เรียนโหราศาสตร์ไทยเบื้องต้นแบบเป็นเร็ว ตอนที่ 4 (จบ)

ได้กล่าวไว้ในตอนที่แล้วว่า การพยากรณ์ดวงชะตากำเนิดเป็นการพยากรณ์ภาพรวมของความเป็นไปในชีวิตตั้งแต่เกิดจนกระทั่งวาระสุดท้าย แต่คนส่วนใหญ่ก็มักจะต้องการทราบความเป็นไปของดวงชะตาในบางช่วงเวลาด้วยเช่นกัน การพยากรณ์ในลักษณะนี้ โหราศาสตร์ไทยเรียกว่า "การพยากรณ์ดวงชะตาจร" ครับ

ผมกลัวว่าเนื้อหาจะได้ไม่ครบถ้วน ก็เลยเพิ่มบทความนี้เข้ามาเป็นตอนสุดท้าย ถือว่าเป็นการพยากรณ์ดวงชะตาจรแบบเบื้องต้น เพื่อนำไปศึกษาเพิ่มเติมในขั้นต่อๆไปได้ง่ายขึ้น ... เริ่มกันเลยครับ

ลิ้งค์บทความที่เกี่ยวข้อง
1. เรียนโหราศาสตร์ไทยเบื้องต้นแบบเป็นเร็ว ตอนที่ 1
2. เรียนโหราศาสตร์ไทยเบื้องต้นแบบเป็นเร็ว ตอนที่ 2
3. เรียนโหราศาสตร์ไทยเบื้องต้นแบบเป็นเร็ว ตอนที่ 3

๑๐. มุมสัมพันธ์ของดาว

ก่อนที่เราจะเรียนรู้การพยากรณ์ดวงชะตาจร สิ่งที่ต้องทราบในเบื้องต้นก็คือการพิจารณามุมสัมพันธ์ของดาว ซึ่งจะมีผลต่อแนวโน้มการเกิดขึ้นของเหตุการณ์ ในวิชาโหราศาสตร์ไทย มี 5 มุมดังนี้

กุม หรือ ทับ หมายถึง การที่ดาวอยู่ร่วมในราศีเดียวกัน ให้แนวโน้มว่าจะเกิดเหตุการณ์ตามคำพยากรณ์ได้สูงที่สุด

ตัวอย่าง ดาวX กุม ดาวY หรือ ดาวY กุม ดาวX

เล็ง หมายถึง การที่ดาวอยู่ในราศีตรงข้ามกัน หรืออยู่ห่างกัน 6 ราศี จะให้แนวโน้มว่าจะเกิดเหตุการณ์ตามคำพยากรณ์ต่ำกว่ามุมกุมหรือทับ

ตัวอย่าง ดาวX เล็ง ดาวY หรือ ดาวY เล็ง ดาวX

ตรีโกณ หมายถึง การที่ดาวอยู่ห่างกัน 4 ราศี แนวโน้มว่าจะเกิดเหตุการณ์ตามคำพยากรณ์ต่ำกว่ามุมเล็ง แต่บางตำราก็บอกว่าสูงกว่า

ตัวอย่าง ดาวX ตรีโกณ ดาวY หรือ ดาวY ตรีโกณ ดาวX

โยค หมายถึง การที่ดาวอยู่ห่างกัน 2 ราศี แนวโน้มว่าจะเกิดเหตุการณ์ตามคำพยากรณ์ต่ำกว่ามุมตรีโกณ

ตัวอย่าง ดาวX โยคหลัง ดาวY หรือ ดาวY โยคหน้า ดาวX

จตุโกณ หมายถึง การที่ดาวอยู่ห่างกัน 3 ราศี แนวโน้มว่าจะเกิดเหตุการณ์ตามคำพยากรณ์ต่ำกว่ามุมโยค

ตัวอย่าง ดาวX ตรีโกณ ดาวY หรือ ดาวY ตรีโกณ ดาวX

๑๑. การพยากรณ์ดวงชะตาจร

โดยทั่วไปการพยากรณ์ดวงชะตาจรนี้ มีขั้นตอนคล้ายกับการพยากรณ์ดวงชะตากำเนิด แต่ขั้นตอนที่เพิ่มเข้ามาคือ การใช้สมผุสดาว ณ เวลาที่ต้องการมาสัมพัทธ์หรือเปรียบเทียบกับภพและสมผุสดาวในดวงชะตากำเนิด ในที่นี้ผมจะกล่าวถึงทั้งสองแบบอย่างคร่าวๆเป็นหลักการเอาไว้ให้ไปศึกษาต่อยอดกันนะครับ

ดวงชะตาจรวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ.2558

จากรูปคือตัวอย่างดวงชะตากำเนิดจากตอนที่แล้ว ส่วนตัวเลขสีฟ้าที่เพิ่มเข้ามาคือตำแหน่งสมผุสของดาว ณ วันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ.2558

สิ่งสำคัญที่จำเป็นอีกอย่างหนึ่งในการพยากรณ์ดวงชะตาจร ก็คือต้องทราบว่าดาวจรแต่ละดวงจะใช้เวลาโคจรสถิตอยู่ในราศีหรือภพเป็นระยะเวลานานเท่าไร และเริ่มตั้งแต่วันที่เท่าไรจนถึงวันที่เท่าไร เพื่อสามารถบอกเจ้าดวงชะตาถึงช่วงเวลาดังกล่าวด้วย

ข้อแรก ดูดาวจรที่เป็นสีฟ้าก่อนครับ ว่ามีความเด่นความด้อยอย่างไรบ้าง ถ้าเด่น แสดงว่าจะเกิดเรื่องดีๆมีคุณประโยชน์ ถ้าด้อย ก็แสดงว่าจะเกิดเรื่องแย่ๆร้ายๆหรือเสียผลประโยชน์นะครับ

ดาวจรเด่น ได้แก่ ดาวเสาร์(๗) ให้คุณในตำแหน่งราชาโชค

ดาวจรด้อย ได้แก่ ดาวอังคาร(๓) ดาวพุธ(๔) ดาวพฤหัส(๕) และดาวศุกร์(๖) ให้โทษในตำแหน่งประ

ส่วนดาวราหู(๘) และดาวอาทิตย์(๑) ให้โทษโดยปกติ

ข้อสอง ดูต่อไปว่าดาวจรเด่นหรือด้อยนั้นเป็นเจ้าเรือนภพอะไร และกำลังโคจรสถิตภพอะไร ซึ่งเป็นการพยากรณ์ดวงชะตาจรแบบภพผสมภพ ได้คำพยากรณ์ดังนี้ครับ

ตั้งแต่วันที่ 26/11/2557 ถึง 23/3/2560 ดาวเสาร์(๗) เจ้าเรือนตนุ โคจรสถิตภพลาภะ ให้คุณในตำแหน่งราชาโชค หมายถึง เจ้าดวงชะตากำลังเด่นดัง มุ่งมั่นอย่างแรงกล้าที่จะประสบความสำเร็จ 

ตั้งแต่วันที่ 25/12/2558 ถึง 19/2/2559 ดาวอังคาร(๓) เจ้าเรือนพันธุและลาภะ โคจรสถิตภพกัมมะ ให้โทษในตำแหน่งประ หมายถึง มีงานที่ต้องเกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์หรือกับบุพการีหรือกับเพื่อนเก่า แต่จะประสบความสำเร็จได้ยาก 

ตั้งแต่วันที่ 30/11/2558 ถึง 8/2/2559 ดาวพุธ(๔) เจ้าเรือนอริและศุภะ โคจรสถิตภพวินาสน์ ให้โทษในตำแหน่งประ หมายถึง ผู้หลักผู้ใหญ่ที่เคยสนับสนุนและผู้ที่เป็นศัตรูจะนินทาว่าร้าย หรือพยายามที่จะแฉความลับบางอย่าง

ตั้งแต่วันที่ 15/12/2558 ถึง 9/2/2559 ดาวพฤหัส(๕) เจ้าเรือนวินาสน์และสหัสชะ โคจรสถิตภพศุภะ ให้โทยในตำแหน่งประ หมายถึง จะได้รับการสนับสนุนจากพี่น้องเพื่อนฝูง แต่เป็นสิ่งที่ไม่ต้องการ หรือเรียกว่าเป็นการเกาไม่ถูกที่คัน

ตั้งแต่วันที่ 26/12/2558 ถึง 20/1/2559 ดาวศุกร์(๖) เจ้าเรือนปุตตะและกัมมะ โครจรสถิตภพลาภะ ให้โทษในตำแหน่งประ หมายถีง การประสบผลสำเร็จจากการทำงานหรือจากบุตรบริวาร จะเป็นไปได้อย่างยากลำบากหรือไม่สบผลสำเร็จเลย

ตั้งแต่วันที่ 30/6/2557 ถึง 16/1/2559 ดาวราหู(๘) เจ้าเรือนกดุมภะ โคจรสถิตภพศุภะ ให้โทษโดยปกติ หมายถึง การไม่ค่อยได้รับการช่วยเหลือทางการเงินจากผู้สนับสนุน อาจจะต้องช่วยเหลือเขาด้วยซ้ำไป

ตั้งแต่วันที่ 17/12/2558 ถึง 15/1/2559 ดาวอาทิตย์(๑) เจ้าเรือนมรณะ โคจรสถิตภพวินาสน์ ให้โทษโดยปกติ หมายถึง เรื่องลับๆหรือสิ่งที่ปิดบังซ่อนเร้นจะส่งผลเสีย

ข้อสาม ในการพยากรณ์ดวงชะตาจรของแต่ละบุคคล เราจะทราบสมผุสดาวกำเนิดทุกดวงอยู่แล้ว เราอาจใช้การพยากรณ์ดวงชะตาจรแบบดาวจรผสมดาวกำเนิด โดยเพิ่มเติมลงต่อจากข้อสอง สำหรับการพยากรณ์แบบนี้ ผมจะใช้มุมสัมพันธ์แบบกุมหรือทับซึ่งจะได้ผลดีที่สุดหรือแม่นยำที่สุดตามประสบการณ์ของผมเองครับ ได้คำพยากรณ์ตามตัวหนังสือสีน้ำเงินดังนี้

ตั้งแต่วันที่ 26/11/2557 ถึง 23/3/2560 ดาวเสาร์(๗) เจ้าเรือนตนุ โคจรสถิตภพลาภะ ให้คุณในตำแหน่งราชาโชค กุมดาวอังคาร(๓)กำเนิด หมายถึง เจ้าดวงชะตากำลังเด่นดัง มุ่งมั่นอย่างแรงกล้าที่จะประสบความสำเร็จ จะประสบปัญหามากมาย มีการเปลี่ยนแปลงหน้าที่การงาน แต่แนวโน้มเป็นไปในทางที่ดีขึ้น

ตั้งแต่วันที่ 25/12/2558 ถึง 19/2/2559 ดาวอังคาร(๓) เจ้าเรือนพันธุและลาภะ โคจรสถิตภพกัมมะ ให้โทษในตำแหน่งประ กุมดาวเสาร์(๗)กำเนิด หมายถึง มีงานที่ต้องเกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์หรือกับบุพการีหรือกับเพื่อนเก่า แต่จะประสบความสำเร็จได้ยาก จะมีปัญหาสุขภาพ ความเครียดในเรื่องต่างๆ 

ตั้งแต่วันที่ 30/11/2558 ถึง 8/2/2559 ดาวพุธ(๔) เจ้าเรือนอริและศุภะ โคจรสถิตภพวินาสน์ ให้โทษในตำแหน่งประ กุมดาวราหู(๘)กำเนิด หมายถึง ผู้หลักผู้ใหญ่ที่เคยสนับสนุนและผู้ที่เป็นศัตรูจะนินทาว่าร้าย หรือพยายามที่จะแฉความลับบางอย่าง ระวังมีคนคิดร้าย  การทำสัญญาต่างๆจะมีปัญหา

ตั้งแต่วันที่ 15/12/2558 ถึง 9/2/2559 ดาวพฤหัส(๕) เจ้าเรือนวินาสน์และสหัสชะ โคจรสถิตภพศุภะ ให้โทยในตำแหน่งประ กุมดาวจันทร์(๒)กำเนิด หมายถึง จะได้รับการสนับสนุนจากพี่น้องเพื่อนฝูง แต่เป็นสิ่งที่ไม่ต้องการ หรือเรียกว่าเป็นการเกาไม่ถูกที่คัน มีโชคหรือเรื่องมงคลที่ไม่อยากได้ ระวังเรื่องในเชิงชู้สาว

ตั้งแต่วันที่ 26/12/2558 ถึง 20/1/2559 ดาวศุกร์(๖) เจ้าเรือนปุตตะและกัมมะ โครจรสถิตภพลาภะ ให้โทษในตำแหน่งประ กุมดาวอังคาร(๓)กำเนิด หมายถีง การประสบผลสำเร็จจากการทำงานหรือจากบุตรบริวาร จะเป็นไปได้อย่างยากลำบากหรือไม่สบผลสำเร็จเลย จะเสียทรัพย์ หรือของรัก

ตั้งแต่วันที่ 30/6/2557 ถึง 16/1/2559 ดาวราหู(๘) เจ้าเรือนกดุมภะ โคจรสถิตภพศุภะ ให้โทษโดยปกติ กุมดาวจันทร์(๒)กำเนิด หมายถึง การไม่ค่อยได้รับการช่วยเหลือทางการเงินจากผู้สนับสนุน อาจจะต้องช่วยเหลือเขาด้วยซ้ำไป จะถูกดูหมิ่นดูแคลน 

ตั้งแต่วันที่ 17/12/2558 ถึง 15/1/2559 ดาวอาทิตย์(๑) เจ้าเรือนมรณะ โคจรสถิตภพวินาสน์ ให้โทษโดยปกติ กุมดาวราหู(๘)กำเนิด หมายถึง เรื่องลับๆหรือสิ่งที่ปิดบังซ่อนเร้นจะส่งผลเสีย สุขภาพอ่อนแอลง และระวังโรคเก่ากำเริบ

อันที่จริงยังมีหลักเกณฑ์อีกหลายๆเรื่องที่จะต้องนำมาพิจารณาร่วมด้วยเพื่อให้คำพยากรณ์มีความละเอียดละออมากยิ่งขึ้น แต่เอาเป็นว่า ตอนนี้ขอให้ทราบหลักการและวิธีการโดยสังเขปเป็นเบื้องต้นไว้ก่อน การศึกษาในขั้นต่อๆไปก็จะเพิ่มรายละเอียดเข้าไปมากยิ่งขึ้น แต่สิ่งที่ยังคงเดิมก็คือแนวคิดและหลักการครับ

อย่างไรก็ตาม ที่กล่าวมาทั้งหมดตั้งแต่ตอนแรกจนถึงตอนสุดท้ายนี้ การหมั่นศึกษา การสังเกตและการฝึกฝนด้วยการพยากรณ์ตามหลักโหราศาสตร์ไทย รวมถึงการเก็บรวบรวมบันทึกการพยากรณ์ไว้เป็นสถิติ จะเป็นวิธีการที่ดีที่สุดในเชิงวิทยาศาสตร์ เพื่อยืนยันว่าวิชาโหราศาสตร์ไทยไม่ใช่สิ่งงมงายอย่างที่หลายๆคนกล่าวหากัน

ขอให้ประสบผลสำเร็จในการเป็นโหรทุกๆท่านนะครับ

"โหรพิเภก"