่อาจมีบางท่านที่มีความรู้ทางด้านโหาราศาสตร์ เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้แล้วอาจไม่เชื่อผมก็ได้ ผมก็เลยจะขออัญเชิญดวงพระชะตาของพระองค์ท่านมาให้วิเคราะห์กันดูว่าน่าจะเป็นตามที่ผมบอกหรือไม่ ในตอนต่อไป


วันอาทิตย์ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2559

พิเภกพยากรณ์ดวงชะตาประจำปี 2560

"พิเภกพยากรณ์ดวงชะตา ประจำปี 2560" มาให้ท่านผู้อ่านได้ตรวจดวงชะตากันอีกครั้ง ในครั้งนี้ขอบอกล่วงหน้าว่า เรื่องราวต่างๆโดยส่วนใหญ่อาจดูไม่ค่อยโสภาสถาพรนัก เนื่องจากดาวใหญ่ดวงหลักทั้งสามดวง อันได้แก่ดาวพฤหัส(๕) ดาวเสาร์(๗) และดาวราหู(๘) ท่านโคจรอยู่ในตำแหน่งให้โทษพร้อมๆกันในช่วงประมาณครึ่งปีแรก แต่จะให้โทษในเรื่องอะไรนั้น ต้องมาดูกันและขอย้ำว่าระวังตัวกันให้ดีๆนะครับ

เช่นเคยครับ ยังไงก็ขอทำความเข้าใจกับผู้อ่านหน้าใหม่ไว้ก่อนดังนี้

ก่อนอื่นผมขออธิบายก่อนว่า บทความพยากรณ์นี้จะแม่นยำหรือไม่นั้น ขึ้นกับปัจจัยต่อไปนี้

๑. ลัคนา เป็นลัคนาของคุณจริงๆใช่หรือไม่ บอกคร่าวๆว่า ต้องใช้เวลาตกฟากมาคำนวณด้วย ถ้าอยากทราบความหมายที่แท้จริง คลิกอ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่ เรื่องของ"ลัคนา" และถ้าต้องการให้ผมช่วยคำนวณหาลัคนาให้ มีกติกาง่ายๆคือ กดไลค์ในเพจ "โหรพิเภก" ที่ www.facebook.com/astrologer.pipek แล้วแจ้งข้อมูลวันเดือนปีเกิด เวลาตกฟากและจังหวัดเกิดมาด้วยครับ

๒. สมผุสดาว ในตอนเกิด คุณมีดาวอาทิตย์ จันทร์ ... เสาร์และราหูสถิตอยู่ ณ ราศีใด เพราะสิ่งนี้เป็นสิ่งที่จะช่วยในการพยากรณ์อย่างละเอียดเป็นรายบุคคลไป แต่คำพยากรณ์ในบทความนี้จะเป็นเรื่องราวในภาพรวมแค่เพียงบางส่วน โดยใช้สมผุสดาวในปี 2559 สัมพัทธกับลัคนาเท่านั้น ถ้าคุณต้องการการพยากรณ์โดยละเอียด คงต้องหาเวลาไปปรึกษาโหรให้เป็นเรื่องเป็นราวแล้วล่ะครับ ส่วนเรื่องของสมผุสดาวคืออะไรนั้น ตามไปคลิกอ่านกันได้ที่ เรียนโหราศาสตร์ไทยเบื้องต้นแบบเป็นเร็ว ตอนที่ 2


ในตอนนี้เรามาเริ่มตรวจดวงชะตาประจำปี 2560 กันได้แล้วครับ


ราศีเมษ (Aries)

เหตุการณ์ทั่วไป (Eventuality)
นอกจากบุตรบริวารที่คุณยังคงจะต้องคอยดูแลเอาใจใส่ให้ดีแล้ว ปีนี้ยังเป็นปีที่คุณจะต้องเอาใจใส่ญาติผู้ใหญ่เพิ่มขึ้นมาอีกด้วย รถรา บ้านช่องห้องหอก็ต้องซ่อมแซม บำงรุงรักษาให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้อยู่ตลอดเวลา เป็นปีที่เหนื่อยยากสำหรับคุณอีกหนึ่งปีเลยละครับ

อุปสรรคขวากหนาม ศัตรูคู่ขัดแย้ง ก็ยังทำให้รำคาญใจอยู่ แต่ยังพอมีโชคเข้าข้างคุณอยู่ ทำให้ผ่านพ้นไปได้ แต่ไม่ควรเกินสิงหาคมนี้

หนึ่งเดียวที่พอจะทำให้คุณมีความสุขได้ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีก็คือการได้ร่วมหุ้นลงขันกับใครสักคนที่ค่อนข้างไว้ใจได้ รวมถึงคู่ครองของคุณเองด้วยนะครับ

การงาน (Duty)
ตั้งแต่มกราคมถึงมีนาคม และสิงหาคมถึงพฤศจิกายน เป็นโค้งสุดท้ายของการโยกย้ายหรือเปลี่ยนแปลงหน้าที่การงานครับ คุณยังคงต้องทำงานแบบ one man show เนื่องเพราะครึ่งปีแรก ลูกน้องยังเป็นปัญหาสร้างความเดือดเนื้อร้อนใจให้อย่างสม่ำเสมอ พอช่วงครึ่งปีหลัง เจ้านายก็มาพาลเอากับคุณอีก

การเงิน (Revenue)
ยังเป็นปีที่จะต้องเข้มงวดในเรื่องรายรับรายจ่ายอีกปีหนึ่ง อาจเนื่องมาจากการงานที่ดูยังไม่ลงตัวเท่าไหร่ เผลอๆบางท่านอาจต้องยอมเสียสินทรัพย์ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ออกไปเพื่อลดภาระในการดูแลรักษา เรียกว่ายอมเสียอวัยวะเพื่อรักษาชีวิตกันเลยทีเดียว

ความรัก (Affection)
กุมภาพันธ์ มีนาคม และตั้งแต่กันยายนถึงสิ้นปี เป็นช่วงเวลาที่มีโอกาสร่วมหอลงโรงสำหรับผู้ที่กำลังคบหาดูใจกันอยู่ สำหรับผู้ที่มีครอบครัวแล้ว คู่ครองของคุณจะทำให้คุณมีความสุขมากขึ้น มีเรื่องที่ต้องระมัดระวังกันหน่อยคือเขาหรือเธอจะมีคนมาวอแวด้วยโดยไม่ได้ตั้งใจไม่ต้องตกอกตกใจไปครับ ยังไงคุณก็เหนือกว่า


ข้อพิจารณาทางโหราศาสตร์ (Consideration)
ดาวเสาร์(๗)    - ให้คุณในภพมรณะ (1 มกราคม - 23 มีนาคม และ 15 สิงหาคม - 1 ธันวาคม)
                       - ชะลอการให้คุณในภพมรณะ (18 เมษายน - 15 สิงหาคม)
                       - ให้โทษในภพศุภะ (23 มีนาคม - 11 เมษายน และ 1 - 31ธันวาคม)
                       - ชะลอการให้โทษในภพศุภะ (11 - 18 เมษายน)
ดาวราหู(๘)     - ให้โทษในภพปุตตะ (1 มกราคม - 4 สิงหาคม)
                       - ให้โทษในภพพันธุ (4 สิงหาคม - 31 ธันวาคม)
ดาวพฤหัส(๕) - ให้โทษในภพอริ (1 มกราคม - 12 มกราคม)
                       - ชะลอการให้โทษในภพอริ (12 มีนาคม - 17 มิถุนายน)
                       - ให้โทษในภพอริ (17 มิถุนายน - 6 กันยายน)
                       - ให้คุณในภพปัตนิ (12 มกราคม - 6 กุมภาพันธ์)
                       - ชะลอการให้คุณในภพปัตนิ (6 กุมภาพันธ์ - 12 มีนาคม)

                       - ให้คุณในภพปัตนิ (6 กันยายน - 31 ธันวาคม)



ราศีพฤษภ (Taurus)

เหตุการณ์ทั่วไป (Eventuality)
ภายในเดือนสิงหาคม เรื่องของญาติผู้ใหญ่ที่คุณกำลังเอาใจใส่ดูแลกำลังจะจบลง แต่สำหรับผู้หลักผู้ใหญ่ที่สนับสนุนช่วยเหลือคุณอยู่กลับกำลังจะถอยห่างจากคุณไปเริ่มจากปลายปีนี้ แต่ก็ดีไปอย่าง ตรงที่ความเครียดของคุณจะลดลงไป

บ้านช่อง รถรา ที่ซ่อมแซมบำรุงรักษากันมา ก็จะค่อยๆหมดภาระกันไป บางอย่างอาจจะถึงกับหมดอายุขัยไปเลยก็มี โดยเฉพาะครึ่งปีหลัง การไปมาหาสู่จะเป็นไปอย่างยากลำบาก ทำให้เพื่อนฝูงบางคนจำเป็นต้องห่างหายกันไป แต่คนที่ห่างๆกันไปนั้น อาจห่างกันด้วยสาเหตุอื่นที่สำคัญคือ เรื่องปากของคุณนั่นเอง

ครึ่งปีหลัง ให้ระวังเรื่องคู่ขัดแย้งของคุณให้ดีๆ เพราะเขากำลังทำตัวบดบังรัศมีของคุณอยู่ ปล่อยเขาไปเถอะครับ อย่าไปเปลืองตัวกับเขาเลยเพราะคุณกำลังเสียเปรียบ

การงาน (Duty)
ปีนี้ไม่ใช่ปีของคุณครับ บอกเลย เพราะงานที่ได้มักจะเป็นงานที่ไม่ได้สลักสำคัญอะไร แถมจะเป็นงานที่ทำให้คุณต้องเดือดร้อนด้วยซ้ำ การประสบความสำเร็จเป็นไปได้ยากยิ่ง หรือประสบความสำเร็จแค่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น บริวารที่ทำท่าว่าจะพึ่งพาได้ก็ไม่เป็นไปอย่างที่หวังไว้ เห็นแล้วเหนื่อยแทนจริงๆครับ

การเงิน (Revenue)
ปลายปีนี้คงต้องระวังเรื่องการจับจ่ายใช้สอยกันหน่อยนะครับ เนื่องจากก่อนหน้านั้นคุณอาจลงทุนลงขันกับใครบางคนแต่ผลตอบแทนอาจมาช้าไปบ้างจนชักหน้าไม่ถึงหลัง หรือไม่ก็คู่ครองของคุณเองนั่นแหละที่เป็นสาเหตุ เรื่องนี้ยาวเป็นหนังดราม่าเลยครับ

ความรัก (Affection)
สิงหาคมคือจุดสิ้นสุดของความทุกข์ความเครียดที่มีมาอย่างยาวนาน อดทนกันมาได้ตั้งนานก็อยู่กันต่อไปเถอะครับ เพราะที่ผ่านมาก็แสดงว่าคุณมีความอึดอย่างมากมาย แต่สำหรับบางคู่ที่อยู่ร่วมกันไม่ได้จริงๆ การแยกทางกันก็จะเป็นประโยชน์มหาศาลกับคุณเช่นเดียวกัน


ข้อพิจารณาทางโหราศาสตร์ (Consideration)
ดาวเสาร์(๗)    - ให้คุณในภพปัตนิ (1 มกราคม - 23 มีนาคม และ 15 สิงหาคม - 1 ธันวาคม)
                       - ชะลอการให้คุณในภพปัตนิ (18 เมษายน - 15 สิงหาคม)
                       - ให้โทษในภพมรณะ (23 มีนาคม - 11 เมษายน และ 1 - 31ธันวาคม)
                       - ชะลอการให้โทษในภพมรณะ (11 - 18 เมษายน)
ดาวราหู(๘)     - ให้โทษในภพพันธุ (1 มกราคม - 4 สิงหาคม)
                       - ให้โทษในภพสหัสชะ (4 สิงหาคม - 31 ธันวาคม)
ดาวพฤหัส(๕) - ให้โทษในภพปุตตะ (1 มกราคม - 12 มกราคม)
                       - ชะลอการให้โทษในภพปุตตะ (12 มีนาคม - 17 มิถุนายน)
                       - ให้โทษในภพปุตตะ (17 มิถุนายน - 6 กันยายน)
                       - ให้คุณในภพอริ (12 มกราคม - 6 กุมภาพันธ์)
                       - ชะลอการให้คุณในภพอริ (6 กุมภาพันธ์ - 12 มีนาคม)

                       - ให้คุณในภพอริ (6 กันยายน - 31 ธันวาคม)



ราศีเมถุน (Gemini)

เหตุการณ์ทั่วไป (Eventuality)
ส่วนใหญ่แล้วก็ยังเป็นอีกปีหนึ่งที่ดูราบรื่น อุปสรรคต่างจะถูกแก้ไขให้หมดไปได้อย่างดาย ผู้ที่เคยเป็นคู่ขัดแย้งกับคุณ ก็จะแสดงความเป็นมิตรด้วย หรือหันกลับมาคืนดีกับคุณจนคุณต้องแปลกใจ แต่มันก็อาจทำให้คุณขาดความรอบคอบและความอดทนไป ทั้งนี้ไม่เกินพฤศจิกายนนะครับ

ไม่เกินเดือนสิงหาคมนี้ เรื่องที่ต้องระมัดระวังคือเรื่องการเจรจาติดต่อสื่อสารที่ไม่ต่อเนื่องและประสบผลสำเร็จได้ยาก รวมทั้งเพื่อนฝูงใกล้ชิดที่อาจจะต้องเหินห่างกันชั่วคราว

และไม่เกินกันยายนนี้ คุณยังต้องระวังเรื่องของบุพการีที่ควรจะต้องเอาใจใส่ดูแลกันเป็นพิเศษ เรื่องของทรัพย์สินสิ่งของต่างๆที่ผ่านการใช้งานมานาน เมื่อถึงเวลาก็ควรจะบำรุงรักษาให้ใช้งานได้ จะได้อยู่ให้ใช้งานได้นานๆ

การงาน (Duty)
จะได้สานงานต่อจากปีก่อนซึ่งไม่ใช่งานที่ใหญ่โตอะไรและอาจเป็นงานที่ยุ่งเหยิงยุ่งยาก แต่ต้องการลูกมือมาช่วยแบ่งเบาภาระ มกราคมถึงต้นมีนาคมอาจได้คนช่วยงาน และตั้งแต่กันยายนไปจนตลอดปี เขาเหล่านั้นจะช่วยทำให้คุณมีหน้ามีตาขึ้นมาอย่างมากมายครับ

การเงิน (Revenue)
ตั้งแต่สิงหาคมเป็นต้นไป คุณจะต้องระมัดระวังการจับจ่ายใช้สอยให้ดีๆ เพราะมีเกณฑ์ราหูล้วงทรัพย์ ได้เงินทองมาก็จะอยู่ได้ไม่นานก็มีอันจะต้องจับจ่ายออกไป ใช้เองบ้าง ถูกหลอกถูกโกงบ้าง ขอแนะนำว่าควรฝากไว้กับผู้หลักผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือและไว้ใจได้จะดีกว่า ถือเป็นการแก้เคล็ด

ความรัก (Affection)
ไม่เกินสิงหาคม คนโสดมีเกณฑ์จะต้องจบความสัมพันธ์กับใครสักคนที่คาราคาซังมาตั้งแต่ปีก่อน ส่วนคนที่มีคู่ครองอยู่แล้ว ปลายปีนี้เขาหรือเธอจะเริ่มทำให้คุณต้องลำบากใจ และจะเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวระหองระแหงต่อไปอีกนานพอสมควร


ข้อพิจารณาทางโหราศาสตร์ (Consideration)
ดาวเสาร์(๗)    - ให้คุณในภพอริ (1 มกราคม - 23 มีนาคม และ 15 สิงหาคม - 1 ธันวาคม)
                       - ชะลอการให้คุณในภพอริ (18 เมษายน - 15 สิงหาคม)
                       - ให้โทษในภพปัตนิ (23 มีนาคม - 11 เมษายน และ 1 - 31ธันวาคม)
                       - ชะลอการให้โทษในภพปัตนิ (11 - 18 เมษายน)
ดาวราหู(๘)     - ให้โทษในภพสหัสชะ (1 มกราคม - 4 สิงหาคม)
                       - ให้โทษในภพกดุมภะ (4 สิงหาคม - 31 ธันวาคม)
ดาวพฤหัส(๕) - ให้โทษในภพพันธุ (1 มกราคม - 12 มกราคม)
                       - ชะลอการให้โทษในภพพันธุ (12 มีนาคม - 17 มิถุนายน)
                       - ให้โทษในภพพันธุ (17 มิถุนายน - 6 กันยายน)
                       - ให้คุณในภพปุตตะ (12 มกราคม - 6 กุมภาพันธ์)
                       - ชะลอการให้คุณในภพปุตตะ (6 กุมภาพันธ์ - 12 มีนาคม)

                       - ให้คุณในภพปุตตะ (6 กันยายน - 31 ธันวาคม)



ราศีกรกฎ (Cancer)

เหตุการณ์ทั่วไป (Eventuality)
ตั้งแต่สิงหาคมเป็นต้นไป สุขภาพร่างกายจะอ่อนแอลง บางท่านอาจถึงกับล้มหมอนนอนเสื่อ อาจเนื่องมาจากโรคภัยไข้เจ็บหรือความประมาทของผู้อื่นๆ ให้ระมัดระวังเรื่องของการทะเลาะเบาะแว้งกับคนพาลไว้ด้วย ถ้าเป็นไปได้งดเว้นการเดินทางไปไหนมาไหนไกลๆ แต่ถ้าอยากไปทำบุญ ก็ไปใกล้ๆครับ

ไม่เกินพศจิกายน คุณยังคงจะต้องเคร่งเครียดกับบุตรบริวารอย่างมากแต่ไม่ต้องกังวลมากนะครับเพราะยังไงเขาก็ทำให้คุณพอใจได้อยู่แล้ว รวมถึงการร่วมหุ้นลงทุนก็ยังพอไปได้ครับ

การเจรจาติดต่อสื่อสารของคุณยังคงจะต้องใช้ลูกล่อลูกชน เล่ห์เหลี่ยม ไหวพริบ การชักแม่น้ำทั้งห้าเข้าช่วย เพื่อให้สามารถยุติข้อขัดแย้งต่างๆได้ รวมถึงการร้องขอความช่วยเหลือ การสนับสนุนจากผู้หลักผู้ใหญ่ แต่ต้องภายในกันยายนนี้นะครับ

การงาน (Duty)
ตั้งแต่กันยายนเป็นต้นไป จะมีเรื่องดีๆ ผู้หลักผู้ใหญ่จะให้ความช่วยเหลือ แต่ก็ต้องฝ่าฟันกันมากหน่อยเพราะจะมีอุปสรรคปัญหาที่ยิ่งใหญ่และยากในการแก้ไข อาณาจักรของตัวเองจะดูดีมีชาติตระกูลมากขึ้นแน่นอน

การเงิน (Revenue)
ยังเข้าเกณฑ์ราหูล้วงทรัพย์แต่ไม่เกินสิงหาคมนี้ เก็บเงินไม่ค่อยอยู่ แนะนำให้ทำประกันชีวิตแบบมีเงินปันผลเอาไว้นะครับ แต่บางคนก็อาจได้รับมรดก แบ่งไปทำบุญสุนทานบ้างก็ดี เช่น ทำบุญโรงศพหรือไถ่ชีวิต โค กระบือ ตลอดจนการปล่อยนกปล่อยปลา

ความรัก (Affection)
ไม่เกินสิงหาคม คนโสดจะได้เจอกับคนที่อาจยังไม่ถูกใจนัก เขาหรือเธอจะดูเป็นนักวิชาการผู้ชอบการขัดแย้งและบางทีก็เอาตัวรอดโดยไม่สนใจจริยธรรม ส่วนคนที่มีคู่ครองแล้ว คู่ของคุณยังคงดูโดดเด่นแต่เคร่งเครียด เอาจริงเอาจัง และตอนปลายปีจะไม่ค่อยลงรอยกันนักเนื่องจากความอดทนมีจำกัด


ข้อพิจารณาทางโหราศาสตร์ (Consideration)
ดาวเสาร์(๗)    - ให้คุณในภพปุตตะ (1 มกราคม - 23 มีนาคม และ 15 สิงหาคม - 1 ธันวาคม)
                       - ชะลอการให้คุณในภพปุตตะ (18 เมษายน - 15 สิงหาคม)
                       - ให้โทษในภพอริ (23 มีนาคม - 11 เมษายน และ 1 - 31ธันวาคม)
                       - ชะลอการให้โทษในภพอริ (11 - 18 เมษายน)
ดาวราหู(๘)     - ให้โทษในภพกดุมภะ (1 มกราคม - 4 สิงหาคม)
                       - ให้โทษในภพตนุ (4 สิงหาคม - 31 ธันวาคม)
ดาวพฤหัส(๕) - ให้โทษในภพสหัสชะ (1 มกราคม - 12 มกราคม)
                       - ชะลอการให้โทษในภพสหัสชะ (12 มีนาคม - 17 มิถุนายน)
                       - ให้โทษในภพสหัสชะ (17 มิถุนายน - 6 กันยายน)
                       - ให้คุณในภพพันธุ (12 มกราคม - 6 กุมภาพันธ์)
                       - ชะลอการให้คุณในภพพันธุ (6 กุมภาพันธ์ - 12 มีนาคม)

                       - ให้คุณในภพพันธุ (6 กันยายน - 31 ธันวาคม)



ราศีสิงห์ (Leo)

เหตุการณ์ทั่วไป (Eventuality)
สิงหาคมเป็นต้นไป ความลับต่างๆที่คุณไม่อยากใครได้รับรู้ กำลังจะถูกเปิดโปงออกมา อาจเป็นเพราะเล่ห์เหลี่ยมอันแพรวพราวของคุณก่อนหน้านี้จะใช้ไม่ได้เหมือนเคย แนะนำว่าควรปิดทองหลังพระ เพราะจะได้มีแต่เรื่องดีๆที่ถูกเปิดเเผยออกมา แต่ประเภทช้างตายทั้งตัวเอาใบบัวปิด หรือซุกฝุ่นไว้ใต้พรม ระวังกันให้ดีนะครับ

การร่วมหุ้นลงทุนใดๆกับใครจะเริ่มมีปัญหาก่อตัวขึ้นมาอย่างชัดเจนตั้งแต่สิงหาคมเป็นต้นไปเช่นกัน จะเป็นในแนวเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด ปากปราศัยน้ำใจเชือดคอ หรือแทงข้างหลังทะลุถึงหัวใจ

ตั้งแต่กันยายนเป็นต้นไป จะเกิดสัมพันธภาพใหม่ๆที่มีแนวโน้มที่ดี บางคนได้ลูกค้ารายใหม่ที่กระตุ้นยอดขายได้มาก บางรายมีการสานสายสัมพันธ์จนเป็นบุคคลพิเศษ รวมทั้งบุตรบริวารจะเป็นที่ไว้วางใจได้มากขึ้น และสื่อสารกันมากขึ้นแต่คุณกลับเป็นห่วงพวกเขามากกว่าเดิมเพราะว่าพวกเขาปีกกล้าขาแข็งแล้ว

การงาน (Duty)
อาณาจักรของคุณกำลังลงตัวมากขึ้นโดยลำดับ และยังคงต้องเหน็ดเหนื่อยมากกว่าปกติ แถมยังต้องเอาสุขภาพร่างกายที่ไม่ค่อยสมบูรณ์นักเข้ามาเสี่ยงด้วย ใจเย็นๆ ไม่เกินพฤศจิกายนนี้ครับ

การเงิน (Revenue)
คุณจะยังคงมีแนวโน้มที่ดีในเรื่องรายได้ แต่มันยังได้ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วยเหมือนเดิม เพราะยังต้องมีรายจ่ายที่ค่อยๆมีเข้ามาแบบซึมลึก ทั้งเรื่องสุขภาพและเรื่องบุตรบริวาร หลังจากสิงหาคมก็จะค่อยๆโล่งอกกันไป

ความรัก (Affection)
คู่ครองของคุณจะดูแลเอาใจใส่คุณแต่ไม่เต็มที่นักจนถึงกรกฎาคม หลังจากนั้นจะเริ่มเอาใจออกห่าง หมั่นสอดส่องดูแลกันให้ดีๆเน้อ ...


ข้อพิจารณาทางโหราศาสตร์ (Consideration)
ดาวเสาร์(๗)    - ให้คุณในภพพันธุ (1 มกราคม - 23 มีนาคม และ 15 สิงหาคม - 1 ธันวาคม)
                       - ชะลอการให้คุณในภพพันธุ (18 เมษายน - 15 สิงหาคม)
                       - ให้โทษในภพปุตตะ (23 มีนาคม - 11 เมษายน และ 1 - 31ธันวาคม)
                       - ชะลอการให้โทษในภพปุตตะ (11 - 18 เมษายน)
ดาวราหู(๘)     - ให้โทษในภพตนุ (1 มกราคม - 4 สิงหาคม)
                       - ให้โทษในภพวินาสน์ (4 สิงหาคม - 31 ธันวาคม)
ดาวพฤหัส(๕) - ให้โทษในภพกดุมภะ (1 มกราคม - 12 มกราคม)
                       - ชะลอการให้โทษในภพกดุมภะ (12 มีนาคม - 17 มิถุนายน)
                       - ให้โทษในภพกดุมภะ (17 มิถุนายน - 6 กันยายน)
                       - ให้คุณในภพสหัสชะ (12 มกราคม - 6 กุมภาพันธ์)
                       - ชะลอการให้คุณในภพสหัสชะ (6 กุมภาพันธ์ - 12 มีนาคม)

                       - ให้คุณในภพสหัสชะ (6 กันยายน - 31 ธันวาคม)



ราศีกันย์ (Virgo)

เหตุการณ์ทั่วไป (Eventuality)
ในช่วง3ไตรมาสแรกของปี เป็นช่วงที่คุณได้รับความเชื่อถือ เป็นที่เคารพนับถือจากหลายๆฝ่าย ทำให้คุณรู้สึกมีความสุขมากกว่าแต่ก่อน แต่หลังจากนั้น การจะประสบความสำเร็จจากเรื่องดังกล่าวกลับเป็นไปได้ยากกว่าที่คาดหวังเอาไว้

เดือนสุดท้ายของปี จะเป็นการเริ่มต้นของการดูแลบุพการี คุณจะรู้สึกไม่ค่อยสบายใจเท่าไรนัก หมั่นพาไปตรวจสุขภาพบ้างจะเป็นการดี หรือพาท่านไปพักผ่อนหย่อนใจเพื่อลดความเคร่งเครียดของท่านลงบ้าง

ทรัพย์สินสิ่งของต่างๆจะมีอันให้ต้องซ่อมแซมเป็นการใหญ่ ส่วนใหญ่จะเป็นของใหญ่เช่นบ้าน รถยนต์ ที่ดิน ดูแลรักษาปรับปรุงให้พร้อมใช้ไว้ก่อนจะเป็นการดีครับ

การงาน (Duty)
งานประจำส่วนใหญ่ไม่มีอะไรหวือหวามากนัก ยังไปได้เรื่อยๆ อาจมีช่วงที่งานมีปัญหาบ้าง ไม่มีอะไรที่น่าหนักใจ แต่ปลายปีนี้ คุณจะมีการริเริ่มงานใหม่ๆที่เป็นตัวของคุณเองมากขึ้น แน่นอน เหนื่อยกว่าเดิมครับ

การเงิน (Revenue)
ไตรมาสแรกและกันยายนเป็นต้นไป จะมีโชคทางการเงิน ได้เงินมาอย่างง่ายๆ จากแหล่งต่างๆเช่น การร่วมหุ้นลงทุน คู่ครองช่วยเหลือ การขายอสังหาริมทรัพย์ บุพการีให้ด้วยความเสน่หา ดีใจด้วยครับ

ความรัก (Affection)
คู่ครองจะเอาใจใส่คุณมากขึ้นเหมือนมีสำนึกอะไรบางอย่างมาจากปีก่อน สำหรับบางคนที่ยังไม่ได้แต่งงาน ขอบอกว่า ไม่เกินกันยายนนี้ คุณจะมีงานมงคล หลังจากคบหาดูใจกันมาอย่างเอาจริงเอาจัง แต่บางคนก็กำลังมองหากันอยู่ ทั้งๆที่ตัวเลือกยังคงมีน้อยเต็มที


ข้อพิจารณาทางโหราศาสตร์ (Consideration)
ดาวเสาร์(๗)    - ให้คุณในภพสหัสชะ (1 มกราคม - 23 มีนาคม และ 15 สิงหาคม - 1 ธันวาคม)
                       - ชะลอการให้คุณในภพสหัสชะ (18 เมษายน - 15 สิงหาคม)
                       - ให้โทษในภพพันธุ (23 มีนาคม - 11 เมษายน และ 1 - 31ธันวาคม)
                       - ชะลอการให้โทษในภพพันธุ (11 - 18 เมษายน)
ดาวราหู(๘)     - ให้โทษในภพวินาสน์ (1 มกราคม - 4 สิงหาคม)
                       - ให้โทษในภพลาภะ (4 สิงหาคม - 31 ธันวาคม)
ดาวพฤหัส(๕) - ให้คุณในภพตนุ (1 มกราคม - 12 มกราคม)
                       - ชะลอการให้คุณในภพตนุ (12 มีนาคม - 17 มิถุนายน)
                       - ให้คุณในภพตนุ (17 มิถุนายน - 6 กันยายน)
                       - ให้คุณในภพกดุมภะ (12 มกราคม - 6 กุมภาพันธ์)
                       - ชะลอการให้คุณในภพกดุมภะ (6 กุมภาพันธ์ - 12 มีนาคม)

                       - ให้คุณในภพกดุมภะ (6 กันยายน - 31 ธันวาคม)



ราศีตุลย์ (Libra)

เหตุการณ์ทั่วไป (Eventuality)
ตั้งแต่เดือนกันยายนเป็นต้นไป เป็นช่วงที่คุณจะได้รับความเคารพนับถือจากทุกๆฝ่ายแม้แต่ฝ่ายตรงข้าม คุณจะดูดีมีหน้ามีตา มีความสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนฝูงมิตรสหายใกล้ตัว เป็นที่พึ่งพิงให้พวกเขาเหล่านั้นได้เป็นอย่างดี ผิดจากก่อนหน้านั้นราวกับหน้ามือเป็นหลังมือเลยทีเดียว

และต้องระวังเรื่องน้ำหนักของคุณให้ดีๆ มันจะค่อยๆเพิ่มขึ้นจากการกินดีอยู่ดีมากเกินไปในช่วงครึ่งปีหลัง

การงาน (Duty)
การทะเลาะเบาะแว้ง อิจฉาริษยา ไม่ไว้วางใจซึ่งกันและกัน จะเริ่มรุนแรงขึ้นนับจากเดือนสิงหาคมเป็นต้นไป โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สาเหตุมาจากบริวารและคู่ขัดแย้งของคุณ แต่คุณยังคงรักษาสถานภาพของตัวเองไว้ได้ดีอยู่เนื่องจากการมีพันธมิตรและสัมพันธภาพที่ดีในวงงานเป็นส่วนใหญ่

การเงิน (Revenue)
จากวันนี้จนถึงเดือนพฤศจิกายน ยังเป็นช่วงที่ต้องระมัดระวังเรื่องการใช้จ่าย บางท่านก็เป็นช่วงแห่งการอดออม ส่วนเดือนสุดท้ายของปีนี้เป็นต้นไปจะกำลังเข้าสู่ช่วงการปลดแอกทางเงิน เริ่มหาง่ายใช้คล่อง ดีใจด้วยครับ

ความรัก (Affection)
2เดือนแรกของปีเป็นเดือนแห่งความเปราะบางของชีวิตสมรส ลิ้นกับฟันย่อมกระทบกันเป็นเรื่องธรรมดา ใจเย็นๆกันหน่อย ส่วนคนที่กำลังดูใจกันอยู่ ให้ระวังว่าเขาหรือเธอจะปันใจให้คนอื่นในช่วงต้นปีไปจนถึงกันยายน แต่หลังจากนั้นคุณคือตัวจริง ไม่ต้องกังวล


ข้อพิจารณาทางโหราศาสตร์ (Consideration)
ดาวเสาร์(๗)    - ให้คุณในภพกดุมภะ (1 มกราคม - 23 มีนาคม และ 15 สิงหาคม - 1 ธันวาคม)
                       - ชะลอการให้คุณในภพกดุมภะ (18 เมษายน - 15 สิงหาคม)
                       - ให้โทษในภพสหัสชะ (23 มีนาคม - 11 เมษายน และ 1 - 31ธันวาคม)
                       - ชะลอการให้โทษในภพสหัสชะ (11 - 18 เมษายน)
ดาวราหู(๘)     - ให้โทษในภพลาภะ (1 มกราคม - 4 สิงหาคม)
                       - ให้โทษในภพกัมมะ (4 สิงหาคม - 31 ธันวาคม)
ดาวพฤหัส(๕) - ให้โทษในภพวินาสน์ (1 มกราคม - 12 มกราคม)
                       - ชะลอการให้โทษในภพวินาสน์ (12 มีนาคม - 17 มิถุนายน)
                       - ให้โทษในภพวินาสน์ (17 มิถุนายน - 6 กันยายน)
                       - ให้คุณในภพตนุ (12 มกราคม - 6 กุมภาพันธ์)
                       - ชะลอการให้คุณในภพตนุ (6 กุมภาพันธ์ - 12 มีนาคม)

                       - ให้คุณในภพตนุ (6 กันยายน - 31 ธันวาคม)



ราศีพิจิก (Scorpio)

เหตุการณ์ทั่วไป (Eventuality)
ตลอดทั้งปีนี้ คุณจะยังคงรู้สึกเคร่งเครียดและจริงจัง ไม่ค่อยมีความสุข ราวกับเป็นคนแบกโลกไว้ทั้งโลกเหมือนปีก่อน และถ้าปีที่แล้วไม่มีการเปลี่ยนแปลงใหญ่ๆ ปีนี้ก็จะเป็นช่วงเวลาสุดท้ายที่เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิต และจะเป็นบททดสอบอีกบทหนึ่ง ซึ่งต้องใช้ความอดทนอย่างสูงที่สุด

และตั้งแต่เดือนกันยายนเป็นต้นไป บุตรบริวารที่เหมือนจะดูดี แต่พวกเขากลับมองคุณไม่ดี อย่าเพิ่งไปสนใจครับ เครียดเปล่าๆ

ปีนี้ไม่ใช่ปีของคุณจริงๆครับ

การงาน (Duty)
ยังมีปัญหาไปจนถึงสิงหาคมจากปัญหาความขัดแย้งต่างๆ พอจะเริ่มดีขึ้นก็มาเจอกับเรื่องหัวหน้าที่ยังไม่สามารถเอาใจใส่ช่วยเหลือคุณได้ คงต้องช่วยเหลือตัวเองไปก่อนตลอดทั้งปี

การเงิน (Revenue)
ดูเหมือนจะอ่อนตัวลงไปจนถึงเดิอนสิงหาคม คุณควรจะเริ่มทำอะไรก็ได้ที่ทำให้มีรายได้เพิ่มจากงานประจำเพราะตั้งแต่ธันวาคมเป็นต้นไป เป็นช่วงที่คุณเริ่มมีปัญหาทางการเงินอย่างรุนแรง ชักหน้าไม่ถึงหลังกันเลยทีเดียว

ความรัก (Affection)
โบราณว่า"เสาร์ทับลัคน์ทับจันทร์จะพลันร้าย..." ปัญหาครอบครัวยังคงทำให้คุณเคร่งเครียด เดือดเนื้อร้อนใจอยู่ตลอด แต่ยังดีที่เพื่อนฝูงมิตรสหายใกล้ชิดยังคงเอาอกเอาจคุณเป็นอย่างดี และสำหรับคนโสด ถึงตัวเลือกจะมีน้อยแต่ก็เป็นตัวเลือกที่มีคุณภาพในระดับหนึ่งครับ ลองดู ไม่เกินพฤศจิกายน


ข้อพิจารณาทางโหราศาสตร์ (Consideration)
ดาวเสาร์(๗)    - ให้คุณในภพตนุ (1 มกราคม - 23 มีนาคม และ 15 สิงหาคม - 1 ธันวาคม)
                       - ชะลอการให้คุณในภพตนุ (18 เมษายน - 15 สิงหาคม)
                       - ให้โทษในภพกดุมภะ (23 มีนาคม - 11 เมษายน และ 1 - 31ธันวาคม)
                       - ชะลอการให้โทษในภพกดุมภะ (11 - 18 เมษายน)
ดาวราหู(๘)     - ให้โทษในภพกัมมะ (1 มกราคม - 4 สิงหาคม)
                       - ให้โทษในภพศุภะ (4 สิงหาคม - 31 ธันวาคม)
ดาวพฤหัส(๕) - ให้โทษในภพลาภะ (1 มกราคม - 12 มกราคม)
                       - ชะลอการให้โทษในภพลาภะ (12 มีนาคม - 17 มิถุนายน)
                       - ให้โทษในภพลาภะ (17 มิถุนายน - 6 กันยายน)
                       - ให้คุณในภพวินาสน์ (12 มกราคม - 6 กุมภาพันธ์)
                       - ชะลอการให้คุณในภพวินาสน์ (6 กุมภาพันธ์ - 12 มีนาคม)

                       - ให้คุณในภพวินาสน์ (6 กันยายน - 31 ธันวาคม)



ราศีธนู (Sagittarius)

เหตุการณ์ทั่วไป (Eventuality)
เพื่อนฝูงมิตรสหายใกล้ชิดตลอดจนเจ้านายผู้ให้การสนับสนุน ยังคงไม่สามารถพึ่งพาอาศัยได้ บางคนกลับสร้างความเดือดร้อนด้วยซ้ำไป ตั้งแต่เดือนสิงหาคมเพื่อนฝูงเหล่านั้นจะเริ่มล้มหายตายจากกันไป แต่เจ้านายของคุณจะเริ่มเห็นอกเห็นใจคุณมากขึ้น

ไม่เกินเดือนพฤศจิกายนนี้ สิ่งที่จะเป็นประโยชน์กับคุณก็คือสิ่งที่เป็นความลับ สิ่งที่ไม่อยากเปิดเผย เรื่องลึกลับ เก็บคำพูดคำจาเอาไว้ดีๆ เพราะมันคือรายได้นั่นเอง เหมือนปีก่อนเลย

การงาน (Duty)
มีแววว่าจะเติบโตในหน้าที่การงานไปอีกขั้นหนึ่งหลังจากเดือนสิงหาคมเป็นต้นไป คุณจะมุ่งมั่นมากขึ้น ประสบความสำเร็จมากขึ้น คุณจะดูเด่นจนเจ้านายอดไม่ได้ที่จะมอบตำแหน่งใหม่ที่ดีกว่าให้คุณ

การเงิน (Revenue)
ไม่เกินเดือนพฤศจิกายนนี้ เหตุการณ์ยังคล้ายๆกับปีก่อน ขอลอกมาอีกปีเลยก็แล้วกัน คุณจะมีเหตุให้ต้องใช้จ่ายโดยไม่รู้ตัว ทางที่ดี คุณควรเก็บออมไว้ในที่ที่ไม่เปิดเผย อย่าบอกให้ใครรู้เป็นอันขาด รู้เมื่อไหร่ ไหลออกเมื่อนั้นครับ" หลังจากนั้นจะเริ่มดีขึ้นเอง

ความรัก (Affection)
เดือนสุดท้ายของปีจะเป็นจุดเริ่มต้นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ครั้งหนึ่งในชีวิตสมรส คอยสังเกตุและประคับประคองกันไว้ ส่วนคนโสด ต้องรอนานหน่อย อย่าหวังอะไรลมๆแล้งๆเลยครับ


ข้อพิจารณาทางโหราศาสตร์ (Consideration)
ดาวเสาร์(๗)    - ให้คุณในภพวินาสน์ (1 มกราคม - 23 มีนาคม และ 15 สิงหาคม - 1 ธันวาคม)
                       - ชะลอการให้คุณในภพวินาสน์ (18 เมษายน - 15 สิงหาคม)
                       - ให้โทษในภพตนุ (23 มีนาคม - 11 เมษายน และ 1 - 31ธันวาคม)
                       - ชะลอการให้โทษในภพตนุ (11 - 18 เมษายน)
ดาวราหู(๘)     - ให้โทษในภพศุภะ (1 มกราคม - 4 สิงหาคม)
                       - ให้โทษในภพมรณะ (4 สิงหาคม - 31 ธันวาคม)
ดาวพฤหัส(๕) - ให้โทษในภพกัมมะ (1 มกราคม - 12 มกราคม)
                       - ชะลอการให้โทษในภพกัมมะ (12 มีนาคม - 17 มิถุนายน)
                       - ให้โทษในภพกัมมะ (17 มิถุนายน - 6 กันยายน)
                       - ให้คุณในภพลาภะ (12 มกราคม - 6 กุมภาพันธ์)
                       - ชะลอการให้คุณในภพลาภะ (6 กุมภาพันธ์ - 12 มีนาคม)

                       - ให้คุณในภพลาภะ (6 กันยายน - 31 ธันวาคม)



ราศีมังกร (Capricorn)

เหตุการณ์ทั่วไป (Eventuality)
เกือบตลอดทั้งปี คุณยังมีความมุ่งมั่นในการประสบความสำเร็จอะไรสักอย่าง และมันก็ทำท่าจะเป็นไปด้วยดี ตัวคุณยังคงความโดดเด่นเช่นเดิม แต่เดือนมีนาคมจนถึงสิงหาคม เป็นช่วงที่ความมั่นใจดูด้อยลงไป และจะชัดเจนตั้งแต่ธันวาคมเป็นต้นไป

ปลายปีนี้ แนะนำว่าลองปรึกษาโหรที่ท่านนับถือ อาจจะได้แนวทางดีๆ หรือบางท่านอาจเป็นช่วงที่สนใจศึกษาสิ่งลึกลับหรือโหราศาสตร์อย่างจริงๆจังๆกันสักที

การงาน (Duty)
ผู้หลักผู้ใหญ่ที่ให้การสนับสนุนและเพื่อนฝูงมิตรสหายใกล้ชิด ยังคงท่าดีทีเหลวให้ต้องลำบากใจ เดือนกันยายนเป็นต้นไปนั่นแหละ งานที่ทำจะค่อยๆลงตัวมากขึ้น และจะเป็นงานที่ทำให้คุณได้รับเครดิตที่ดี จนคุณต้องตัดสินใจผันตัวไปอยู่เบื้องหลังอย่างเงียบๆตอนปลายปี

การเงิน (Revenue)
มกราคมถึงกรกฎาคมนี้ ยังคงทำเงินหล่นหายคล้ายปีก่อน เช่นสะเดาะเคราะห์ ปล่อยนกปล่อยปลา ไถ่ชีวิตโคกระบือ แม้กระทั่งประกันชีวิต ทำไปเถอะ แลกกับความสบายใจ หลังจากนั้นอาจต้องแบกรับภาระจากคู่ครอง หรือเดือดร้อนจากการร่วมหุ้นลงทุน

ความรัก (Affection)
เดือนสิงหาคมนี้เป็นต้นไป เข้าเกณฑ์ดวงแตก คุณบางอาจต้องแยกกันอยู่ คู่ครองของคุณบางคนอาจจะต้องเข้าโรงพยาบาล ใครที่ยังโสด ตั้งแต่เดือนกันยายนนี้ คุณจะได้เจอมิตรภาพใหม่ๆจากการได้ทำงานร่วมกัน มีลุ้น มีลุ้น


ข้อพิจารณาทางโหราศาสตร์ (Consideration)
ดาวเสาร์(๗)    - ให้คุณในภพลาภะ (1 มกราคม - 23 มีนาคม และ 15 สิงหาคม - 1 ธันวาคม)
                       - ชะลอการให้คุณในภพลาภะ (18 เมษายน - 15 สิงหาคม)
                       - ให้โทษในภพวินาสน์ (23 มีนาคม - 11 เมษายน และ 1 - 31ธันวาคม)
                       - ชะลอการให้โทษในภพวินาสน์ (11 - 18 เมษายน)
ดาวราหู(๘)     - ให้โทษในภพมรณะ (1 มกราคม - 4 สิงหาคม)
                       - ให้โทษในภพปัตนิ (4 สิงหาคม - 31 ธันวาคม)
ดาวพฤหัส(๕) - ให้โทษในภพศุภะ (1 มกราคม - 12 มกราคม)
                       - ชะลอการให้โทษในภพศุภะ (12 มีนาคม - 17 มิถุนายน)
                       - ให้โทษในภพศุภะ (17 มิถุนายน - 6 กันยายน)
                       - ให้คุณในภพกัมมะ (12 มกราคม - 6 กุมภาพันธ์)
                       - ชะลอการให้คุณในภพกัมมะ (6 กุมภาพันธ์ - 12 มีนาคม)

                       - ให้คุณในภพกัมมะ (6 กันยายน - 31 ธันวาคม)



ราศีกุมภ์ (Aquarius)

เหตุการณ์ทั่วไป (Eventuality)
ดาวประจำตัวยังคงอับแสงไปจนถึงเดือนสิงหาคม หมั่นดูแลรักษาสุขภาพของตัวเองบ้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ยังอยู่ในช่วงดวงแตกชั่วคราว ท่านที่พลัดพรากจากกับบุคคลที่รัก จะมีโอกาสได้กลับมาอยู่ร่วมกันอีกครั้งตั้งแต่สิงหาคมนี้

และสิ่งที่จะต้องระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง ก็คือตั้งแต่สิงหาคมเป็นต้นไป คุณจะมีส่วนในความขัดแย้งต่างๆแทบจะทุกเรื่อง เข้าทำนองแกว่งเท้าหาเสี้ยน อยู่เฉยๆบ้างก็ได้นะ คงไม่มีใครว่าคุณหรอก

การงาน (Duty)
ยังคงต้องเหน็ดเหนื่อยจากการทำงานต่อเนื่องจากปีที่แล้ว เหนื่อยนักก็พักบ้าง กันยายนนี้จะมีผู้หลักผู้ใหญ่เห็นใจ แต่โอกาสประสบความสำเร็จยังเป็นไปได้อย่างยากเย็นอยู่ บางท่านถึงขั้นต้องเปลี่ยนงานเพื่อมองหาความก้าวหน้า เรียกว่าไปตายเอาดาบหน้าดีกว่า

การเงิน (Revenue)
ยังคงมีรายจ่ายมากกว่าปกติต่อเนื่องมาจากปีที่แล้ว บางคนที่การเงินอ่อนแออยู่แล้วก็ยิ่งไปกันใหญ่ จะหวังเงินมรดกก็คงไม่ได้อย่างใจหวัง มกราคมและกุมภาพันธ์จะดีขึ้นนิดหน่อย แต่กันยายนเป็นต้นไปจะดีขึ้นอย่างชัดเจน

ความรัก (Affection)
ปีที่แล้ว ถ้าคู่ใดยังไม่ได้เลิกร้างกัน นับว่าโชคดี ปีนี้ถ้ารอดเลยกรกฎาคมไป จะอยู่กันอย่างยืดยาวเลยทีเดียว แต่บางคู่ ไม่ใครก็ใครต้องล้มหมอนนอนเสื่อกันบ้าง บางทีก็อาจเป็นไปได้ทั้งคู่ ดูแลกันให้ดีๆก็แล้วกัน


ข้อพิจารณาทางโหราศาสตร์ (Consideration)
ดาวเสาร์(๗)    - ให้คุณในภพกัมมะ (1 มกราคม - 23 มีนาคม และ 15 สิงหาคม - 1 ธันวาคม)
                       - ชะลอการให้คุณในภพกัมมะ (18 เมษายน - 15 สิงหาคม)
                       - ให้โทษในภพลาภะ (23 มีนาคม - 11 เมษายน และ 1 - 31ธันวาคม)
                       - ชะลอการให้โทษในภพลาภะ (11 - 18 เมษายน)
ดาวราหู(๘)     - ให้โทษในภพปัตนิ (1 มกราคม - 4 สิงหาคม)
                       - ให้โทษในภพอริ (4 สิงหาคม - 31 ธันวาคม)
ดาวพฤหัส(๕) - ให้โทษในภพมรณะ (1 มกราคม - 12 มกราคม)
                       - ชะลอการให้โทษในภพมรณะ (12 มีนาคม - 17 มิถุนายน)
                       - ให้โทษในภพมรณะ (17 มิถุนายน - 6 กันยายน)
                       - ให้คุณในภพศุภะ (12 มกราคม - 6 กุมภาพันธ์)
                       - ชะลอการให้คุณในภพศุภะ (6 กุมภาพันธ์ - 12 มีนาคม)

                       - ให้คุณในภพศุภะ (6 กันยายน - 31 ธันวาคม)



ราศีมีน (Pisces)

เหตุการณ์ทั่วไป (Eventuality)
เป็นปีที่คุณมักจะทำอะไรเสี่ยงๆ บางทีก็ซุ่มซ่ามให้มีอันต้องเจ็บเนื้อเจ็บตัวกันไป ตั้งแต่มกราคมถึงสิงหาคมเป็นช่วงที่ดาวประจำตัวหม่นหมอง ระวังสุขภาพไว้ด้วยจะเป็นการดี ตั้งแต่กันยายนไป ถ้ามีโอกาสไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจสุขภาพ ก็เป็นการแก้เคล็ดอย่างหนึ่งโดยไม่ต้องไปสะเดาะเคราะห์ที่ไหน

บุตรบริวารจะเริ่มสร้างความยุ่งยากให้คุณตั้งแต่เดือนสิงหาคมเป็นต้นไป บางคนสุขภาพไม่ดี บางคนก็ก่อเหตุทะเลาะเบาะแว้ง ไม่เว้นแม้แต่ตัวคุณเอง

การงาน (Duty)
ตั้งแต่เดือนกันยายนเป็นต้นไป คุณมีเกณฑ์จะได้ทำงานที่ต้องเสี่ยงภัยอันตราย หรือได้งานที่ต้องไปไหนไกลๆ หลังจากมีแววมาตั้งแต่ตอนต้นปี เดือนธันวาคมเป็นเดือนที่คุณจะรู้สึกอย่างชัดเจนว่า งานที่ได้รับไม่ใช่งานง่ายๆอีกต่อไป ทำอะไรก็ติดขัดไปหมด ดังนั้นควรจะปิดงานให้ได้ก่อนปลายปีจะดีที่สุด

การเงิน (Revenue)
คุณจะมีรายได้เพิ่มเติมจากที่เคยได้ ซึ่งจะมาจากสิ่งที่เกี่ยวข้องกับเรื่องความเป็นความตาย ยกตัวอย่างเช่น ประกันชีวิต พินัยกรรมมรดก อาหารเสริมบำรุงสุขภาพ งานที่ต้องเสี่ยงอันตรายต่างๆเช่น หน่วยกู้ภัย เก็บศพ

ความรัก (Affection)
คุณกำลังมีเกณฑ์ได้เริ่มชีวิตคู่ไม่เกินเดือนกันยายนนี้ ถึงจะยังไม่พร้อมเท่าไหร่แต่ก็ทำให้คุณรู้สึกมีความสุขบ้าง แต่คนที่ยังครองตัวเป็นโสด มิตรภาพใหม่ๆที่รอให้สานสัมพันธ์ก็หาได้ยากเย็นอย่างยิ่ง


ข้อพิจารณาทางโหราศาสตร์ (Consideration)
ดาวเสาร์(๗)    - ให้คุณในภพศุภะ (1 มกราคม - 23 มีนาคม และ 15 สิงหาคม - 1 ธันวาคม)
                       - ชะลอการให้คุณในภพศุภะ (18 เมษายน - 15 สิงหาคม)
                       - ให้โทษในภพกัมมะ (23 มีนาคม - 11 เมษายน และ 1 - 31ธันวาคม)
                       - ชะลอการให้โทษในภพกัมมะ (11 - 18 เมษายน)
ดาวราหู(๘)     - ให้โทษในภพอริ (1 มกราคม - 4 สิงหาคม)
                       - ให้โทษในภพปุตตะ (4 สิงหาคม - 31 ธันวาคม)
ดาวพฤหัส(๕) - ให้โทษในภพปัตนิ (1 มกราคม - 12 มกราคม)
                       - ชะลอการให้โทษในภพปัตนิ (12 มีนาคม - 17 มิถุนายน)
                       - ให้โทษในภพปัตนิ (17 มิถุนายน - 6 กันยายน)
                       - ให้คุณในภพมรณะ (12 มกราคม - 6 กุมภาพันธ์)
                       - ชะลอการให้คุณในภพมรณะ (6 กุมภาพันธ์ - 12 มีนาคม)

                       - ให้คุณในภพมรณะ (6 กันยายน - 31 ธันวาคม)