วันอาทิตย์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ดวงอดีตนายกรัฐมนตรี ผู้ลี้ภัยทางการเมือง (ต่อ)

ขี่ม้าเลียบค่ายมาหนึ่งตอนของท่านปรีดี พนมยงค์ คราวนี้จะเขียนถึงท่านต่อไปที่ลี้ภัยไปต่างประเทศ แต่ที่แตกต่างกันก็คือ ท่านนี้สามารถเดินทางกลับเข้าสู่แผ่นดินเกิดได้ แม้ว่าจะมีเหตุการณ์ร้ายๆทางการเมืองตามมาก็ตาม ท่านก็ดำเนินชีวิตของท่านตามปกติจนถึงวันที่ท่านอสัญกรรม ท่านที่ผมจะขอยกเป็นอีกหนึ่งกรณีศึกษาก็คือ จอมพล ถนอม กิตติขจร

ลิ้งค์บทความที่เกี่ยวข้อง
1. ดวงอดีตนายกรัฐมนตรี ผู้ลี้ภัยทางการเมือง
2. ดวงอดีตนายกรัฐมนตรี ผู้ลี้ภัยทางการเมือง (ตอนจบ)



ตอนที่ผมยังเด็ก นายกรัฐมนตรีคนแรกที่ผมรู้จักก็ท่านนี้แหละครับ คำขวัญวันเด็กที่เป็นที่รู้จักและจำได้จนถึงบัดนี้ก็คือ "เด็กดีเป็นศรีแก่ชาติ เด็กฉลาด ชาติเจริญ" คล้องจองและจดจำได้ง่ายมากครับ

โรงเรียนในวัยประถมของผมอยู่บนถนนประชาราษฎร์สาย 2 เขตดุสิต กรุงเทพฯ ได้ยินเสียงรถถังของลูกน้องท่านขับผ่านหน้าโรงเรียนเป็นประจำ เสียงดังนานมากเพราะมีเป็นสิบๆคัน จนเด็กๆต้องวิ่งออกจากห้องเรียนมายืนดู คุณครูก็ไม่อยากตะโกนแข่ง ก็เลยปล่อยเด็กๆสนุกสนานกันไป

เข้าเรื่องดีกว่า ... ก็ต้องขอขอบคุณวิกิพีเดียอีกเช่นเคยสำหรับข้อมูลประวัติศาสตร์บุคคลสำคัญทางการเมืองท่านนี้

จอมพลถนอม กิตติขจร เกิดในวันที่ 11 สิงหาคม พ.ศ.2454 จังหวัดตาก และจากการตรวจสอบเหตุการณ์ต่างๆในชีวิตท่าน ทำให้สามารถทราบได้ว่า ลัคนาของท่านน่าจะอยู่ในราศีเมถุนครับ

ดูตามรูปดวงแล้ว มีลักษณะคล้ายกับดอกพิกุล คือมีดาวอยู่ในมุมโยคหน้าหลัง มุมตรีโกณ และมุมเล็ง จึงเรียกดวงแบบนี้ว่า ดวงดอกพิกุล

เป็นดวงที่มีความเข้มแข็ง และมีสติปัญญาแตกฉาน สอดคล้องกับ ลัคนาราศีเมถุนซึ่งมีความฉลาดในตัวเองอยู่แล้ว คิดอะไรก็มักจะได้หลายแนวทาง มีความคิดที่หลากหลาย ทำอะไรได้หลายๆอย่างพร้อมกัน แถมเจ้าเรือนลัคนาที่เป็นดาวพุธ(๔) ก็อยู่ในตำแหน่งที่ดี คือเป็นทั้งราชาโชคและมหาจักร

ถ้าดูคำพยากรณ์ตามดวงดาวที่สถิตในราศีต่างๆ มีดังนี้

ลัคนา( ลั ) สถิต ราศีเมถุน - ฉลาด ช่างพูด สองจิตสองใจ

อาทิตย์( ๑ ) สถิต ราศีกรกฏ - รักบ้าน ความจำดี ขี้สงสาร อารมณ์แปรปรวน ใจน้อย

จันทร์( ๒ ) สถิต ราศีกุมภ์ - ทันคน เอาตัวรอดเก่ง ชอบสังคม ไม่สนใจเรื่องเสื่อมเสีย

อังคาร( ๓ ) สถิต ราศีเมษ - กล้าหาญ เด็ดขาด เป็นนักสู้ ชอบใช้กำลัง

พุธ( ๔ ) สถิต ราศีสิงห์ - ผู้นำที่ชาญฉลาด คิดการณ์ใหญ่ สุนทรพจน์เยี่ยม

พฤหัส( ๕ ) สถิต ราศีตุลย์ - บริสุทธิ์ยุติธรรม มีความสุขกับความรัก

ศุกร์( ๖ ) สถิต ราศีกันย์ - ไม่จริงจังกับความรัก อกหัก

เสาร์( ๗* ) สถิต ราศีเมษ - มีความตั้งใจ โกรธง่าย สะเพร่า

ราหู( ๘ ) สถิต ราศีเมษ - ชอบผจญภัย ชอบการต่อสู้

เกตุ( ๙ ) สถิต ราศีตุลย์ - รักหัวปักหัวปำ จู้จี้เรื่องคนอื่น

มฤตยู( ๐ ) สถิต ราศีธนู - สติปัญญา จริยธรรมเปลี่ยนแปลงทันทีทันใด

เข้าเค้ามั๊ยครับ สำหรับผมแล้ว คิดว่าน่าจะใช่ แต่มาดูเหตุการณ์เรียงตามลำดับกันก่อนดีกว่า

9 ธันวาคม 2506
ดำรงตำแหน่งนายกฯสมัยที่ 2
เหตุการณ์แรกเป็นการเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสมัยที่ 2 ซึ่งยาวนานที่สุด ในวันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ.2506

ในขณะนั้น ดาวราหู(๘)กุมลัคนา ได้นรเกณฑ์ แสดงถึงความมีอำนาจเด็ดขาด

ดาวพฤหัส(๕) สถิตราศีมีน ได้ตำแหน่งเกษตรในภพกัมมะ ซึ่งหมายถึงการประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน ได้รับการเลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่ง

ดาวเสาร์(๗) สถิตราศีมังกร ได้ตำแหน่งเกษตรในภพมรณะ ซึ่งหมายถึงการได้รับประโยชน์จากการตาย การพลัดพราก หรือมรดก นั่นคือการอสัญกรรมของจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ นั่นเอง

14 ตุลาคม 2516
ลี้ภัยทางการเมือง
เหตุการณ์ที่สอง เป็นการลี้ภัยทางการเมือง อันเนื่องมาจากเหตุการณ์วันมหาวิปโยค ในวันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ.2516

ครั้งนี้ค่อนข้างชัดเจน เพราะดาวพฤหัส(๕) เจ้าเรือนกัมมะสถิตภพมรณะ ในราศีมังกรได้ตำแหน่งนิจซึ่งหมายถึงการตกจากตำแหน่ง การทำงานที่ประสบความล้มเหลว

ดาวราหู(๘)โคจรในราศีธนู ได้ตำแหน่งพินทุบาทว์กับลัคนา ทำให้ต้องพลัดพรากจากครอบครัว จากแผ่นดินเกิด แต่เป็นการจากเพียงชั่วคราวเท่านั้น

ดาวเสาร์(๗)โคจรในราศีเมถุนกุมลัคนา ถึงจะได้ตำแหน่งนรเกณฑ์ แต่ก็ต้องมีการพลัดพรากและประสบกับความทุกข์ยากก่อนแน่นอน เนื่องจากดาวเสาร์(๗)เป็นเจ้าเรือนมรณะของบุคคลราศีเมถุนครับ

19 กันยายน 2519
เดินทางกลับสู่ประเทศไทย
เหตุการณ์ต่อมาเป็นการเดินทางกลับเข้าแผ่นดินเกิด และนำมาซึ่งเหตุการณ์ร้ายแรงในประวัติศาสตร์การเมืองไทย อาจเป็นครั้งที่รุนแรงที่สุดก็ว่าได้

ถ้าดูตามดวงจร ก็เป็นการเดินทางไปไหนมาไหนตามปกติทั้งการเดินทางระยะใกล้และไกล

ดาวพุธ(๔) โคจรในราศีสิงห์สถิตเรือนสหัสชะได้ตำแหน่งราชาโชคและมหาจักร กุมกับดาวพุธ(๔)ในดวงกำเนิด ก็บ่งบอกว่าเป็นการเดินทางติดต่อประสานงานในระยะสั้นๆที่ประสบผลดี และเป็นการได้รับข่าวสารดีๆ

ดาวราหู(๘)เจ้าเรือนศุภะ โคจรในราศีตุลย์สถิตเรือนปุตตะได้ตำแหน่งราชาโชคเช่นกัน กุมกับดาวพฤหัส(๕)ในดวงกำเนิด หมายถึงเป็นการเดินทางจากต่างถิ่นแดนไกลโดยเป็นการเปิดเผยให้สาธารณชนทราบเป็นการทั่วไป และจะส่งผลดีกับตัวท่านเป็นการเฉพาะ

แต่มาดูที่ดาวเสาร์(๗)เจ้าเรือนมรณะ โคจรในราศีกรกฎสถิตเรือนกดุมภะ ได้ตำแหน่งประซึ่งให้โทษอย่างรุนแรง ซึ่งทำให้ท่านถูกยึดทรัพย์

ไม่เพียงเท่านั้นดาวเสาร์(๗) ยังส่งผลร้ายกับดวงเมือง โดยกุมกับดาวจันทร์(๒)กำเนิดในดวงเมือง ทำให้ประชาชนล้มตายเป็นจำนวนมากตามที่ทราบกันดี

16 มีนาคม 2547
ถึงแก่อสํญกรรม
เหตุการณ์สุดท้ายเป็นวันที่ท่านถึงแก่อสัญกรรมนวันที่ 16 มีนาคม พ.ศ.2547

ดาวพุธ(๔)เจ้าเรือนลัคนา โคจรในราศีมีนได้ตำแหน่งนิจ ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ดวงชะตาอ่อนที่สุด คล้ายๆกับนิยายสามก๊กตอนขงเบ้งดูดาวยังไงยังงั้น

ที่สำคัญดาวเสาร์(๗)เจ้าเรือนมรณะยังโคจรในราศีเมถุนกุมลัคนา ทำให้ท่านต้องจากไปในที่สุด

นอกจากนี้ดาวพฤหัส(๕) ยังโคจรกุมดาวพุธ(๔)เจ้าเรือนลัคนาในดวงกำเนิด ที่โบราณกาลถือเป็นดาวฆาตดวงหนึ่งสำหรับผู้ที่ไม่ได้ทำกรรมดีอย่างเพียงพอ

เอาล่ะครับ ในตอนต่อไปจะเป็นตอนจบของนายกรัฐมนตรีผู้ลี้ภัย ส่วนจะเป็นใครนั้น ... โปรดติดตามตอนต่อไปครับ




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น