วันเสาร์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

เรียนโหราศาสตร์ไทยเบื้องต้นแบบเป็นเร็ว ตอนที่ 1

จุดประสงค์ของบทความนี้ ก็เพื่อต้องการทำให้เกิดความเข้าใจว่า โหราศาสตร์ไทยไม่ใช่วิชาที่เร้นลับ ไม่ใช่วิชาที่ว่าด้วยอิทธิฤทธิ์ปาฏิหารย์แต่อย่างใด แต่เป็นวิชาที่มีต้นกำเนิดมาจากหลักการทางวิทยาศาสตร์(Science) ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของดาราศาสตร์(Astronomy) คณิตศาสตร์(Mathematics) สถิติศาสตร์(Statistics) รวมไปถึงวิชาการทางด้านศิลปศาสตร์(Liberal arts) เช่น ปรัชญา(Philosophy) และตรรกวิทยา(Logic) ที่สำคัญคือ เป็นวิชาที่สามารถศึกษาด้วยตนเองได้แบบเป็นเร็วๆด้วย

ในรายละเอียดของวิชาที่เกี่ยวข้องข้างต้นนั้น คงต้องยกไปเขียนเป็นตำราให้ได้ศึกษากันอย่างเป็นจริงเป็นจังกันต่อไป ในตอนนี้ผมขอสรุปกฎเกณฑ์ที่สำคัญและนิยามคำศัพท์ทางเทคนิคที่จะต้องจดจำเป็นเบื้องต้นก่อน เพื่อที่จะนำไปใช้ในการศึกษาขั้นต่อๆไปได้อย่างราบรื่นสำหรับผู้ที่ไม่เคยศึกษามาก่อน

ขอเน้นว่า ต้องท่องจำเรื่องต่อไปนี้ให้ขึ้นใจก่อน ยังไม่ต้องสนใจที่มานะครับ

ลิ้งค์บทความที่เกี่ยวข้อง

๑. ธาตุ

มี 4 ประเภทคือ

ธาตุไฟ ก็คือแหล่งพลังงานรูปหนึ่งซึ่งให้ความร้อนแก่ทุกสรรพสิ่งเพื่อให้สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ เป็นธาตุเชิงรุก มีลักษณะของการเร่งเร้า การบังคับควบคุมบงการ ความมุ่งมั่น ถ้าเป็นคนก็คงจะมีนิสัยใจร้อน กระตือรือร้น ชอบนำ ชอบบุกเบิก มีความมั่นใจในตัวเอง

ธาตุน้ำ ซึ่งก็คือของเหลวนั่นเอง ให้ความเย็นคอยหล่อเลี้ยงสรรพสิ่งต่างๆให้สามารถประสานกันได้
เป็นธาตุเชิงรับ มีลักษณะของความกลมกลืน การปรับตัว การประสาน คนธาตุน้ำปกติจะมีนิสัยใจเย็น เรียบร้อย อ่อนไหว ประนีประนอม

ธาตุลม ไม่ได้หมายถึงลมที่พัดทั่วไปแต่เพียงอย่างเดียว แต่หมายรวมถึงอากาศ ทั้งที่อยู่กับที่และเคลื่อนไหวไปมา แม้แต่แรงโน้มถ่วงของโลกก็ตาม เป็นธาตุเชิงรุก มีลักษณะของการพยุงตัว การอยู่เหนือกฎเกณฑ์ นิสัยของคนธาตุลมมักเป็นคนช่างคิด ช่างฝัน ช่างจินตนาการ มีไหวพริบปฏิภาณ

ธาตุดิน ไม่ว่าจะเป็นของแข็ง ของนุ่ม เป็นผง เราถือว่านี่คือธาตุดิน ซึ่งถือเป็นวัตถุดิบที่ก่อให้เกิดความเป็นรูปร่าง เป็นธาตุเชิงรับ มีลักษณะของความหนักแน่น ความมั่นคง เคร่งครัด คนธาตุดินจะมีนิสัยใจคอหนักแน่น เสียสละ รอบคอบ เจ้าระเบียบ เป็นนักอนุรักษ์นิยม


๒. ดาว

ใช้ดาวทางดาราศาสตร์ 10 ดวงที่อยู่ในระบบสุริยจักรวาลดังนี้

ดาวอาทิตย์(๑) - SUN
หัวหน้าของดาวในภาคกลางวัน ไม่ต้องสาธยายมากก็พอจะเดาความหมายกันได้อยู่แล้ว ถ้าเป็นคนก็ต้องเป็นคนรักเกียรติรักศักดิ์ศรี มีความเป็นผู้นำ ชอบความโอ่อ่า เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ เสียสละ

ดาวจันทร์(๒) - MOON
หัวหน้าของดาวในภาคกลางคืน สามารถดูด้วยตาเปล่าได้ ให้ความรู้สึกเย็น ถ้าเป็นคนก็จะมีนิสัยเรียบร้อย อ่อนไหวคล้ายผู้หญิง อารมณ์แปรปรวน ปรับตัวง่าย น่ารักน่าใคร่

ดาวอังคาร(๓) - MARS
เขาว่าเป็นเทพเจ้าแห่งสงคราม ก็น่าจะใกล้เคียงอยู่ เพราะมีนิสัยกล้าหาญเด็ดเดี่ยว ใจกล้าบ้าบิ่น อารมณ์ร้อน ขยันขันแข็ง กระตือรือร้น ชอบออกหน้า เป็นนักบุกเบิก

ดาวพุธ(๔) - MERCURY
นี่คือเทพเจ้าแห่งปัญญา เป็นปัญญาทางโลก มีไหวพริบปฏิภาณ ฉลาดคิดฉลาดพูด ชอบเจรจาประสาทะ ถนัดการประชาสัมพันธ์ งานเขียน งานประพันธ์

ดาวพฤหัส(๕) - JUPITER
เป็นดาวครูบาอาจารย์ หมายถึงการมีปัญญาในทางธรรม มีคุณธรรม เชื่อมั่นในความคิดตนเอง เป็นนักวิชาการ ใจอารี มีความสุขสงบ คิดดี เป็นกุนซือ หรือที่ปรึกษาที่ดี

ดาวศุกร์(๖) - VENUS
ฝรั่งยกให้เป็นเทพเจ้าแห่งความรัก เป็นผู้ที่มีอารมณ์สุนทรี รักดนตรี รักศิลปะ โรแมนติก รักหมู่คณะ รักธรรมชาติ รักสวยรักงาม ค่อนข้างเจ้าชู้

ดาวเสาร์(๗) - SATURN
เป็นดาวแห่งความทุกข์ นิสัยเงียบขรึม ค่อนข้างเครียด วิตกกังวล มีความมานะอดทนสูง รอบคอบ ตกอยู่ในภาวะหรือในกรอบของข้อจำกัด อืดอาด ชักช้า

ดาวราหู(๘)
เป็นจุดคราสทางดาราศาสตร์ มีนิสัยลุ่มหลงอะไรได้ง่าย ทำตามอารมณ์ตนเอง ขี้โมโห โกรธง่ายหายเร็ว เอะอะโวยวาย ซุ่มซ่าม ชอบให้คนยกยอปอปั้น เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย เอาแน่นอนไม่ได้ เจ้าเล่ห์ทันคน

ดาวเกตุ(๙) 
เป็นจุดคราสทางดาราศาสตร์เช่นกัน เป็นคนหัวโบราณ คร่ำครึ เชย แต่มีความคิดแปลกๆไม่เหมือนใคร บางครั้งก็ล้ำสมัยบางทีก็ล้าสมัย เอาใจยากเนื่องจากใครๆก็ตามความคิดไม่ค่อยทัน

ดาวมฤตยู(๐) - URANUS
ชอบการเปลี่ยนแปลง การปฏิวัติ มีความมั่นใจในตัวเองสูง ขี้หงุดหงิด ชอบเทคโนโลยีที่ทันสมัย สนใจศาสตร์ลี้ลับที่ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้


๓. ราศี

เราแบ่งวงโคจรของดาวในระบบสุริยจักรวาลเป็น 12 ส่วนตามกลุ่มดาวฤกษ์ เรียกว่าราศี แต่ละราศีก็จะมีสัญลักษณ์ ธาตุ และดาวประจำตัว โดยทั้ง3สิ่งนี้จะเป็นส่วนผสมในการบ่งบอกลักษณะนิสัยเฉพาะตัว ดังนี้

เมษ(ARIES)
สัญลักษณ์ - แกะ
ธาตุประจำราศี - ไฟ
ดาวประจำราศี - อังคาร (๓)
แกะเป็นสัตว์ที่ชอบหากินในทุ่งหญ้าโล่งแจ้ง จึงเปรียบเทียบคล้ายกับคนที่มีนิสัยรักอิสระ เสรี และราศีเมษเป็นจุดเริ่มต้นของทุกราศี ดังนั้นจึงเป็นคนที่ชอบการบุกเบิก การเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ แต่มักใจร้อนบุ่มบ่าม เป็นนักต่อสู้ที่ไม่ย่อท้อ ชอบการพัฒนา ขยันขันแข็ง กล้าหาญ กล้าได้กล้าเสีย ถึงลูกถึงคน

พฤษภ(TAURUS)
สัญลักษณ์ - วัว
ธาตุประจำราศี - ดิน
ดาวประจำราศี - ศุกร์(๖)

นิสัยของวัวคือรักสงบ แข็งแรง บึกบึนถ้าเป็นคนก็จะมีลักษณะของการเป็นนักปฏิบัติ มีความหนักแน่น มั่นคงในความคิด ดื้อรั้น เปลี่ยนแปลงยาก ไปจนถึงการเป็นนักอนุรักษ์นิยม รักธรรมชาติ มีอารมณ์สุนทรี เป็นที่รักแก่บุคคลทั่วไป

เมถุน(GEMINI)
สัญลักษณ์ - คนคู่
ธาตุประจำราศี - ลม
ดาวประจำราศี - พุธ(๔)

ไม่ต้องบอกก็คงพอเดากันได้ว่า เป็นผู้ที่ทำอะไรได้หลายๆอย่างในเวลาเดียวกัน จนเหมือนกับการจับปลาสองมือ สติปัญญาเฉียบแหลม มีความคิดหลากหลาย เป็นนักเจรจาที่มีพรสวรรค์ แต่บางทีก็ดูลังเล รักพี่เสียดายน้อง

กรกฎ(CANCER)
สัญลักษณ์ - ปู
ธาตุประจำราศี - น้ำ
ดาวประจำราศี - จันทร์(๒)
ลักษณะของปูโดยทั่วไปมักจะรักถิ่นที่อาศัย รักสะอาด ภายนอกดูแข็งแกร่งแต่ภายในจิตใจกลับเปราะบาง อ่อนไหว อารมณ์แปรปรวนได้ง่าย มีความระมัดระวังตัว ชอบเอาใจใส่ดูแลผู้อื่น กิริยาอ่อนหวาน น่ารักน่าใคร่

สิงห์(LEO)
สัญลักษณ์ - สิงโต
ธาตุประจำราศี - ไฟ
ดาวประจำราศี - อาทิตย์(๑)

ได้รับสมญานามว่าเจ้าแห่งสัตว์ป่า บ่งบอกถึงการมีบุคลิกของความเป็นผู้นำ มีความสามารถในการดึงดูดจิตใจผู้คนรอบข้าง ชอบความใหญ่โต โอ่อ่า ภูมิฐาน อารมณ์ค่อนข้างร้อน ไม่ค่อยฟังใคร แต่จิตใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่

กันย์(VIRGO)
สัญลักษณ์ - ผู้หญิง
ธาตุประจำราศี - ดิน
ดาวประจำราศี - พุธ(๔)

มักจะเฉลียวฉลาด ละเอียดรอบคอบ พิถีพิถัน เจ้าระเบียบ จนถึงจู้จี้จุกจิก ตามลักษณะทั่วไปของเพศหญิง ทำงานด้วยความประณีต มีพิธีรีตองค่อนข้างมาก แต่ดูคล่องตัว มองโลกในแง่ของความเป็นจริงสามารถจับต้องได้เป็นรูปธรรม

ตุลย์(LIBRA)
สัญลักษณ์ - คันชั่ง
ธาตุประจำราศี - ลม
ดาวประจำราศี - ศุกร์(๖)

ลักษณะของคันชั่งก็บ่งบอกอยู่แล้วว่าต้องเป็นผู้มีดุลยภาพทั้งความคิดและการกระทำ รักความยุติธรรม รักพวกพ้อง มองเรื่องส่วนรวมเป็นเรื่องใหญ่ รักศิลปะ มีอารมณ์ค่อนข้างโรแมนติก รักสนุก ชอบความบันเทิงเริงรมย์

พิจิก(SCORPIO)
สัญลักษณ์ - แมงป่อง
ธาตุประจำราศี - น้ำ
ดาวประจำราศี - อังคาร(๓)

ลองนึกถึงแมงป่อง ก็คงมองเห็นถึงความน่าเกรงขาม ดูเหมือนใจเย็น เก็บความรู้สึกเก่ง แต่โต้ตอบด้วยความรุนแรง แข็งแกร่ง เต็มไปด้วยพละกำลัง ขยันขันแข็ง จิตใจกล้าหาญ มีพลังภายในที่สามารถสะกดให้ผู้อื่นรู้สึกยำเกรง ไม่กล้าตอแย

ธนู(SAGITTARIUS)
สัญลักษณ์ - ธนู
ธาตุประจำราศี - ไฟ
ดาวประจำราศี - พฤหัส(๕)

เมื่อนายพรานโก่งคันธนูก็ต้องมุ่งหวังว่าจะต้องได้เหยื่อ เช่นเดียวกับคนที่มีความมั่นใจในตนเอง มุ่งมั่น ตั้งใจ มีความคาดหวังสูง เชื่อมั่นในความคิดตัวเอง จนบางครั้งกลายเป็นคนดื้อรั้น มองการณ์ไกล ต้องการประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว

มังกร(CAPRICORN)
สัญลักษณ์ - แพะ, มังกร
ธาตุประจำราศี - ดิน
ดาวประจำราศี - เสาร์(๗)

เป็นแพะที่ชอบหากินตามหุบเขาสูงชัน เปรียบกับคนที่มีความพากเพียรและทรหดอดทนเป็นเลิศ ใจคอหนักแน่นไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคหรือความยากลำบาก ค่อนข้างเครียด อมทุกข์ พูดน้อย ไม่ค่อยชอบพึ่งพาผู้ใด ถ้าทำเองได้ก็จะลงมือทำเอง ค่อนข้างเคร่งครัดในเรื่องระเบียบวินัย

กุมภ์(AQUARIUS)
สัญลักษณ์ - คนเทน้ำ
ธาตุประจำราศี - ลม
ดาวประจำราศี - ราหู(๘)

ทำไมต้องเป็นคนกำลังเทน้ำ เดาไม่ออกใช่ไหม นี่คือสิ่งที่คนทั่วไปคิดไม่ถึง เขาเป็นคนฉลาด ทันคน บางครั้งกลายเป็นคนเจ้าเล่ห์ไปเลยก็มี บางทีก็เอาอะไรแน่นอนไม่ได้ โวยวายโผงผาง มีสังคมกับผู้คนมากหน้าหลายตา ชอบเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีหรือวิทยาศาสตร์ แต่บางทีก็ชอบเสี่ยงโชค

มีน(PISCES)
สัญลักษณ์ - ปลาคู่
ธาตุประจำราศี - น้ำ
ดาวประจำราศี - พฤหัส(๕)

มีปลาน้อยชนิดที่จะทำอันตรายสัตว์อื่น ถ้าเป็นคนก็คงมีลักษณะใจเย็น ใจดี ปรับตัวเข้ากับผู้อื่นได้ง่าย รักสงบ จิตใจและอารมณ์อ่อนไหว มักจะโอนอ่อนผ่อนตาม ไม่ชอบขัดแย้งกับใคร ขี้สงสาร มีคุณธรรม พอใจในสิ่งที่ตัวเองมีอยู่


๔. ดวง

รูปดวงที่ใช้แทนภาพสุริยจักรวาล
รูปดวงแบ่งตามตำแหน่งราศี
รูปดวงแบ่งตามธาตุ
รูปดวงแบ่งตามดาวประจำราศี

รูปสุดท้ายคือดาวประจำตำแหน่งราศี อันนี้จำไว้ให้ดีๆนะครับ เพราะมีบทบาทมากในการพยากรณ์ดวงชะตา

เอาล่ะครับ คราวนี้ขอให้ท่องจำกันให้ได้ หวังว่าคงไม่ยากจนเกินไป คราวหน้ามาเริ่มการพยากรณ์ดวงชะตากำเนิดอย่างง่ายๆกัน



วันจันทร์ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

ฤกษ์คลอด ตอนที่ ๘ - วิชาการ (จบ)

มาว่ากันต่อจากตอนที่แล้วครับ คราวนี้เป็นเรื่องกฎเกณฑ์ที่สำคัญมากทางโหราศาสาตร์ ที่จะช่วยให้ฤกษ์คลอดที่ได้นั้นส่งผลดีกับเด็กในระดับสูงหรือต่ำเพียงใด


ลิ้งค์บทความที่เกี่ยวข้อง
1. ฤกษ์คลอด ตอนที่ ๗ - วิชาการ



6. มาตรฐานดาว

สิ่งที่ควรนำมาพิจารณาเป็นอันดับแรกก่อนการพยากรณ์ ก็คือเรื่องของตำแหน่งมาตรฐานต่างๆของดาวในดวงชะตาว่ามีคุณภาพความมั่นคงแข็งแรงหรืออ่อนแอเพียงใด เพื่อเอาไว้ใช้ในการพยากรณ์ให้มีความหนักเบาของเหตุการณ์ตามแต่คุณภาพของดาว

ตำแหน่งที่ให้คุณมากได้แก่ เกษตร อุจจ์ มหาจักร ราชาโชค
ตำแหน่งที่ให้โทษมากได้แก่ ประ นิจ

ส่วนตำแหน่งมาตรฐานดาวดังกล่าวจะอยู่ที่ราศีไหนบ้างนั้น ศึกษาได้จากตำราโหราศาสตร์ไทยพื้นฐานทั่วๆไป


7. องค์เกณฑ์

นอกจากตำแหน่งมาตรฐานของดาวดังได้กล่าวมาแล้วนั้น ยังมีกฎเกณฑ์สำคัญที่จะช่วยแสดงถึงวาสนาของเจ้าชะตาว่าจะประสบความสำเร็จในชีวิตได้มากน้อยเพียงใด

เรียกว่า องค์เกณฑ์ ได้แก่ ปัศวเกณฑ์ นรเกณฑ์ อำพุเกณฑ์ และกีฏเกณฑ์

เรื่องเกี่ยวกับองค์เกณฑ์นี้ ถือกันว่าเป็นเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่งที่โหรไทยนิยมยกย่อง เนื่องจากว่าถึงดาวจะได้มาตรฐานต่ำแต่ก็ยังให้คุณได้เป็นอย่างดี

วิธีพิจารณาว่าดวงชะตามีองค์เกณฑ์หรือไม่นั้น มีรายละเอียดค่อนข้างมากพอสมควร จึงไม่ขอกล่าวถึงในที่นี้


8. ดาวเข้ารูปต่างๆ

เรื่องรูปแบบของดาวก็เป็นอีกอันหนึ่งที่โหรไม่ควรมองข้ามยกตัวอย่างเช่น ปัญจมหาบุรุษโยค จตุสดัยเกณฑ์ เจ้าเรือนลัคนาเป็นอุจจ์หรือเกษตร จันทร์ครุสุริยา ตรีโกณ สามเส้า มาลัยโยค ฯลฯ ซึ่งก็มีรายละเอียดค่อนข้างมากเช่นกัน จึงไม่ขอกล่าวในที่นี้ สำหรับผู้สนใจก็คงต้องใช้ความพยายามเสาะแสวงหากันมากหน่อย เนื่องจากตำราเรื่องนี้หาอ่านกันได้ไม่ง่ายนัก


9. นวางศ์ ตรียางศ์

การพยากรณ์จะมีความละเอียดลออแม่นยำมากยิ่งขึ้น ถ้าได้มีการนำสมผุสที่ถูกต้องตามเวลาจริงๆมาตรวจให้ลึกไปถึงเรื่องของนวางศ์และตรียางศ์ เนื่องจากทั้งนวางศ์และตรียางศ์สามารถนำไปใช้พยากรณ์ลักษณะนิสัยใจคอที่แท้จริงได้ หรืออาจจะนำไปใช้ตรวจดูคุณภาพของดาวว่าให้คุณหรือโทษรุนแรงเพียงใด

ที่น่าสนใจเรื่องหนึ่งก็คือ ดาวดวงใดได้ตำแหน่งที่เรียกว่า วรโคตมนวางศ์ ถือว่าดาวนั้นมีคุณภาพเทียบเท่าเกษตรหรืออุจจ์กันเลยทีเดียว

วิธีการหาตำแหน่งวรโคตมนวางศ์ ก็จะไม่ขอกล่าวถึงอีกเช่นกัน


10. ดาวสถิตในทุสถานภพ

คำว่าทุสถานภพได้แก่เรือนอริ มรณะ และวินาสน์ ในดวงชะตาของบุคคลที่จะประสบความสำเร็จอย่างมีความสุข มักจะไม่ค่อยมีดาวดวงใหญ่ๆอย่างเช่นดาวพฤหัส ดาวเสาร์ หรือราหู สถิตอยู่มากนัก

ดาวเจ้าเรือนอะไรก็ตาม ถ้าไปสถิตอยู่ในทุสถานภพแล้ว ก็มักจะเสียในเรื่องนั้นๆ

การพิจารณาก็ทำได้ง่ายๆโดยนำดวงชะตาของวันที่จะคลอดมาวิเคราะห์ไปทีละราศี จนพบว่ามีดาวที่สถิตอยู่ในทุสถานภพเป็นจำนวนน้อยที่สุด


11. ดาวเบียนดวงชะตา

ในที่นี้หมายถึงดาวที่สถิตอยู่ที่เดียวกันกับลัคนา มีข้อพิจารณาง่ายๆก็คือ ดาวนั้นเป็นดาวศุภเคราะห์หรือดาวบาปเคราะห์ และดาวนั้นเป็นดาวเจ้าเรือนอริ มรณะ หรือวินาสน์หรือไม่

ถ้าดาวที่อยู่ร่วมกับลัคนาเป็นดาวศุภเคราะห์และไม่เป็นเจ้าเรือนอริ มรณะหรือวินาสน์ จะเป็นการดีที่สุด หรือถ้าเลี่ยงไม่ได้ที่ดาวจะต้องเป็นเจ้าเรือนอริ มรณะหรือวินาสน์ ก็คงต้องแล้วแต่วิจารณญาณของโหรแต่ละท่านเอง แต่ที่เสียน้อยที่สุดคงจะเป็นเจ้าเรือนอริ รองลงมาคือเจ้าเรือนวินาสน์ เสียมากที่สุดคือเจ้าเรือนมรณะ

ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ยังไม่มีดวงของใครที่ดีเลิศไปหมดทุกอย่าง ต้องมีดี มีเสียบ้าง แต่การวางฤกษ์คลอด ต้องพยายามให้เสียน้อยที่สุด


12. ทักษา

ถึงแม้ว่าเรื่องทักษาสำหรับบางท่านอาจจะไม่ถือเป็นโหราศาสตร์ และเป็นสิ่งที่หาข้อพิสูจน์ได้ยาก เนื่องจากไม่มีการนำตำแหน่งของดวงดาวมาคำนวณ แต่ก็ไม่ควรจะละเลย เนื่องจากเป็นเรื่องหนึ่งที่มีสถิติพอจะให้ความไว้วางใจได้ โหรบางท่านมักจะนำมาใช้เกี่ยวกับการตรวจสอบยืนยันการพยากรณ์กับโหราศาสตร์ ถ้าในทางโหราศาสตร์ว่าดี แต่ทางทักษาว่าไม่ดี ก็เป็นข้อพิจารณาในการยับยั้งคำพยากรณ์ได้

ในการวางฤกษ์คลอดก็มักจะนำดาวที่เป็นศรี ไปวางไว้ในเรือนที่ต้องการให้เกิดผลดี เช่น เกิดวันอังคาร ดาวพฤหัสเป็นศรี ถ้าวางให้เรือนที่ดาวพฤหัสสถิตอยู่เป็นกดุมภะ ก็จะทำให้เกิดผลดีทางการเงิน หรือมักจะทำให้ร่ำรวยนั่นเอง


อย่างไรก็ดี หลักการดังกล่าวทั้ง 12 ข้อ ก็เป็นเพียงพื้นฐานโดยทั่วไปที่ช่วยให้การวางฤกษ์คลอดมีความน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น แต่มีสิ่งที่สำคัญมากอีกสิ่งหนึ่งคือการเก็บรวบรวมสถิติของบุคคลที่ประสบความสำเร็จในเรื่องต่างๆไว้เป็นข้อมูลอ้างอิงในคราวจำเป็น เช่นนำไปเป็นตัวอย่างให้กับพ่อแม่เด็กที่ต้องการวางฤกษ์คลอด เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับทั้งพ่อแม่เด็กและโหร และเป็นการสร้างภาพพจน์ที่ดีให้กับวงการโหรด้วยอีกทางหนึ่ง เนื่องจากเป็นวิธีการให้ข้อมูลที่น่าจะเชื่อถือได้ตามหลักการทางสถิติ