วันอาทิตย์ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566

รู้จังหวะชีวิต ด้วยโหราศาสตร์ไทย

เชื่อมั๊ย? ผมรู้ตัวก่อนล่วงหน้าถึง 5 ปี ว่าจะต้องเกษียณก่อนกำหนด !!!
ท่านที่เคยอ่านบทความแนะนำตัวของผมในเว็บบล็อก "โหรพิเภก" (https://ipipek.blogspot.com/2014/05/blog-post.html) เผยแพร่เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 ลองอ่านถึงย่อหน้าท้ายๆ ที่บอกว่าจะปลดเกษียณตอนอายุ 55 ปี หรือปีพ.ศ. 2562 ... ทำไมผมจึงพยากรณ์อย่างนั้น มาดูกันครับ

พิจารณาดาวจรกระทบดาวกำเนิด ไล่เรียงไปตามกาลเวลา เริ่มจาก ...

๑. ราหู(๘)จรถึงอังคาร(๓)กำเนิด และเสาร์(๗)กำเนิด ตั้งแต่ปลายปี 60 จนถึง ต้นปี 62 จะถูกบังคับด้วยกฎระเบียบ รวมถึงกฎหมายต่างๆ ทำให้กิจกรรมหรืองานที่ทำหยุดชะงักได้ แต่ข้อดีคือจะได้รับผลประโยชน์มากมาย โดยเฉพาะเรื่องเงินๆทองๆ (ลองย้อนกลับไปดูโพสต์ก่อนๆ เกี่ยวกับลาภใหญ่ครับ)

๒. จากนั้นราหู(๘)จรย้ายสถิตภพกัมมะ ตอนต้นปี 62 ถึง ปลายปี 63 จะเกิดข้อขัดแย้งในการทำงาน หรือมีอุปสรรคปัญหามากมายจากการทำงาน ซึ่งต้องระดมทั้งความรู้ที่มีอยู่ และมีการเรียนรู้ใหม่ๆเกิดขึ้น เพื่อให้กิจกรรมนั้นบรรลุผลสำเร็จให้ได้

๓. ในขณะเดียวกันนั้น เสาร์(๗)จรถึงราหู(๘)กำเนิดในภพกัมมะ ตั้งแต่ปลายปี 60 ถึงต้นปี 63 จะได้ลาภผลเงินทองก้อนใหญ่จากหน้าที่การงาน ... จุดนี้ทำให้ผมคิดว่า ปลายปี 62 นี่แหละ เหมาะที่จะเกษียณที่สุด เพราะเหตุการณ์ลักษณะนี้ เคยเกิดกับผมมาแล้วเมื่อประมาณเกือบ 15 ปีก่อน ต้องออกจากงาน เนื่องจากนายจ้างปิดกิจการ ได้รับเงินชดเชยก้อนใหญ่ทีเดียว

ถ้าผมเกษียณปลายปี 62 แล้วปี 63 ล่ะ หลังจากเกษียณแล้วจะเป็นยังไง

๔. เสาร์(๗)จรย้ายราศีต้นปี 63 ถึงอังคาร(๓)กำเนิด อันนี้บอกว่า งานหนัก งานมีปัญหา งานล่าช้า ไปจนถึงโยกย้ายงาน และตกงาน ซึ่งเหมาะกับการเริ่มสร้างงานของตัวเอง

แต่ แต่ แต่ ...

๕. เสาร์(๗)จรพักร์(ถอยหลัง)ช่วงครึ่งหลังปี 63 ย้ายกลับมาถึงราหู(๘)กำเนิดอีกรอบ ... เอ๊ะ! หรือว่าจะได้เงินก้อนใหญ่อีกรอบ

๖. เสาร์(๗)จรย้ายราศีปลายปี 63 ถึงอังคาร(๓)กำเนิดอีกรอบ จนถึงต้นปี 66 (เหมือนข้อ 4.) งานหนัก งานมีปัญหา งานล่าช้า ไปจนถึงโยกย้ายงาน และตกงาน ซึ่งเหมาะกับการเริ่มสร้างงานของตัวเอง ... แต่คราวนี้เป็นของจริง

อย่างไรก็ตาม เมื่อการโคจรของดวงดาวบอกว่า จะมีโอกาสได้ถึง 2 ครั้ง คือปลายปี 62 และ 63 ... นั่นหมายถึง การเกษียณก่อนกำหนดของผม อาจเป็นได้ทั้งปลายปี 62 และ 63 ด้วยเหมือนกัน ในตอนที่ผมเขียนบทความแนะนำตัวนั้น ผมยังเชื่อมั่น และอยากให้เป็นปี 62 มากกว่า เผื่อว่าจะได้อีกรอบตอนปลายปี 63

แต่เรื่องจริงคือ ปลายปี 62 ยังไม่สามารถเกษียณได้ตามที่หวัง เป็นเพราะผมได้เงินก้อนใหญ่จากผู้มีอุปการคุณแบบคาดไม่ถึง เพื่อมาปิดบัญชีเงินกู้ซื้อบ้าน ซึ่งทำให้ผมปลดหนี้ก้อนนี้หมดเลยทีเดียว ... ผมยังคงมุ่งมั่นทำงานต่อไป ถือว่าไม่เสียหายอะไร เงินเดือนก็มีให้ใช้โดยไม่ต้องผ่อนชำระค่าบ้านแล้ว จนผมลืมสนิทไปเลยว่า ยังมีความหวังอีก 1 ครั้ง

และในที่สุด สวรรค์เข้าข้างผม การยื่นขอเกษียณก่อนกำหนดได้รับการอนุมัติในปลายปี 63 จริงๆ (ตามข้อ 5.) หลังจากที่รอมานาน ได้รับเงินชดเชยมากโข ปิดบัญชีเงินกู้ซื้อรถยนต์อีกนิดหน่อย เป็นอันหมดหนี้หมดสิน 100 เปอร์เซนต์ สบายใจเฉิบ

... ผ่านมาแล้ว 2 ปีกว่า (ตามข้อ 4.) ผมมีเวลาสร้างสรรค์ผลงานออกมาหลายชิ้น ตามที่ทุกๆท่านได้เห็นผ่านตากันมาแล้ว และชีวิตก็เป็นไปตามลักษณะการโคจรของดวงดาวทุกประการ ซึ่งเป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่า

"ผู้ที่เรียนรู้ และเข้าใจการโคจรของดวงดาว
ย่อมวางแผนชีวิตได้ดีกว่าไม่เรียนรู้อะไรเลย"


วันจันทร์ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566

"ราหู" ส่งผลดีได้อย่างไร

พอราหูย้ายราศีแต่ละครั้ง ก็มักจะมีหมอดูออกมาทำนายถึงความร้ายแรงอยู่ตลอดเวลา และเมื่อเดือนตุลาคม 2566 ที่ผ่านมาก็เช่นกัน ได้มีการโฆษณาประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนที่สนใจ ไปกราบไหว้รูปเคารพที่มีความศรัทธาอยู่เนืองๆ


ดาวราหู(๘) เป็นดาวบาปเคราะห์ที่ดูน่ากลัวสำหรับหลายๆคน เพราะมักจะทำให้เกิดเรื่องร้ายๆบ่อยครั้ง เช่น ป่วย ทะเลาะ บางทีถึงขั้นเสียชีวิต แม้แต่โหรบางท่านที่ลัคนาสถิตราศีกุมภ์ มีราหู(๘)เป็นตนุลัคน์ ก็ยังทำใจไม่ค่อยได้(ฮา) ด้วยกลัวฤทธิ์ของราหูนั่นเอง

จริงๆแล้ว ราหู(๘) มีทั้งคุณและโทษ เวลาให้คุณขึ้นมาละก็ เกินคุ้มเลยทีเดียว การวิเคราะห์ถึงการให้คุณก็ไม่ยากเย็นอะไร สามารถดูจากตำแหน่ง เกษตร อุจ องค์เกณฑ์ ตามตำราว่าไว้

ส่วนจะเป็นเรื่องหรือเหตุการณ์อะไรนั้น ก็ดูจากเรือนที่สถิตอยู่ และราหู(๘)เป็นเจ้าเรือนอะไร ... ไม่ยากนะครับ

ผมมีตัวอย่างจากตำราเล่มหนึ่ง ก็มีความเห็นเกี่ยวกับราหูไปในทางที่ดีและร้าย ตามรูปใต้โพสต์นี้ ที่สำคัญคือ ผมมีตัวอย่างดวงจริง ประสบการณ์จริง ให้ดูด้วยว่า เป็นไปตามตำราจริงๆ ...

ดวงนี้เป็นนักเรียนโรงเรียนเตรียมอุดม ศึกษา ซึ่งเป็นโรงเรียนระดับชั้นมัธยมปลายอันดับ 1 ของประเทศ ที่สอบเข้าได้ยากมากที่สุด
 
ในขณะที่สอบเข้าเรียนชั้นมัธยมต้น เด็กคนนี้ก็สอบเข้าได้เป็นอันดับ 1 ของโรงเรียนอีกด้วยนะครับ นั่นหมายถึงการเป็นผู้มีสติปัญญาเฉียบแหลมเป็นอย่างยิ่ง ...

เอาไว้สอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ก่อน แล้วผมจะมาเล่าให้ฟังอีก ดูจากมฤตยู(๐)กุมลัคน์แล้ว ไม่พ้นแพทย์ หรือวิศวะ หรือเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีขั้นสูงแน่ๆครับ.


ดวงแต่งงาน ดูอย่างไร

ปลายปีพ.ศ.2565 ผมถูกไหว้วานให้ช่วยดูฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่เพื่อจัดงานมงคลสมรสไปพร้อมๆกัน ถ้าเพียงแต่ขึ้นบ้านใหม่ ก็คงเลือกวันดีตามหลักกาลโยค แล้วย้ำความปังด้วยฤกษ์จันทร์อีกทีหนึ่ง ... แต่นี่จะจัดพิธีมงคงสมรสด้วย แบบนี้ก็ต้องขอวันเดือนปีเกิด เวลาตกฟาก และจังหวัดเกิด ของทั้งคู่บ่าวสาวมาตรวจดูก่อนว่า จะมีโอกาสแต่งงานกันหรือไม่

หลังจากตรวจดูแล้ว ยืนยันได้ว่าวันเกิดของเจ้าสาวเป็นข้อมูลที่ถูกต้องเมื่อเทียบกับเหตุการณ์ในอดีต แต่สำหรับของเจ้าบ่าว ยังไม่มีเหตุการณ์ในอดีตมายืนยัน ก็เลยต้องใช้ดวงของเจ้าสาวเพียงดวงเดียว
โดยปกติ กฎเกณฑ์ที่ใช้วิเคราะห์กันทั่วไป มักเป็นดังนี้

๑. พฤหัส(๕)จรกุมจันทร์(๒)กำเนิด หรือ พฤหัส(๕)จรสถิตเรือนปัตนิ / อันนี้ผมพบเจอเป็นส่วนใหญ่จากการดูดวง ไม่ว่าจะเป็นเพศหญิงหรือชาย
๒. ตนุลัคน์จร หรือ ดาวศุภเคราะห์จร(มากกว่า 1 ดวง) สถิตเรือนปัตนิ
๓. เจ้าเรือนปัตนิจรสถิตเรือนปัตนิ หรือเป็นเกษตร
๔. เจ้าเรือนปัตนิจรกุมเจ้าเรือนปัตนิกำเนิด
๕. ...

สรุปแบบง่ายๆ คือมีดาวศุภเคราะห์จรโดยเฉพาะ พฤหัส(๕) และศุกร์(๖) โคจรสัมพันธ์กับเรือนปัตนิหรือเจ้าเรือนปัตนิกำเนิดนั่นเอง

แต่ถ้าใครแต่งงาน หรือมีครอบครัวอยู่แล้ว และบังเอิญมาอ่านโพสต์นี้เข้า แล้วเห็นว่าดาวกำลังโคจรเข้าตามเกณฑ์ที่ผมบอกนี้ ก็อย่าริอ่านไปแต่งซ้ำซ้อนนะครับ ... เดี๋ยวมีเรื่อง (ฮา)





วันพุธที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566

ดวงมีลาภใหญ่ ดูอย่างไร

อ่านข่าวเห็นคนถูกรางวัลที่ 1 ถึง 2 ครั้ง ก็เลยไปหาสถิติเก่าๆของคนที่ถูกรางวัลที่ 1 เช่นกันตามรูปในโพสต์นี้ เทียบกับหลักเกณฑ์ทางโหราศาสตร์ และประสบการณ์จริงที่ผมก็เคยได้คล้ายๆแบบนี้ ขอเน้นว่า มักจะได้เป็นเงินทองก้อนใหญ่ๆ ... ดังนี้ครับ

"อสุรินทร์(๘)ต้องเสารา(๗)
พระสุริยา(๑)ต้องครู(๕)เป็นคู่คง
เสาร์(๗)เล็งอสุรา(๘)ท่านว่าไว้
เป็นโชคใหญ่ในปีนั้นดังประสงค์"

หมายถึง ราหู(๘)จรถึงเสาร์(๗)กำเนิด และ เสาร์(๗)จรถึงราหู(๘)กำเนิด และอาทิตย์(๑)จรถึงพฤหัส(๕)กำเนิด

แต่ตามประสบการณ์จริง และตามรูปดวงตัวอย่างของจริงนี้ ปรากฎว่า ราหู(๘)จรถึงเสาร์(๗)กำเนิด หรือ เสาร์(๗)จรถึงราหู(๘)กำเนิด อันใดอันหนึ่งก็ได้ครับ แล้วรอให้อาทิตย์(๑)จรถึงพฤหัส(๕)กำเนิดหรือเพียงแค่เข้าใกล้ ก็จะได้ลาภใหญ่เหมือนกันครับ

ส่วนจะได้จากเรื่องอะไรนั้น ต้องดูกันเป็นรายๆไป เช่น ในดวงตัวอย่างนี้ พฤหัส(๕)เจ้าเรือนลาภะได้ตำแหน่งอุจ และตนุลัคน์(๖)สถิตเรือนปุตตะ เรียกว่ามีโชคดีและชอบเสี่ยงโชคอยู่แล้วตามดวงกำเนิด ก็เลยได้จากการเสี่ยงโชคนั่นเอง

บางคนได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์
บางคนได้จากการกู้เงินจากสถาบันการเงิน
บางคนได้จากการใช้เงินลงทุน ...

คือคนที่ไม่ชอบเสี่ยงโชคก็มีโอกาสได้เช่นกันครับ จากประสบการณ์จริง ผมเองเคยได้จากการทำงานแต่ต้องมีการพลัดพราก ...

ครั้งแรก ผมได้จากเบี้ยเลี้ยงเดินทางไปทำงานที่ต่างประเทศ ต้องพลัดพรากจากบ้านเกิดเมืองนอน
ครั้งที่สอง ได้จากเงินชดเชยออกจากงาน เพราะองค์กรไม่ดำเนินกิจการต่อ ต้องพลัดพรากจากผู้ร่วมงานทั้งหมด
ครั้งที่สาม ก็ได้ชดเชยออกจากงานเช่นกัน ต้องพลัดพรากจากผู้ร่วมงานอีกเช่นกัน
ตอนนี้ ผมรอครั้งที่สี่อยู่ครับ (ฮา) ...



ดวงประสบอุบัติเหตุ จากประสบการณ์จริง

ผมจำภาพที่พี่สาวคนโตไปส่งผมขึ้นรถไฟที่สถานีหัวลำโพงได้ดี วันนั้นคือวัน "รับน้องรถไฟ" (เดือนพฤษภาคม พ.ศ.2526 ) ที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อเป็นการต้อนรับน้องใหม่ และช่วยคลายความห่วงใยของครอบครัวที่ต้องจากกันไปไกล ซึ่งในสมัยนั้นยังไม่มีอินเตอร์เน็ต และโทรศัพท์มือถือให้ใช้เหมือนปัจจุบัน มีแต่โทรศัพท์บ้านที่ค่าโทรทางไกลแสนแพง

เธอน้ำตาคลอเบ้าด้วยความสงสารน้องชาย เพราะผมเป็นเด็กเนิร์ด ชีวิตมีแต่การเรียน ไม่เคยไปไหนไกลๆมาก่อน มีแค่ เช้าออกจากบ้าน ไปโรงเรียน เย็นกลับบ้าน ... วนเวียนอยู่แค่นี้จริงๆ แล้วจะเอาตัวรอดได้ยังไง ทำอะไรๆด้วยตัวเองก็ไม่ค่อยเป็น

การเรียนที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ของผมเป็นไปด้วยดีจนจบภาคเรียนที่ 1 ... ปิดเทอมแล้ว ผมเดินทางไกลกลับบ้านเองคนเดียว ชีวิตดูแกร่งขึ้นมากโข เพราะทำอะไรๆด้วยตัวเองทั้งหมด โดยไม่ต้องมีครอบครัวมาคอยดูแลอีกแล้ว

ถึงบ้าน ผมเจอแม่รอรับผมอยู่คนเดียว "คนอื่นๆหายไปไหนกันหมดครับ"
คำแรกที่ได้ยินจากแม่คือ "พี่ตุ้ยถูกรถชน ตอนนี้อยู่ในห้องไอซียู"
ผมเริ่มใจหายแว๊บ ขมวดคิ้ว ถามต่อ "เมื่อไหร่"
"2 3อาทิตย์ก่อน" แม่ตอบเหมือนชินกับสถานการณ์แล้ว
พี่ตุ้ยถูกรถชนในช่วงที่ผมกำลังสอบปลายภาค ก็เลยไม่มีใครกล้าโทรบอก
"อาบน้ำกินข้าวแล้วไปโรงพยาบาลกัน" แม่เสียงสั่นเครือ ...

ผมขึ้นแท็กซี่ไปโรงพยาบาลกับแม่ทันทีด้วยชุดเดิม ... ถึงโรงพยาบาล แม่พาผมไปยืนอยู่หน้าห้องไอซียู

ผมน้ำตาคลอเบ้าด้วยความสงสารพี่สาว เพราะเธอเป็นเด็กเนิร์ดเช่นเดียวกัน ชีวิตมีแต่หนังสือ เช้าออกจากบ้าน ไปทำงาน เย็นกลับบ้าน อ่านหนังสือ ... วนเวียนอยู่แค่นี้จริงๆ

วันเกิดเหตุ เป็นวันที่เธอกำลังไปติวหนังสือให้เพื่อนๆที่เรียนป.โทด้วยกัน ... รถเมล์จอดห่างจากฟุตบาท เธอก้าวจากรถลงบนพื้นถนน ในขณะที่มีมอร์เตอร์ไซค์ขับเลียบฟุตบาธพุ่งเข้ามาชนเธอล้มลง หัวกระแทกกับฟุตบาธ จนเลือดออกในสมอง ต้องเข้ารับการผ่าตัดโดยด่วน ...

นี่เป็นเรื่องจริงที่ขอฝากไว้เป็นอุทาหรณ์ในการใช้รถใช้ถนน อย่าทำผิดกฎจราจร และอย่าประมาท ... ตอนนี้เธอเสียชีวิตไปนานประมาณ 20 ปีแล้วครับ (พ.ศ.2546)



เล่ามาเสียยืดยาว ผมขออนุญาตนำดวงชะตาของเธอในวันที่เกิดอุบัติเหตุ มาวิเคราะห์ให้ได้เรียนรู้กันเป็นกรณีศึกษา ซึ่งการเรียนรู้จากตำราแต่เพียงอย่างเดียว คงไม่สามารถทำให้เกิดความน่าเชื่อถือของโหราศาสตร์ไทยได้ดีนัก นอกจากการเปรียบเทียบกับประสบการณ์จริง ... ดังนี้ครับ
(วิเคราะห์ส่วนที่เกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุเท่านั้น)

ดวงกำเนิด
๑. ลัคนา(ลั)สถิตราศีกรกฎ / รักถิ่นที่อาศัย ชอบอยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือน ... ข้อเท็จจริงเป็นไปตามตำรา
๒. มฤตยู(๐)กุมลัคนา(ลั) / กระต่ายตื่นตูม ตื่นเต้นตกใจง่าย alert จนดูซุ่มซ่าม ... อันนี้ก็จริงตามตำรา
๓. ตนุลัคน์(๒)ได้นิจกุมอังคาร(๓)และเสาร์(๗) / เป็นหญิงห้าว อารมณ์ร้อน ทุกข์ใจเสมอ ทำงานอย่างอดทน ... ตามนั้น
๔. อังคาร(๓)กุมเสาร์(๗) / คู่ผ่าตัด ... ส่งผลกับตนุลัคน์(๒)ที่กุมกันอยู่ ทำให้ต้องมีการผ่าตัดใหญ่จริงๆ

ดวงจรวันที่เกิดอุบัติเหตุ
๑. มฤตยู(๐)จรกุมตนุลัคน์(๒)กำเนิด / เปลี่ยนใจง่าย ตัดสินใจไม่เด็ดขาด
๒. มฤตยู(๐)จรกุมอังคาร(๓)กำเนิด / พบเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ทำกิจกรรมที่เสี่ยงกับอุบัติเหตุ
๓. มฤตยู(๐)จรกุมเสาร์(๗)กำเนิด / โรคทางสมอง หัวใจวาย ถึงแก่กรรมผิดธรรมชาติ ... ข้อเท็จจริงคือต้องผ่าตัดสมอง
๔. อังคาร(๓)จรกุมลัคนา(ลั) / ถูกทำร้าย เจ็บป่วย ... ข้อเท็จจริงคือถูกรถชน
๕. อังคาร(๓)จรกุมมฤตยู(๐)กำเนิด / คู่อุบัติเหตุ เจ็บเนื้อเจ็บตัว
๖. ตนุลัคน์(๒)จรสถิตเรือนมรณะ / เป็นเงื่อนไขย้ำให้ประสบอุบัติเหตุในวันนั้น

สำหรับดวงอื่นๆก็ใช้หลักการคล้ายๆกันนี้ คือดาวที่เกี่ยวข้องทุกดวงต้องทำหน้าที่อย่างสอดคล้องกัน จะใช้เพียงดาวเดียวก็คงตัดสินไม่ได้ว่าเหตุการณ์จะเกิดขึ้นจริงๆ ... นี่เป็นประการสำคัญ