วันอาทิตย์ที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2557

ดวงอดีตนายกรัฐมนตรี ผู้ลี้ภัยทางการเมือง (ตอนจบ)

ประเทศไทยมีอดีตนายกรัฐมนตรีหลายท่านที่เคยลี้ภัยไปต่างประเทศ ถ้าจะยกมาเป็นกรณีศึกษาทุกท่าน ก็กลัวจะไม่ทันใจพระเดชพระคุณทั้งหลาย ก็เลยกล่าวถึงเพียง 2 ท่าน ที่ผ่านมาได้แก่ ท่านปรีดี พนมยงค์ และท่านจอมพลถนอม กิตติขจร ซึ่งก็เป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับการพยากรณ์อดีตนายกฯท่านสุดท้าย ท่านที่ผมกำลังจะกล่าวถึงนี้ คงเป็นใครไปไม่ได้ นอกจากท่าน "พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร"


ลิ้งค์บทความที่เกี่ยวข้อง
1. ดวงอดีตนายกรัฐมนตรี ผู้ลี้ภัยทางการเมือง
2. ดวงอดีตนายกรัฐมนตรี ผู้ลี้ภัยทางการเมือง (ต่อ)



อดีตนายกฯ 2 ท่านที่ผมกล่าวถึงในตอนที่ผ่านมาได้ถึงแก่อสัญกรรมไปแล้ว แต่พ.ต.ท.ทักษิณ ยังคงลี้ภัยอยู่ต่างประเทศ ประเด็นที่ทุกคนอยากทราบก็คือ ท่านจะสามารถเดินทางกลับเข้าสู่แผ่นดินเกิดของท่านได้เหมือนจอมพลถนอม หรือจะต้องลี้ภัยในต่างประเทศตราบจนสิ้นอายุขัยเหมือนท่านปรีดี ... เรามาดูกัน

ต้องขอขอบคุณวิกิพีเดียอีกครั้งครับ เพราะผมไม่รู้จะไปหาข้อมูลจากที่ไหนที่ให้ครบหมดทุกอย่าง ทั้งวันเดือนปีเกิด และเหตุการณ์สำคัญในชีวิตที่ผ่านมาของท่าน ผู้สนใจสามารถคลิกอ่านได้ที่ <พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร> ครับ

ท่านเกิดวันที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ.2492 ที่จังหวัดเชียงใหม่ ส่วนเวลาตกฟากนั้น เท่าที่ได้รับทราบมาจะเป็นเวลาก่อนเที่ยง เมื่อทำการผูกดวงออกมาแล้ว จะได้ตามรูปครับ

เริ่มด้วยการพิจารณาระดับวาสนา หรือระดับความเด่นดังในวงสังคม โดยดูรูปการผูกดวง จะเห็นว่าได้ตำแหน่ง "จันทร์ คุรุ สุริยา" จึงทำให้ท่านสามารถก้าวขึ้นมาจากระดับล่างสู่ระดับบนได้ ตามบทความที่ผมได้กล่าวถึงไปแล้วใน<ดวงฤกษ์จันทร์ คุรุ สุริยา>

ดาวเด่นในดวงชะตาคือดาวจันทร์(๒) ได้ตำแหน่งเกษตรสถิตภพลาภะ นั่นหมายถึงการประสบความสำเร็จจะมีในระดับสูงมากเกินคาด

และดูเหมือนท่านจะทราบจุดเด่นนี้ดี จึงได้สร้างบ้าน "จันทร์ส่องหล้า" เป็นการตอบแทนดวงชะตาของท่านเอง

ต่อไปเรามาดูลักษณะนิสัยประจำตัวของท่านตามนี้นะครับ

ลัคนา( ลั ) สถิต ราศีกันย์ - อ่อนโยน ฉลาด เจ้าระเบียบ ละเอียดรอบคอบ

อาทิตย์( ๑ ) สถิต ราศีกรกฏ - รักถิ่นที่อยู่ ความจำดี ขี้สงสาร อารมณ์แปรปรวนง่าย ใจน้อย

จันทร์( ๒ ) สถิต ราศีกรกฏ - กิริยาอ่อนโยน มีเมตตากรุณา วาสนาดี

อังคาร( ๓ ) สถิต ราศีเมถุน - ฉลาด คิดเร็ว พูดคล่อง ปากไว

พุธ( ๔* ) สถิต ราศีกรกฏ - ความจำดี เอาแต่ใจตนเอง แต่ก็เป็นคนมีเหตุผล

พฤหัส( ๕ ) สถิต ราศีมังกร - มีปฏิภาณสูงในการเอาตัวรอด เครียดง่าย ทุกข์ใจ

ศุกร์( ๖ ) สถิต ราศีสิงห์ - มีอิสระทางความรัก พิถีพิถันกับความรัก

เสาร์( ๗ ) สถิต ราศีสิงห์ - หนักแน่น มั่นคง เป็นผู้นำที่ทำงานหนัก

ราหู( ๘ ) สถิต ราศีมีน - ตามใจเพื่อน แต่ก็ไม่ชอบคนที่ขัดใจ

เกตุ( ๙ ) สถิต ราศีพฤษภ - บ้าสมบัติ สะสมของเก่า ของแปลก

มฤตยู( ๐ ) สถิต ราศีเมถุน - คิดเร็วทำเร็ว คิดในสิ่งแปลกใหม่ คิดสิ่งที่พิสูจน์ได้ยาก

ผมไม่รู้จักกับท่านเป็นการส่วนตัว ได้แต่ติดตามอ่านข่าวสารบ้านเมืองไปตามเรื่อง ก็คาดว่านิสัยของท่านน่าจะเป็นไปตามนี้ 70 เปอร์เซนต์ขึ้นไปครับ

แต่อนิจจา ถึงวาสนาจะดูดี แต่ก็มีดาวที่ได้ตำแหน่ง"พินทุบาทว์"ในดวงชะตา ก็คือดาวราหู(๘)นั่นเอง ซึ่งเป็นเจ้าเรือนอริสถิตในเภพปัตนิ ตามตำราโหราศาสตร์กล่าวถึงเป็นโคลงสี่สุภาพดังนี้

     เสาร์เพ่งเล็งลัคน์แล้ว     อสุรา
ภุมเมนทร์อัษฎา                   ว่าไว้
จันทร์เป็นสิบเอ็ดแก่รา-       หูเล่า
อาภัพอัปภาคย์ให้                โทษแท้ ประเหินหิน

หรือ

     ระวิภุมมะทั้ง                     โสรา
ปัญจะกับลัคนา                     พุธเก้า
จันทรกับชีวา                         เป็นแปด
ศุกร์เจ็ดอาจารย์เจ้า             ว่าร้อน นิรันดร์

ในบทแรก คำว่า"อสุรา"ก็คือราหู(๘) ส่วนบทที่สองเป็นโคลงเก่าก่อนที่จะมีการนำดาวราหู(๘)มาใช้ในทางโหราศาสตร์ครับ จึงมีปรากฏเฉพาะดาวอาทิตย์(๑)ถึงดาวเสาร์(๗)

เรื่องหรือเหตุการณ์อะไรบ้างที่จะทำให้ท่านเดือดร้อน ก็พิจารณาได้จากดาวราหู(๘)นี่เอง ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับศัตรูคู่อาฆาตหรืออุปสรรคปัญหาต่างๆที่จะทำให้ท่านเดือดร้อนในครอบครัวของท่านเอง

เท่าที่ผมได้รู้ได้เห็นมา บางรายถึงขั้นบ้านแตกสาแหรกขาดกันเลยทีเดียว บางรายก็มีอันต้องหย่าร้าง ครอบครัวแตกสานซ่านเซ็น

บทความในตอนที่แล้วเรื่อง<ดวงอดีตนายกรัฐมนตรี ผู้ลี้ภัยทางการเมือง (จอมพลถนอม กิตติขจร)> ได้กล่าวถึงดาวพินทุบาทว์นี้เช่นกัน ถึงขนาดที่ทำให้ท่านต้องลี้ภัยไปต่างประเทศ แต่นั่นเป็นเพียงชั่วคราวเท่านั้น เนื่องจากเป็นการพยากรณ์ดวงจรซึ่งเป็นเหตุการณ์สั้นๆครั้งหนึ่งในช่วงชีวิต

สำหรับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรแล้ว ดาวลักษณะนี้เป็นดาวพินทุบาทว์ในดวงกำเนิด หมายถึงเสียหรือเดือดร้อนในเรื่องที่กล่าวมาเป็นส่วนใหญ่ในชีวิต แต่คงไม่ถึงขนาดตลอดชีวิตเหมือนกับท่านปรีดี พนมยงค์หรอกครับ <ดวงอดีตนายกรัฐมนตรี ผู้ลี้ภัยทางการเมือง(ปรีดี พนมยงค์>) เพราะลัคนาของท่านไม่ได้สถิตภพศุภะซึ่งเป็นเรื่องของต่างประเทศหรือการเดินทางไกลๆ คือไม่ได้ตั้งใจไปเหมือนท่านปรีดีครับ

จากเหตุการณ์ที่ผ่านมา ทำให้ผมคิดว่าท่านคงพยายามแก้เคล็ดด้วยการหย่าร้างกับภริยา แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลในทางธุรกิจ หรือทางกฎหมาย หรือทางอะไรก็ตาม มันก็ดูเหมือนเรื่องราวหนักๆในชีวิตดูเบาบางลงไม่มากก็น้อย ถึงแม้ว่าท่านจะยังคงลี้ภัยอยู่

และประเด็นสำคัญก็คือ มีหลายคนสนใจที่จะทราบว่า เมื่อไหร่ท่านจะกลับมา รวมทั้งตัวของท่านเองด้วย ผมคาดว่าในจำนวนนี้มีทั้งคนที่ชอบและคนที่เกลียดท่าน ทั้งสองฝ่ายคงต้องเตรียมการอะไรบางอย่างแน่นอน ถ้าท่านกลับมาจริงๆ

ถ้าจะให้ผมพยากรณ์ว่าท่านจะเดินทางกลับมาเมื่อไร ขอบอกว่า ตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม พ.ศ.2559 ถึง วันที่ 4 สิงหาคม พ.ศ.2560 เป็นช่วงที่ดาวราหู(๘)ส่งผลดีกับท่านสุดๆ ผมว่าท่านเองก็คงทราบดีอยู่แล้ว ดังนั้นท่านคงตัดสินใจกลับมาในช่วงนี้แหละครับ คาดว่าคงเป็นกลางปี พ.ศ.2560 

แต่หลังจากนั้น ต้องระวังให้ดีเพราะจะเกิดเรื่องใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในประเทศไทย ที่ประชาชนคนไทยจะต้องประสบ รับรองว่าได้สลดกันทั้งประเทศ 

ทางที่ดีผมว่าช่วงนั้นท่านควรออกบวชซะจะดีกว่า ตามแบบอย่างของผู้นำทางการเมืองทั้งหลายตั้งแต่อดีตในสมัยกรุงศรีอยุธยา กรุงธนบุรี จนถึงกรุงรัตนโกสินทร์ ที่นิยมกระทำกันเพื่อเป็นเกราะป้องกันความซวยมาเยือนนั่นเอง(ฮา)








วันอาทิตย์ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2557

ฤกษ์คลอด ตอนที่ ๕ - จันทร์ คุรุ สุริยา ฤกษ์แห่งความรุ่งเรืองปี 2558

ที่ผมต้องรีบเขียนบทความนี้ ก็เพราะว่า ฤกษ์ที่มีคุณสมบัติดีๆหายากๆเช่นนี้ มีเหลืออีกเพียงไม่กี่ครั้งเท่านั้นในปีนักษัตรมะแม แล้วที่ผมบอกว่าดีและหายากนั้น ผมจะพยายามอธิบายให้ฟังด้วยภาษาง่ายๆ ดังนี้ครับ


ลิ้งค์บทความที่เกี่ยวข้อง
1. ฤกษ์คลอด ตอนที่ ๔ - ข้อโต้แย้ง(เมื่อโหรใหญ่ทำลายอาชีพของตัวเอง!)
2. ฤกษ์คลอด ตอนที่ ๖ - ปัญจมหาบุรุษโยค ดวงฤกษ์ของเจ้าคนนายคน


คำอธิบายดวง "จันทร์ คุรุ สุริยา" ในหนังสือ ปฐมภาคแห่งโหราศาสตร์ ของอาจารย์พลูหลวง

คำว่า "จันทร์ คุรุ สุริยา" หมายถึง ดาวจันทร์ ดาวพฤหัส(คุรุ) และดาวอาทิตย์(สุริยา) ดาวทั้งสามดวงนี้เกี่ยวข้องกันอย่างไร แล้วทำไมจึงตั้งชื่ออย่างนี้ เรามาดูนิยามกันก่อนครับ

อ่านคำอธิบายตามรูปแล้ว สรุปได้ว่า ถ้ามีดาวจันทร์(๒) ดาวพฤหัส(๕) และดาวอาทิตย์(๑) โคจรในราศีเมษ กรกฎ ตุลย์ หรือมังกร โดยจะแยกกันหรือรวมกันในราศีก็ได้ และเมื่อเทียบกับลัคนาแล้ว ต้องไม่อยู่ในเรือนอริ มรณะ หรือวินาศน์ ก็จะเป็นดวงตามที่กำหนดในนิยามครับ

เรื่องสรรพคุณของผู้ที่เกิดในดวงแบบนี้ ผมคงไม่ต้องสาธยายมาก เพราะอ่านคำอธิบายจากรูปแล้ว ก็จะทราบได้ทันทีว่า จะมีความเจริญรุ่งเรืองในชีวิตอย่างไม่ต้องสงสัย แต่จะมากจะน้อยแค่ไหนนั้น ต้องดูว่าดาวดวงอื่นๆสถิตอยู่ในราศีใดและภพอะไรด้วยนะครับ

จากประสบการณ์ที่ผ่านมาของผม พบว่าบุคคลที่มีดวงแบบนี้ มีความเจริญรุ่งเรืองทุกคน แม้ว่าตอนเกิดจะอยู่ในสังคมชนชั้นล่างก็ตาม แต่ก็สามารถกระโจนขึ้นมาอยู่ในสังคมของชนชั้นสูงได้

ต่อคำถามที่ว่า ทำไมดวงประเภทนี้พบเจอได้ยาก ผมขอสรุปกฎเกณฑ์ง่ายๆดังนี้

๑. ต้องอยู่ในปีนักษัตร ฉลู มะโรง มะแม หรือ จอ เท่านั้น ซึ่งพิจารณาได้จาก ดาวพฤหัส(๕)
๒. ต้องอยู่ในเดือน มกราคม เมษายน กรกฎาคม หรือ ตุลาคม เท่านั้น โดยดูดาวอาทิตย์(๑)
๓. ต้องเป็นวันข้างขึ้น-แรม 7-8 หรือ 15 ค่ำ โดยประมาณ โดยดูจากดาวจันทร์(๒)

ความยากอยู่ที่ข้อ ๑ ครับ เพราะถ้าปีไหนมีแล้ว จะต้องเว้นไป 3 ปีจึงจะมีอีกครั้งนะครับ

และในปีที่มีเกณฑ์นี้ ก็จะมีได้ในเดือนที่กำหนดอีกเพียงแค่ 4 เดือนเท่านั้น

และในเดือนที่กำหนด ก็จะมีโอกาสเพียงเดือนละ 8 วัน

สรุปได้โดยคร่าวๆว่า มีโอกาสเกิดดวงแบบนี้ได้แค่ 32 ครั้งในปีหนึ่งๆแล้วจะเว้นไปถึง 3 ปีจึงจะเกิดได้อีกครั้ง

ในปี 2557 ต่อเนื่องกับปี 2558 นี้ ก็จะเหลืออีก 2 เดือนเท่านั้น คือเดือนมกราคมและเมษายน ตามภาพด้านล่างจะบอกวันที่ไว้ให้ ส่วนจะเป็นเวลาอะไรนั้น ต้องลองสอบถามกับโหรดูนะครับ เพราะถ้าอธิบายกันตอนนี้ ความยาวก็คงยาวเหมือนเขียนบทความอีก 18 บทความล่ะครับ



15 มกราคม พ.ศ.2558

20-21 มกราคม พ.ศ.2558

27-28 มกราคม พ.ศ.2558

2-3 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2558

10-11 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2558

19-20 เมษายน พ.ศ.2558

25-27 เมษายน พ.ศ.2558

3-4 พฤษภาคม พ.ศ.2558

10-11 พฤษภาคม พ.ศ.2558