วันอาทิตย์ที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2559

ประเด็นเป็นข่าว : จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อดาวมฤตยูโคจรเปลี่ยนราศี? (ตอนที่ 2)

บทสรุปจากตอนที่แล้วคือ ถ้าดาวมฤตยู(๐)โคจรเข้าสถิตราศีที่ไม่มีดาวกำเนิด(ตำแหน่งดาวใดๆในวันเกิด)ใดๆอยู่เลย เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นมักดูไม่ค่อยรุนแรงเนื่องจากเป็นมุมที่ไม่สัมพันธ์กับดาวกำเนิดใดๆโดยตรง แต่ถ้าราศีนั้นมีดาวกำเนิดใดๆสถิตอยู่ด้วยแล้วล่ะก็ เป็นเรื่องแน่นอน และจะเป็นเรื่องดีหรือร้าย ขึ้นอยู่กับว่าดาวกำเนิดอยู่ในตำแหน่งที่ให้ผลดีหรือร้ายมากกว่ากันครับ

จากที่ผมได้พูดคุยกับใครหลายๆคน ส่วนใหญ่กลัวว่าจะเกิดเรื่องร้ายๆมากกว่า แต่เมื่อรู้ว่าจะได้รับประโยชน์ ก็ดีอกดีใจกันไป และถ้ามองจากความน่าจะเป็น โอกาสที่จะเกิดเรื่องร้ายๆ ผมว่าไม่น่าจะเกิน 25% ของประชากรทั้งโลก

ตอนนี้ผมขอตอบคำถามจากคราวที่แล้วก่อนว่า ทำไมประเทศไทยมักจะเกิดเหตุการณ์ร้ายและรุนแรงทุกครั้งที่ดาวมฤตยู(๐)โคจรเข้าสถิตราศีเมษเหมือนในขณะนี้

ดวงเมืองกรุงศรีอยุธยา
สัมพันธ์กับดาวหลักในปีพ.ศ.2310

เริ่มในสมัยกรุงศรีอยุธยา ตามภาพของดวงเมืองกรุงอยุธยา ตัวเลขสีแดงคือดาวจรหลักที่มักจะถูกนำมาใช้ในการพยากรณ์ กำลังโคจรอยู่ในช่วงวันที่กำลังเสียเอกราชในปีพ.ศ.2310

เส้นทางเดินทัพพม่า
(ขอบคุณภาพจากวิกิพีเดีย)
ส่วนตัวเลขสีดำเป็นดาวกำเนิดของดวงเมืองกรุงศรีอยุธยา จะเห็นว่าเรียงตัวต่อเนื่องกันไปถึง 6 ราศี เรียกว่าดวงมาลัยโยค หรือ จันทร์เสี้ยว หรือ ลัคนาคุมพล ถ้าเป็นดวงคนก็เรียกว่ามีวาสนามากเชียวแหละครับ

ดาวมฤตยูจร(๐สีแดง)โคจรกุมดาวเสาร์กำเนิด(๗สีดำ)ซึ่งให้โทษในตำแหน่งนิจที่ราศีเมษและเป็นภพวินาศน์ของลัคนาราศีพฤษภ พยากรณ์เป็นคำสำคัญ(keyword)ได้ว่า "การทะเลาะเบาะแว้ง การต่อสู้  การเกิดอุบัติเหตุ การพลัดพรากโดยไม่คาดคิด  การถึงแก่กรรมอย่างกระทันหัน การหายสาปสูญ การเจ็บป่วย ภาวะหัวใจวาย "

ซ้ำร้ายดาวศุภเคราะห์อย่างดาวพฤหัสจร(๕สีแดง)ก็โคจรมาให้โทษในตำแหน่งประที่ราศีกันย์ซึ่งเป็นภพปุตตะของดวงเมือง อันเป็นวิบากกรรมของสถาบันเบื้องสูงครับ

ขอข้ามมาถึงสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ในวันที่มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชเป็นระบอบประชาธิปไตยในวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ.2475

ดวงเมืองกรุงรัตนโกสินทร์
สัมพันธ์กับดาวหลักในปีพ.ศ.2475

ในปีนั้นดาวมฤตยูจร(๐สีแดง)โคจรยึกยักเปลี่ยนไปมาระหว่างราศีมีนและราศีเมษ สังเกตว่าทั้งสองราศีมีดาวกำเนิดรอรับการกุมหรือทับจากดาวมฤตยูจร(๐สีแดง)อยู่ด้วย

ในขณะที่ดาวมฤตยูจร(๐สีแดง)โคจรสถิตราศีมีนกุมดาวราหูกำเนิด(๘สีดำ)ซึ่งให้โทษโดยปกติในภพวินาศน์ของลัคนาราศีเมษ ถอดเป็นคำสำคัญได้ดังนี้ "ความวุ่นวายจากความสัมพันธ์ การถูกทรยศหักหลัง ถูกหลอก การตีสองหน้า การเปลี่ยนสังกัด การเกิดเรื่องฉาวโฉ่ "

รัชกาลที่๗ทรงลงพระปรมาภิไธย
ในรัฐธรรมนูญฉบับแรก
(ขอบคุณภาพจากวิกิพีเดีย)
และเมื่อดาวมฤตยูจร(๐สีแดง)โคจรสถิตราศีเมษกุมดาวอาทิตย์กำเนิด(๑สีดำ)ซึ่งให้คุณในภพตนุ ได้คำพยากรณ์เป็นคำสำคัญดังนี้ "การมีภัยรอบด้าน การถูกทำให้ตื่นเต้นตกใจ ใจสั่น ช็อค การถูกโค่นล้ม " แต่เมื่อเกิดเรื่องร้ายๆแล้วก็จะมีเรื่องดีๆตามมาตามประสาการให้คุณของดาวบาปเคราะห์ ซึ่งดาวอาทิตย์กำเนิด(๑สีดำ)นี้เป็นตัวแทนของสถาบันเบื้องสูง ทำให้ต่อมาได้รับการแซ่ซ้องสรรเสริญจากทุกฝ่ายมาจนถึงกระทั่งทุกวันนี้

ดาวจันทร์กำเนิด(๒สีดำ)ให้คุณอยู่ในตำแหน่งเกษตรซึ่งเป็นตัวแทนของประชาชนถูกกุมโดยดาวพฤหัสจร(๕สีแดง)ซึ่งก็ให้คุณเช่นกันในตำแหน่งอุจจ์ คงไม่ต้องสาธยายมากนะครับ ประชาชนได้รับประโยชน์อย่างมากแน่นอน

อีกทั้งดาวพฤหัสจร(๕สีแดง)เป็นตัวแทนของกฎหมายต่างๆด้วย เมื่ออยู่ในตำแหน่งให้คุณเช่นนี้ ก็จะทำให้เกิดกฎหมายใหม่ๆที่ส่งผลดีตามมา

มาถึงบรรทัดนี้แล้วก็คงพอจะเข้าใจได้บ้างว่า ไม่ใช่จะเกิดเหตุการณ์ที่แย่ลงตลอดเวลาของการโคจรเปลี่ยนราศีของดาวมฤตยู(๐) แต่การจะรู้ว่าแย่ลงหรือดีขึ้นอย่างทันทีทันใดหรือไม่นั้น ยังคงต้องปรึกษาโหรดูนะครับ จะได้ไม่ผิดทิศผิดทางมากเกินไป

คราวหน้าตอนสุดท้าย ผมจะพยากรณ์ดวงเมืองและดวงคนว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงใหญ่ๆในเรื่องใดบ้างเมื่อดาวมฤตยู(๐)ย้ายราศีในครั้งนี้ ติดตามกันนะครับ







ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น