วันอาทิตย์ที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2557

ดวงอดีตนายกรัฐมนตรี ผู้ลี้ภัยทางการเมือง (ตอนจบ)

ประเทศไทยมีอดีตนายกรัฐมนตรีหลายท่านที่เคยลี้ภัยไปต่างประเทศ ถ้าจะยกมาเป็นกรณีศึกษาทุกท่าน ก็กลัวจะไม่ทันใจพระเดชพระคุณทั้งหลาย ก็เลยกล่าวถึงเพียง 2 ท่าน ที่ผ่านมาได้แก่ ท่านปรีดี พนมยงค์ และท่านจอมพลถนอม กิตติขจร ซึ่งก็เป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับการพยากรณ์อดีตนายกฯท่านสุดท้าย ท่านที่ผมกำลังจะกล่าวถึงนี้ คงเป็นใครไปไม่ได้ นอกจากท่าน "พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร"


ลิ้งค์บทความที่เกี่ยวข้อง
1. ดวงอดีตนายกรัฐมนตรี ผู้ลี้ภัยทางการเมือง
2. ดวงอดีตนายกรัฐมนตรี ผู้ลี้ภัยทางการเมือง (ต่อ)



อดีตนายกฯ 2 ท่านที่ผมกล่าวถึงในตอนที่ผ่านมาได้ถึงแก่อสัญกรรมไปแล้ว แต่พ.ต.ท.ทักษิณ ยังคงลี้ภัยอยู่ต่างประเทศ ประเด็นที่ทุกคนอยากทราบก็คือ ท่านจะสามารถเดินทางกลับเข้าสู่แผ่นดินเกิดของท่านได้เหมือนจอมพลถนอม หรือจะต้องลี้ภัยในต่างประเทศตราบจนสิ้นอายุขัยเหมือนท่านปรีดี ... เรามาดูกัน

ต้องขอขอบคุณวิกิพีเดียอีกครั้งครับ เพราะผมไม่รู้จะไปหาข้อมูลจากที่ไหนที่ให้ครบหมดทุกอย่าง ทั้งวันเดือนปีเกิด และเหตุการณ์สำคัญในชีวิตที่ผ่านมาของท่าน ผู้สนใจสามารถคลิกอ่านได้ที่ <พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร> ครับ

ท่านเกิดวันที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ.2492 ที่จังหวัดเชียงใหม่ ส่วนเวลาตกฟากนั้น เท่าที่ได้รับทราบมาจะเป็นเวลาก่อนเที่ยง เมื่อทำการผูกดวงออกมาแล้ว จะได้ตามรูปครับ

เริ่มด้วยการพิจารณาระดับวาสนา หรือระดับความเด่นดังในวงสังคม โดยดูรูปการผูกดวง จะเห็นว่าได้ตำแหน่ง "จันทร์ คุรุ สุริยา" จึงทำให้ท่านสามารถก้าวขึ้นมาจากระดับล่างสู่ระดับบนได้ ตามบทความที่ผมได้กล่าวถึงไปแล้วใน<ดวงฤกษ์จันทร์ คุรุ สุริยา>

ดาวเด่นในดวงชะตาคือดาวจันทร์(๒) ได้ตำแหน่งเกษตรสถิตภพลาภะ นั่นหมายถึงการประสบความสำเร็จจะมีในระดับสูงมากเกินคาด

และดูเหมือนท่านจะทราบจุดเด่นนี้ดี จึงได้สร้างบ้าน "จันทร์ส่องหล้า" เป็นการตอบแทนดวงชะตาของท่านเอง

ต่อไปเรามาดูลักษณะนิสัยประจำตัวของท่านตามนี้นะครับ

ลัคนา( ลั ) สถิต ราศีกันย์ - อ่อนโยน ฉลาด เจ้าระเบียบ ละเอียดรอบคอบ

อาทิตย์( ๑ ) สถิต ราศีกรกฏ - รักถิ่นที่อยู่ ความจำดี ขี้สงสาร อารมณ์แปรปรวนง่าย ใจน้อย

จันทร์( ๒ ) สถิต ราศีกรกฏ - กิริยาอ่อนโยน มีเมตตากรุณา วาสนาดี

อังคาร( ๓ ) สถิต ราศีเมถุน - ฉลาด คิดเร็ว พูดคล่อง ปากไว

พุธ( ๔* ) สถิต ราศีกรกฏ - ความจำดี เอาแต่ใจตนเอง แต่ก็เป็นคนมีเหตุผล

พฤหัส( ๕ ) สถิต ราศีมังกร - มีปฏิภาณสูงในการเอาตัวรอด เครียดง่าย ทุกข์ใจ

ศุกร์( ๖ ) สถิต ราศีสิงห์ - มีอิสระทางความรัก พิถีพิถันกับความรัก

เสาร์( ๗ ) สถิต ราศีสิงห์ - หนักแน่น มั่นคง เป็นผู้นำที่ทำงานหนัก

ราหู( ๘ ) สถิต ราศีมีน - ตามใจเพื่อน แต่ก็ไม่ชอบคนที่ขัดใจ

เกตุ( ๙ ) สถิต ราศีพฤษภ - บ้าสมบัติ สะสมของเก่า ของแปลก

มฤตยู( ๐ ) สถิต ราศีเมถุน - คิดเร็วทำเร็ว คิดในสิ่งแปลกใหม่ คิดสิ่งที่พิสูจน์ได้ยาก

ผมไม่รู้จักกับท่านเป็นการส่วนตัว ได้แต่ติดตามอ่านข่าวสารบ้านเมืองไปตามเรื่อง ก็คาดว่านิสัยของท่านน่าจะเป็นไปตามนี้ 70 เปอร์เซนต์ขึ้นไปครับ

แต่อนิจจา ถึงวาสนาจะดูดี แต่ก็มีดาวที่ได้ตำแหน่ง"พินทุบาทว์"ในดวงชะตา ก็คือดาวราหู(๘)นั่นเอง ซึ่งเป็นเจ้าเรือนอริสถิตในเภพปัตนิ ตามตำราโหราศาสตร์กล่าวถึงเป็นโคลงสี่สุภาพดังนี้

     เสาร์เพ่งเล็งลัคน์แล้ว     อสุรา
ภุมเมนทร์อัษฎา                   ว่าไว้
จันทร์เป็นสิบเอ็ดแก่รา-       หูเล่า
อาภัพอัปภาคย์ให้                โทษแท้ ประเหินหิน

หรือ

     ระวิภุมมะทั้ง                     โสรา
ปัญจะกับลัคนา                     พุธเก้า
จันทรกับชีวา                         เป็นแปด
ศุกร์เจ็ดอาจารย์เจ้า             ว่าร้อน นิรันดร์

ในบทแรก คำว่า"อสุรา"ก็คือราหู(๘) ส่วนบทที่สองเป็นโคลงเก่าก่อนที่จะมีการนำดาวราหู(๘)มาใช้ในทางโหราศาสตร์ครับ จึงมีปรากฏเฉพาะดาวอาทิตย์(๑)ถึงดาวเสาร์(๗)

เรื่องหรือเหตุการณ์อะไรบ้างที่จะทำให้ท่านเดือดร้อน ก็พิจารณาได้จากดาวราหู(๘)นี่เอง ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับศัตรูคู่อาฆาตหรืออุปสรรคปัญหาต่างๆที่จะทำให้ท่านเดือดร้อนในครอบครัวของท่านเอง

เท่าที่ผมได้รู้ได้เห็นมา บางรายถึงขั้นบ้านแตกสาแหรกขาดกันเลยทีเดียว บางรายก็มีอันต้องหย่าร้าง ครอบครัวแตกสานซ่านเซ็น

บทความในตอนที่แล้วเรื่อง<ดวงอดีตนายกรัฐมนตรี ผู้ลี้ภัยทางการเมือง (จอมพลถนอม กิตติขจร)> ได้กล่าวถึงดาวพินทุบาทว์นี้เช่นกัน ถึงขนาดที่ทำให้ท่านต้องลี้ภัยไปต่างประเทศ แต่นั่นเป็นเพียงชั่วคราวเท่านั้น เนื่องจากเป็นการพยากรณ์ดวงจรซึ่งเป็นเหตุการณ์สั้นๆครั้งหนึ่งในช่วงชีวิต

สำหรับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรแล้ว ดาวลักษณะนี้เป็นดาวพินทุบาทว์ในดวงกำเนิด หมายถึงเสียหรือเดือดร้อนในเรื่องที่กล่าวมาเป็นส่วนใหญ่ในชีวิต แต่คงไม่ถึงขนาดตลอดชีวิตเหมือนกับท่านปรีดี พนมยงค์หรอกครับ <ดวงอดีตนายกรัฐมนตรี ผู้ลี้ภัยทางการเมือง(ปรีดี พนมยงค์>) เพราะลัคนาของท่านไม่ได้สถิตภพศุภะซึ่งเป็นเรื่องของต่างประเทศหรือการเดินทางไกลๆ คือไม่ได้ตั้งใจไปเหมือนท่านปรีดีครับ

จากเหตุการณ์ที่ผ่านมา ทำให้ผมคิดว่าท่านคงพยายามแก้เคล็ดด้วยการหย่าร้างกับภริยา แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลในทางธุรกิจ หรือทางกฎหมาย หรือทางอะไรก็ตาม มันก็ดูเหมือนเรื่องราวหนักๆในชีวิตดูเบาบางลงไม่มากก็น้อย ถึงแม้ว่าท่านจะยังคงลี้ภัยอยู่

และประเด็นสำคัญก็คือ มีหลายคนสนใจที่จะทราบว่า เมื่อไหร่ท่านจะกลับมา รวมทั้งตัวของท่านเองด้วย ผมคาดว่าในจำนวนนี้มีทั้งคนที่ชอบและคนที่เกลียดท่าน ทั้งสองฝ่ายคงต้องเตรียมการอะไรบางอย่างแน่นอน ถ้าท่านกลับมาจริงๆ

ถ้าจะให้ผมพยากรณ์ว่าท่านจะเดินทางกลับมาเมื่อไร ขอบอกว่า ตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม พ.ศ.2559 ถึง วันที่ 4 สิงหาคม พ.ศ.2560 เป็นช่วงที่ดาวราหู(๘)ส่งผลดีกับท่านสุดๆ ผมว่าท่านเองก็คงทราบดีอยู่แล้ว ดังนั้นท่านคงตัดสินใจกลับมาในช่วงนี้แหละครับ คาดว่าคงเป็นกลางปี พ.ศ.2560 

แต่หลังจากนั้น ต้องระวังให้ดีเพราะจะเกิดเรื่องใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในประเทศไทย ที่ประชาชนคนไทยจะต้องประสบ รับรองว่าได้สลดกันทั้งประเทศ 

ทางที่ดีผมว่าช่วงนั้นท่านควรออกบวชซะจะดีกว่า ตามแบบอย่างของผู้นำทางการเมืองทั้งหลายตั้งแต่อดีตในสมัยกรุงศรีอยุธยา กรุงธนบุรี จนถึงกรุงรัตนโกสินทร์ ที่นิยมกระทำกันเพื่อเป็นเกราะป้องกันความซวยมาเยือนนั่นเอง(ฮา)








วันอาทิตย์ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2557

ฤกษ์คลอด ตอนที่ ๕ - จันทร์ คุรุ สุริยา ฤกษ์แห่งความรุ่งเรืองปี 2558

ที่ผมต้องรีบเขียนบทความนี้ ก็เพราะว่า ฤกษ์ที่มีคุณสมบัติดีๆหายากๆเช่นนี้ มีเหลืออีกเพียงไม่กี่ครั้งเท่านั้นในปีนักษัตรมะแม แล้วที่ผมบอกว่าดีและหายากนั้น ผมจะพยายามอธิบายให้ฟังด้วยภาษาง่ายๆ ดังนี้ครับ


ลิ้งค์บทความที่เกี่ยวข้อง
1. ฤกษ์คลอด ตอนที่ ๔ - ข้อโต้แย้ง(เมื่อโหรใหญ่ทำลายอาชีพของตัวเอง!)
2. ฤกษ์คลอด ตอนที่ ๖ - ปัญจมหาบุรุษโยค ดวงฤกษ์ของเจ้าคนนายคน


คำอธิบายดวง "จันทร์ คุรุ สุริยา" ในหนังสือ ปฐมภาคแห่งโหราศาสตร์ ของอาจารย์พลูหลวง

คำว่า "จันทร์ คุรุ สุริยา" หมายถึง ดาวจันทร์ ดาวพฤหัส(คุรุ) และดาวอาทิตย์(สุริยา) ดาวทั้งสามดวงนี้เกี่ยวข้องกันอย่างไร แล้วทำไมจึงตั้งชื่ออย่างนี้ เรามาดูนิยามกันก่อนครับ

อ่านคำอธิบายตามรูปแล้ว สรุปได้ว่า ถ้ามีดาวจันทร์(๒) ดาวพฤหัส(๕) และดาวอาทิตย์(๑) โคจรในราศีเมษ กรกฎ ตุลย์ หรือมังกร โดยจะแยกกันหรือรวมกันในราศีก็ได้ และเมื่อเทียบกับลัคนาแล้ว ต้องไม่อยู่ในเรือนอริ มรณะ หรือวินาศน์ ก็จะเป็นดวงตามที่กำหนดในนิยามครับ

เรื่องสรรพคุณของผู้ที่เกิดในดวงแบบนี้ ผมคงไม่ต้องสาธยายมาก เพราะอ่านคำอธิบายจากรูปแล้ว ก็จะทราบได้ทันทีว่า จะมีความเจริญรุ่งเรืองในชีวิตอย่างไม่ต้องสงสัย แต่จะมากจะน้อยแค่ไหนนั้น ต้องดูว่าดาวดวงอื่นๆสถิตอยู่ในราศีใดและภพอะไรด้วยนะครับ

จากประสบการณ์ที่ผ่านมาของผม พบว่าบุคคลที่มีดวงแบบนี้ มีความเจริญรุ่งเรืองทุกคน แม้ว่าตอนเกิดจะอยู่ในสังคมชนชั้นล่างก็ตาม แต่ก็สามารถกระโจนขึ้นมาอยู่ในสังคมของชนชั้นสูงได้

ต่อคำถามที่ว่า ทำไมดวงประเภทนี้พบเจอได้ยาก ผมขอสรุปกฎเกณฑ์ง่ายๆดังนี้

๑. ต้องอยู่ในปีนักษัตร ฉลู มะโรง มะแม หรือ จอ เท่านั้น ซึ่งพิจารณาได้จาก ดาวพฤหัส(๕)
๒. ต้องอยู่ในเดือน มกราคม เมษายน กรกฎาคม หรือ ตุลาคม เท่านั้น โดยดูดาวอาทิตย์(๑)
๓. ต้องเป็นวันข้างขึ้น-แรม 7-8 หรือ 15 ค่ำ โดยประมาณ โดยดูจากดาวจันทร์(๒)

ความยากอยู่ที่ข้อ ๑ ครับ เพราะถ้าปีไหนมีแล้ว จะต้องเว้นไป 3 ปีจึงจะมีอีกครั้งนะครับ

และในปีที่มีเกณฑ์นี้ ก็จะมีได้ในเดือนที่กำหนดอีกเพียงแค่ 4 เดือนเท่านั้น

และในเดือนที่กำหนด ก็จะมีโอกาสเพียงเดือนละ 8 วัน

สรุปได้โดยคร่าวๆว่า มีโอกาสเกิดดวงแบบนี้ได้แค่ 32 ครั้งในปีหนึ่งๆแล้วจะเว้นไปถึง 3 ปีจึงจะเกิดได้อีกครั้ง

ในปี 2557 ต่อเนื่องกับปี 2558 นี้ ก็จะเหลืออีก 2 เดือนเท่านั้น คือเดือนมกราคมและเมษายน ตามภาพด้านล่างจะบอกวันที่ไว้ให้ ส่วนจะเป็นเวลาอะไรนั้น ต้องลองสอบถามกับโหรดูนะครับ เพราะถ้าอธิบายกันตอนนี้ ความยาวก็คงยาวเหมือนเขียนบทความอีก 18 บทความล่ะครับ



15 มกราคม พ.ศ.2558

20-21 มกราคม พ.ศ.2558

27-28 มกราคม พ.ศ.2558

2-3 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2558

10-11 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2558

19-20 เมษายน พ.ศ.2558

25-27 เมษายน พ.ศ.2558

3-4 พฤษภาคม พ.ศ.2558

10-11 พฤษภาคม พ.ศ.2558





วันอาทิตย์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ดวงอดีตนายกรัฐมนตรี ผู้ลี้ภัยทางการเมือง (ต่อ)

ขี่ม้าเลียบค่ายมาหนึ่งตอนของท่านปรีดี พนมยงค์ คราวนี้จะเขียนถึงท่านต่อไปที่ลี้ภัยไปต่างประเทศ แต่ที่แตกต่างกันก็คือ ท่านนี้สามารถเดินทางกลับเข้าสู่แผ่นดินเกิดได้ แม้ว่าจะมีเหตุการณ์ร้ายๆทางการเมืองตามมาก็ตาม ท่านก็ดำเนินชีวิตของท่านตามปกติจนถึงวันที่ท่านอสัญกรรม ท่านที่ผมจะขอยกเป็นอีกหนึ่งกรณีศึกษาก็คือ จอมพล ถนอม กิตติขจร

ลิ้งค์บทความที่เกี่ยวข้อง
1. ดวงอดีตนายกรัฐมนตรี ผู้ลี้ภัยทางการเมือง
2. ดวงอดีตนายกรัฐมนตรี ผู้ลี้ภัยทางการเมือง (ตอนจบ)



ตอนที่ผมยังเด็ก นายกรัฐมนตรีคนแรกที่ผมรู้จักก็ท่านนี้แหละครับ คำขวัญวันเด็กที่เป็นที่รู้จักและจำได้จนถึงบัดนี้ก็คือ "เด็กดีเป็นศรีแก่ชาติ เด็กฉลาด ชาติเจริญ" คล้องจองและจดจำได้ง่ายมากครับ

โรงเรียนในวัยประถมของผมอยู่บนถนนประชาราษฎร์สาย 2 เขตดุสิต กรุงเทพฯ ได้ยินเสียงรถถังของลูกน้องท่านขับผ่านหน้าโรงเรียนเป็นประจำ เสียงดังนานมากเพราะมีเป็นสิบๆคัน จนเด็กๆต้องวิ่งออกจากห้องเรียนมายืนดู คุณครูก็ไม่อยากตะโกนแข่ง ก็เลยปล่อยเด็กๆสนุกสนานกันไป

เข้าเรื่องดีกว่า ... ก็ต้องขอขอบคุณวิกิพีเดียอีกเช่นเคยสำหรับข้อมูลประวัติศาสตร์บุคคลสำคัญทางการเมืองท่านนี้

จอมพลถนอม กิตติขจร เกิดในวันที่ 11 สิงหาคม พ.ศ.2454 จังหวัดตาก และจากการตรวจสอบเหตุการณ์ต่างๆในชีวิตท่าน ทำให้สามารถทราบได้ว่า ลัคนาของท่านน่าจะอยู่ในราศีเมถุนครับ

ดูตามรูปดวงแล้ว มีลักษณะคล้ายกับดอกพิกุล คือมีดาวอยู่ในมุมโยคหน้าหลัง มุมตรีโกณ และมุมเล็ง จึงเรียกดวงแบบนี้ว่า ดวงดอกพิกุล

เป็นดวงที่มีความเข้มแข็ง และมีสติปัญญาแตกฉาน สอดคล้องกับ ลัคนาราศีเมถุนซึ่งมีความฉลาดในตัวเองอยู่แล้ว คิดอะไรก็มักจะได้หลายแนวทาง มีความคิดที่หลากหลาย ทำอะไรได้หลายๆอย่างพร้อมกัน แถมเจ้าเรือนลัคนาที่เป็นดาวพุธ(๔) ก็อยู่ในตำแหน่งที่ดี คือเป็นทั้งราชาโชคและมหาจักร

ถ้าดูคำพยากรณ์ตามดวงดาวที่สถิตในราศีต่างๆ มีดังนี้

ลัคนา( ลั ) สถิต ราศีเมถุน - ฉลาด ช่างพูด สองจิตสองใจ

อาทิตย์( ๑ ) สถิต ราศีกรกฏ - รักบ้าน ความจำดี ขี้สงสาร อารมณ์แปรปรวน ใจน้อย

จันทร์( ๒ ) สถิต ราศีกุมภ์ - ทันคน เอาตัวรอดเก่ง ชอบสังคม ไม่สนใจเรื่องเสื่อมเสีย

อังคาร( ๓ ) สถิต ราศีเมษ - กล้าหาญ เด็ดขาด เป็นนักสู้ ชอบใช้กำลัง

พุธ( ๔ ) สถิต ราศีสิงห์ - ผู้นำที่ชาญฉลาด คิดการณ์ใหญ่ สุนทรพจน์เยี่ยม

พฤหัส( ๕ ) สถิต ราศีตุลย์ - บริสุทธิ์ยุติธรรม มีความสุขกับความรัก

ศุกร์( ๖ ) สถิต ราศีกันย์ - ไม่จริงจังกับความรัก อกหัก

เสาร์( ๗* ) สถิต ราศีเมษ - มีความตั้งใจ โกรธง่าย สะเพร่า

ราหู( ๘ ) สถิต ราศีเมษ - ชอบผจญภัย ชอบการต่อสู้

เกตุ( ๙ ) สถิต ราศีตุลย์ - รักหัวปักหัวปำ จู้จี้เรื่องคนอื่น

มฤตยู( ๐ ) สถิต ราศีธนู - สติปัญญา จริยธรรมเปลี่ยนแปลงทันทีทันใด

เข้าเค้ามั๊ยครับ สำหรับผมแล้ว คิดว่าน่าจะใช่ แต่มาดูเหตุการณ์เรียงตามลำดับกันก่อนดีกว่า

9 ธันวาคม 2506
ดำรงตำแหน่งนายกฯสมัยที่ 2
เหตุการณ์แรกเป็นการเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสมัยที่ 2 ซึ่งยาวนานที่สุด ในวันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ.2506

ในขณะนั้น ดาวราหู(๘)กุมลัคนา ได้นรเกณฑ์ แสดงถึงความมีอำนาจเด็ดขาด

ดาวพฤหัส(๕) สถิตราศีมีน ได้ตำแหน่งเกษตรในภพกัมมะ ซึ่งหมายถึงการประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน ได้รับการเลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่ง

ดาวเสาร์(๗) สถิตราศีมังกร ได้ตำแหน่งเกษตรในภพมรณะ ซึ่งหมายถึงการได้รับประโยชน์จากการตาย การพลัดพราก หรือมรดก นั่นคือการอสัญกรรมของจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ นั่นเอง

14 ตุลาคม 2516
ลี้ภัยทางการเมือง
เหตุการณ์ที่สอง เป็นการลี้ภัยทางการเมือง อันเนื่องมาจากเหตุการณ์วันมหาวิปโยค ในวันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ.2516

ครั้งนี้ค่อนข้างชัดเจน เพราะดาวพฤหัส(๕) เจ้าเรือนกัมมะสถิตภพมรณะ ในราศีมังกรได้ตำแหน่งนิจซึ่งหมายถึงการตกจากตำแหน่ง การทำงานที่ประสบความล้มเหลว

ดาวราหู(๘)โคจรในราศีธนู ได้ตำแหน่งพินทุบาทว์กับลัคนา ทำให้ต้องพลัดพรากจากครอบครัว จากแผ่นดินเกิด แต่เป็นการจากเพียงชั่วคราวเท่านั้น

ดาวเสาร์(๗)โคจรในราศีเมถุนกุมลัคนา ถึงจะได้ตำแหน่งนรเกณฑ์ แต่ก็ต้องมีการพลัดพรากและประสบกับความทุกข์ยากก่อนแน่นอน เนื่องจากดาวเสาร์(๗)เป็นเจ้าเรือนมรณะของบุคคลราศีเมถุนครับ

19 กันยายน 2519
เดินทางกลับสู่ประเทศไทย
เหตุการณ์ต่อมาเป็นการเดินทางกลับเข้าแผ่นดินเกิด และนำมาซึ่งเหตุการณ์ร้ายแรงในประวัติศาสตร์การเมืองไทย อาจเป็นครั้งที่รุนแรงที่สุดก็ว่าได้

ถ้าดูตามดวงจร ก็เป็นการเดินทางไปไหนมาไหนตามปกติทั้งการเดินทางระยะใกล้และไกล

ดาวพุธ(๔) โคจรในราศีสิงห์สถิตเรือนสหัสชะได้ตำแหน่งราชาโชคและมหาจักร กุมกับดาวพุธ(๔)ในดวงกำเนิด ก็บ่งบอกว่าเป็นการเดินทางติดต่อประสานงานในระยะสั้นๆที่ประสบผลดี และเป็นการได้รับข่าวสารดีๆ

ดาวราหู(๘)เจ้าเรือนศุภะ โคจรในราศีตุลย์สถิตเรือนปุตตะได้ตำแหน่งราชาโชคเช่นกัน กุมกับดาวพฤหัส(๕)ในดวงกำเนิด หมายถึงเป็นการเดินทางจากต่างถิ่นแดนไกลโดยเป็นการเปิดเผยให้สาธารณชนทราบเป็นการทั่วไป และจะส่งผลดีกับตัวท่านเป็นการเฉพาะ

แต่มาดูที่ดาวเสาร์(๗)เจ้าเรือนมรณะ โคจรในราศีกรกฎสถิตเรือนกดุมภะ ได้ตำแหน่งประซึ่งให้โทษอย่างรุนแรง ซึ่งทำให้ท่านถูกยึดทรัพย์

ไม่เพียงเท่านั้นดาวเสาร์(๗) ยังส่งผลร้ายกับดวงเมือง โดยกุมกับดาวจันทร์(๒)กำเนิดในดวงเมือง ทำให้ประชาชนล้มตายเป็นจำนวนมากตามที่ทราบกันดี

16 มีนาคม 2547
ถึงแก่อสํญกรรม
เหตุการณ์สุดท้ายเป็นวันที่ท่านถึงแก่อสัญกรรมนวันที่ 16 มีนาคม พ.ศ.2547

ดาวพุธ(๔)เจ้าเรือนลัคนา โคจรในราศีมีนได้ตำแหน่งนิจ ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ดวงชะตาอ่อนที่สุด คล้ายๆกับนิยายสามก๊กตอนขงเบ้งดูดาวยังไงยังงั้น

ที่สำคัญดาวเสาร์(๗)เจ้าเรือนมรณะยังโคจรในราศีเมถุนกุมลัคนา ทำให้ท่านต้องจากไปในที่สุด

นอกจากนี้ดาวพฤหัส(๕) ยังโคจรกุมดาวพุธ(๔)เจ้าเรือนลัคนาในดวงกำเนิด ที่โบราณกาลถือเป็นดาวฆาตดวงหนึ่งสำหรับผู้ที่ไม่ได้ทำกรรมดีอย่างเพียงพอ

เอาล่ะครับ ในตอนต่อไปจะเป็นตอนจบของนายกรัฐมนตรีผู้ลี้ภัย ส่วนจะเป็นใครนั้น ... โปรดติดตามตอนต่อไปครับ




วันอาทิตย์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ดวงดาวโคจรย้ายราศีปี 2559

โหรที่พยากรณ์เป็นอาชีพนั้น คงได้พบว่า การตรวจดวงชะตาให้เจ้าชะตาแต่ละรายนั้น มักจะถูกถามถึงเหตุการณ์ในอนาคตอย่างน้อย 1 ปีขึ้นไป การที่จะพกปฏิทินโหราศาสตร์เล่มหนาๆไปทุกหนทุกแห่งในสมัยนี้ดูแล้วคงจะไม่สะดวกเท่าใดนัก ผมคนหนึ่งหละ ที่ไม่อยากพกไปด้วย ถ้าเป็นแทบเบล็ตหรือโทรศัพท์มือถือที่สามารถเปิดอินเตอร์เน็ตได้ละก็ว่าไปอย่าง 

ลิ้งค์บทความที่เกี่ยวข้อง
คิดได้ดังนั้นแล้ว ผมก็เลยต้องรีบตรวจดูการโคจรของปีพ.ศ.2559 และปีต่อๆไปล่วงหน้า แน่นอน ผมจำไม่ได้ทั้งหมดหรอกครับ ผมจึงได้เขียนบทความนี้ไว้เปิดดูทางอินเตอร์เน็ตเวลาที่ผมอยู่นอกสถานที่ ไม่มีโปรแกรมคอมพิวเตอร์หรือปฏิทินติดตัวไปด้วย เผื่อว่ามีใครต้องการให้ผมตรวจดวงชะตาให้ หรือถ้าโหรท่านใดเห็นว่าเป็นประโยชน์ ก็เปิดเข้ามาดูได้เช่นกันครับ

ในปีพ.ศ.2559 ผมได้ตรวจสอบการโคจรของดวงดาวตลอดทั้งปี ได้ผลดังนี้ครับ

รูปดวงวันที่ 31 มกราคม พ.ศ.2559
มกราคม พ.ศ. 2559
วันที่ 1          ดาวพุธ(๔) โคจรพักร์ในราศีธนู
วันที่ 7          ดาวพฤหัส(๕) โคจรพักร์ในราศีกันย์
วันที่ 15        ดาวอาทิตย์(๑) ย้ายเข้าราศีมังกร
วันที่ 16        ดาวพุธ(๔) โคจรเดินหน้าในราศีธนู
                    ดาวราหู(๘) ย้ายเข้าราศีสิงห์
วันที่ 20        ดาวศุกร์(๖) ย้ายเข้าราศีธนู
ดาวให้คุณ  มหาจักร ได้แก่ ดาวศุกร์(๖)
                     ราชาโชค ได้แก่ ดาวเสาร์(๗)
ดาวให้โทษ ประ ได้แก่ ดาวอังคาร(๓) ดาวพุธ(๔) ดาวพฤหัส(๕) และดาวราหู(๘)


รูปดวงวันที่ 29 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559
กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559
วันที่ 5          ดาวเกตุ(๙) ย้ายเข้าราศีกรกฎ
วันที่ 8          ดาวพุธ(๔) ย้ายเข้าราศีมังกร
วันที่ 9          ดาวพฤหัส(๕) โคจรพักร์ย้ายเข้าราศีสิงห์
วันที่ 13        ดาวอาทิตย์(๑) ย้ายเข้าราศีกุมภ์
                    ดาวศุกร์(๖) ย้ายเข้าราศีมังกร
วันที่ 19        ดาวอังคาร(๓) ย้ายเข้าราศีพิจิก
วันที่ 26        ดาวพุธ(๔) ย้ายเข้าราศีกุมภ์
ดาวให้คุณ  เกษตร ได้แก่ ดาวอังคาร(๓)
                    ราชาโชค ได้แก่ ดาวเสาร์(๗)
ดาวให้โทษ ประ ได้แก่ ดาวอาทิตย์(๑) ดาวราหู(๘)



รูปดวงวันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2559
มีนาคม พ.ศ. 2559
วันที 6          ดาวมฤตยู(๐) ย้ายเข้าราศีเมษ
วันที่ 9          ดาวศุกร์(๖) ย้ายเข้าราศีกุมภ์
วันที่ 13        ดาวพุธ(๔) ย้ายเข้าราศีมีน
วันที่ 14        ดาวอาทิตย์(๑) ย้ายเข้าราศีมีน
วันที่ 31        ดาวพุธ(๔) ย้ายเข้าราศีมีน
                    ดาวเสาร์(๗) โคจรพักร์ในราศีพิจิก
ดาวให้คุณ  เกษตร ได้แก่ ดาวอังคาร(๓)
                    ราชาโชค ได้แก่ ดาวเสาร์(๗)
ดาวให้โทษ ประ ได้แก่ ดาวราหู(๘)




รูปดวงวันที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2559
เมษายน พ.ศ. 2559
วันที่ 2          ดาวเกตุ(๙) ย้ายเข้าราศีเมถุน
วันที่ 3          ดาวศุกร์(๖) ย้ายเข้าราศีมีน
วันที่ 13        ดาวอาทิตย์(๑) ย้ายเข้าราศีเมษ
วันที่ 22        ดาวพุธ(๔) โคจรพักร์ในราศีเมษ
วันที่ 23        ดาวอังคาร(๓) โคจรพักร์ในราศีพิจิก
วันที่ 27        ดาวศุกร์(๖) ย้ายเข้าราศีเมษ
ดาวให้คุณ  เกษตร ได้แก่ ดาวอังคาร(๓)
                    อุจจ์ ได้แก่ ดาวอาทิตย์(๑)
                    ราชาโชค ได้แก่ ดาวเสาร์(๗)
ดาวให้โทษ ประ ได้แก่ ดาวศุกร์(๖) และดาวราหู(๘)



รูปดวงวันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2559
พฤษภาคม พ.ศ. 2559
วันที่ 13        ดาวพุธ(๔) โคจรเดินหน้าในราศีเมษ
วันที่ 14        ดาวอาทิตย์(๑) ย้ายเข้าราศีพฤษภ
วันที่ 17        ดาวพฤหัส(๕) โคจรเดินหน้าในราศีสิงห์
วันที่ 22        ดาวศุกร์(๖) ย้ายเข้าราศีพฤษภ
วันที่ 28        ดาวเกตุ(๙) ย้ายเข้าราศีพฤษภ
ดาวให้คุณ  เกษตร ได้แก่ ดาวอังคาร(๓) และดาวศุกร์(๖)
                    ราชาโชค ได้แก่ ดาวเสาร์(๗)
ดาวให้โทษ ประ ได้แก่ ดาวราหู(๘)





รูปดวงวันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2559
มิถุนายน พ.ศ. 2559
วันที่ 4          ดาวพุธ(๔) ย้ายเข้าราศีพฤษภ
วันที่ 15        ดาวอาทิตย์(๑) และดาวศุกร์(๖) ย้ายเข้าราศีเมถุน
วันที่ 21        ดาวพุธ(๔) ย้ายเข้าราศีเมถุน
วันที่ 30        ดาวอังคาร(๓) โคจรเดินหน้าในราศีพิจิก
ดาวให้คุณ  เกษตร ได้แก่ ดาวอังคาร(๓) และดาวพุธ(๔)
                    ราชาโชค ได้แก่ ดาวอาทิตย์(๑) และดาวเสาร์(๗)
ดาวให้โทษ ประ ได้แก่ ดาวราหู(๘)





รูปดวงวันที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2559
กรกฎาคม พ.ศ. 2559
วันที่ 7          ดาวพุธ(๔) ย้ายเข้าราศีกรกฎ
วันที่ 9          ดาวศุกร์(๖) ย้ายเข้าราศีกรกฎ
วันที่ 16        ดาวอาทิตย์(๑) ย้ายเข้าราศีกรกฎ
วันที่ 24        ดาวพุธ(๔) ย้ายเข้าราศีสิงห์
                    ดาวเกตุ(๙) ย้ายเข้าราศีเมษ
ดาวให้คุณ  มหาจักร ได้แก่ ดาวอาทิตย์(๑) และดาวพุธ(๔)
                    ราชาโชค ได้แก่ ดาวพุธ(๔) ดาวศุกร์(๖) และดาวเสาร์(๗)
ดาวให้โทษ ประ ได้แก่ ดาวราหู(๘)



รูปดวงวันที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2559
สิงหาคม พ.ศ. 2559
วันที่ 3          ดาวศุกร์(๖) ย้ายเข้าราศีสิงห์
วันที่ 4          ดาวเสาร์(๗) โคจรเดินหน้าในราศีพิจิก
วันที่ 7          ดาวพฤหัส(๕) ย้ายเข้าราศีกันย์
วันที่ 17        ดาวอาทิตย์(๑) ย้ายเข้าราศีสิงห์
วันที่ 18        ดาวพุธ(๔) โคจรพักร์ในราศีสิงห์
วันที่ 28        ดาวศุกร์(๖) ย้ายเข้าราศีกันย์
ดาวให้คุณ  เกษตร ได้แก่ ดาวอาทิตย์(๑) และดาวอังคาร(๓)
                    ราชาโชค ได้แก่ ดาวพุธ(๔) และดาวเสาร์(๗)
                    มหาจักร ได้แก่ ดาวพุธ(๔)
ดาวให้โทษ ประ ได้แก่ ดาวพฤหัส(๕) และดาวราหู(๘)



รูปดวงวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2559
กันยายน พ.ศ. 2559
วันที่ 7          ดาวพุธ(๔) โคจรเดินหน้าในราศีสิงห์
วันที่ 15        ดาวอังคาร(๓) ย้ายเข้าราศีธนู
วันที่ 17        ดาวอาทิตย์(๑) ย้ายเข้าราศีกันย์
วันที่ 19        ดาวเกตุ(๙) ย้ายเข้าราศีมีน
วันที่ 21        ดาวศุกร์(๖) ย้ายเข้าราศีตุลย์
วันที่ 30        ดาวพุธ(๔) ย้ายเข้าราศีกันย์
ดาวให้คุณ  เกษตร ได้แก่ ดาวพุธ(๔) และดาวศุกร์(๖)
                    อุจจ์ ได้แก่ ดาวพุธ(๔)
                    ราชาโชค ได้แก่ ดาวพุธ(๔) และดาวเสาร์(๗)
ดาวให้โทษ ประ ได้แก่ ดาวพฤหัส(๕) และดาวราหู(๘)



รูปดวงวันที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2559
ตุลาคม พ.ศ. 2559
วันที่ 16        ดาวศุกร์(๖) ย้ายเข้าราศีพิจิก
วันที่ 17        ดาวอาทิตย์(๑) ย้ายเข้าราศีตุลย์
วันที่ 18        ดาวพุธ(๔) ย้ายเข้าราศีตุลย์
ดาวให้คุณ  ราชาโชค ได้แก่ ดาวเสาร์(๗)
ดาวให้โทษ ประ ได้แก่ ดาวพฤหัส(๕) ดาวศุกร์(๖) และดาวราหู(๘)
                     นิจ ได้แก่ ดาวอาทิตย์(๑)







รูปดวงวันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559
พฤศจิกายน พ.ศ. 2559
วันที่ 1          ดาวอังคาร(๓) ย้ายเข้าราศีมังกร
วันที่ 10        ดาวศุกร์(๖) ย้ายเข้าราศีธนู
วันที่ 14        ดาวเกตุ(๙) ย้ายเข้าราศีกุมภ์
วันที่ 16        ดาวอาทิตย์(๑) ย้ายเข้าราศีพิจิก
วันที่ 24        ดาวพุธ(๔) ย้ายเข้าราศีธนู
ดาวให้คุณ  อุจจ์ ได้แก่ ดาวอังคาร(๓)
                    ราชาโชค ได้แก่ ดาวเสาร์(๗)
                    มหาจักร ได้แก่ ดาวศุกร์(๖)
ดาวให้โทษ ประ ได้แก่ ดาวพฤหัส(๕)  และดาวราหู(๘)




รูปดวงวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2559
ธันวาคม พ.ศ. 2559
วันที่ 9          ดาวอังคาร(๓) ย้ายเข้าราศีกุมภ์
วันที่ 10        ดาวพุธ(๔) โคจรพักร์ในราศีธนู
วันที่ 16        ดาวอาทิตย์(๑) ย้ายเข้าราศีธนู
วันที่ 21        ดาวพุธ(๔) โคจรพักร์ย้ายเข้าราศีพิจิก
วันที่ 30        ดาวศุกร์(๖) ย้ายเข้าราศีกุมภ์
ดาวให้คุณ  ราชาโชค ได้แก่ ดาวเสาร์(๗)
ดาวให้โทษ ประ ได้แก่ ดาวพฤหัส(๕)  และดาวราหู(๘)








หวังว่าบทความนี้คงเป็นประโยชน์สำหรับโหรานุโหรทุกท่าน ครั้งต่อๆไปจะเป็นดาวที่ย้ายราศีประจำปีพ.ศ. 2560 ติดตามกันได้ ผมจะทยอยทำไปเรื่อยๆล่วงหน้าสัก 5 ปี ตามแต่โอกาสจะอำนวยครับ





วันพุธที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ดวงอดีตนายกรัฐมนตรี ผู้ลี้ภัยทางการเมือง

สัปดาห์ก่อนได้ฟังหมอดูท่านหนึ่งพยากรณ์ถึงอดีตนายกรัฐมนตรีที่กำลังลี้ภัยอยู่ต่างประเทศว่าจะได้กลับมามีอำนาจอีกครั้งหรือไม่ ก็เลยนึกถึงอดีตนายกฯอีกท่านหนึ่งที่มีโชคชะตาในลักษณะเดียวกัน ท่านที่ผมกำลังจะขอยกเป็นกรณีศึกษานี้ก็คือ นายปรีดี พนมยงค์

ลิ้งค์บทความที่เกี่ยวข้อง
1. ดวงอดีตนายกรัฐมนตรี ผู้ลี้ภัยทางการเมือง (ต่อ)
2. ดวงอดีตนายกรัฐมนตรี ผู้ลี้ภัยทางการเมือง (ตอนจบ)

เหมือนเดิมครับ ผมได้วันเดือนปีเกิด และจังหวัดเกิด จากวิกิพีเดียรวมถึงเหตุการณ์สำคัญต่างๆที่มีการระบุวันที่ไว้อย่างชัดเจน ท่านที่สนใจสามารถศึกษาข้อมูลได้ตามลิ้งค์นี้ครับ<ปรีดี พนมยงค์>

ท่านเกิดวันที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ.2443 จังหวัดพระนครศรีอยุธยา แต่ผมยังมีปัญหาอยู่ว่า เวลาตกฟากไม่มีการระบุไว้ ทำให้ต้องประเมินจากระดับวาสนาของท่าน ชะตาชีวิตในภาพรวม เพื่อพิจารณาว่าท่านสมควรจะเป็นบุคคลในราศีใด

เพื่อความรวดเร็ว ผมคลิกปุ่มในโปรแกรม"พิเภก๒๕๕๖"เลื่อนเวลาไปทีละชั่วโมง จนกระทั่งได้ลัคนาที่ผมเห็นว่าน่าจะใกล้เคียงชีวิตจริงของท่านมากที่สุด ตามรูปต่อไปนี้ครับ

ลัคนาของท่านสมควรจะเป็นราศีตุลย์ ซึ่งเป็นราศีของคนที่รักความยุติธรรม รักพวกพ้อง ได้เกณฑ์ปัญจมหาบุรุษโยค ซึ่งมักจะเป็นเกณฑ์ของบุคคลสำคัญของในทุกๆวงการ

ดาวที่ได้คุณภาพดีๆมีถึง 4 ดวง ได้แก่

ดาวอาทิตย์(๑) ได้ตำแหน่งอุจจ์ ทำให้มีบุคคลิกของความเป็นผู้นำ สถิตในราศีเมษ หมายถึงการเป็นผู้ริเริ่ม การเป็นนักต่อสู้

ดาวอังคาร(๓) ได้ตำแหน่งเกษตรในราศีเมษ จึงทำให้ท่านมีความกล้าหาญ สุขภาพแข็งแรง และมีความขยันขันแข็ง

ดาวพฤหัส(๕) ได้ตำแหน่งมหาจักร  และดาวราหู(๘) ได้ตำแหน่งอุจจ์ ในราศีพิจิก ท่านจึงมีลักษณะเป็นคนที่มีคุณธรรม แต่ก็มีเล่ห์เหลี่ยมไหวพริบมากพอที่จะไม่ให้ใครมาหลอกลวงหรือเอาเปรียบท่านได้ง่ายๆ

ดาวศุกร์(๖) เจ้าเรือนลัคนาสถิตภพศุภะ แสดงถึงการฝักใฝ่ทางด้านการต่างประทศ หรืออาจต้องไปใช้ชีวิตในต่างประเทศ

ในเรือนคู่ครอง มีดาวที่ได้คุณภาพดีถึง 2 ดวง ได้แก่ดาวอาทิตย์(๑)และดาวอังคาร(๓) หมายถึงการที่มีคู่ครองที่มีศักดิ์สูงหรือมีฐานะดี

ถ้ายังไม่ชัดเจนพอ คราวนี้เรามาดูเหตุการณ์ที่สำคัญๆเพื่อยืนยันว่า ลัคนาของท่านคือราศีตุลย์จริงๆ

พิธีสมรสวันที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ.2471
เหตุการณ์แรกก็คือการเข้าพิธีมงคลสมรสในวันที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ.2471

โดยทั่วไปการพยากรณ์เรื่องการแต่งงาน ไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไร โหรมักจะดูจากดาวพฤหัส(๕)เป็นหลัก ถ้าโคจรเข้าไปอยู่ในเรือนปัตนิ หรือโคจรกุมกับดาวจันทร์(๒)ในดวงกำเนิดละก็ รับรองว่าได้แต่งงานแน่นอน

จริงๆแล้วยังมีวิธีดูแบบอื่นอีกเช่น ดาวพฤหัส(๕)กุมดาวเจ้าเรือนปัตนิในดวงกำเนิด หรือดาวเจ้าเรือนลัคนาโคจรอยู่ในเรือนปัตนิ แต่ที่ผมพบเจอบ่อยที่สุดคือ 2 กรณีแรกครับ

ตามรูปจะเห็นว่า ในวันนั้น ดาวพฤหัส(๕)โคจรอยู่ที่ราศีเมษซึ่งเป็นเรือนปัตนิของลัคนาราศีตุลย์ ถ้าไม่ใช่ราศีตุลย์แล้วคงไม่ได้แต่งงานหรอกครับ ถ้าไม่เชื่อ ลองค่อยๆเลื่อนลัคนาไปทีละราศีสิครับ จะเห็นว่าไม่มีราศีใดเข้าหลักเกณฑ์ 2 กรณีแรกที่ผมบอกเลย นอกจากราศีตุลย์เท่านั้น

11 ธันวาคม พ.ศ.2488
ได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐบุรุษอาวุโส
จากรัชกาลที่ 8
ต่อไปเรามาดูเหตุการณ์ที่ 2 คือ การได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐบุรุษอาวุโส เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม พ.ศ.2488

เรื่องดีๆ ส่วนใหญ่โหรจะใช้ดาวพฤหัส(๕)มาพิจารณา กรณีนี้ก็เช่นเดียวกัน จะเห็นว่าดาวพฤหัส(๕)กำลังโคจรสถิตภพตนุซึ่งเป็นเรือนตัวตนของท่านเอง หมายถึงการได้รับโชคลาภ การมีเรื่องดีๆเข้ามาในชีวิต

ปกติดาวเสาร์(๗)หรือดาวราหู(๘) ถ้าแยกกันอยู่ มักจะให้โทษมากกว่าให้คุณ แต่กรณีนี้ ดาว 2 ดวงนี้สถิตอยู่เรือนเดียวกัน เรียกว่าคู่มิตร กลับกลายเป็นให้คุณแบบ 2 เท่า สถิตในเรือนศุภะ หมายถึงการได้รับการสนับสนุนที่ยิ่งใหญ่ หรือการได้รับมงคลของชีวิตอย่างยิ่งใหญ่นั่นเอง

คงเริ่มปฏิเสธไม่ได้แล้วนะครับว่า ราศีตุลย์คือลัคนาของท่านจริงๆ

ดาวราหู(๘)ย้ายราศี
วันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ.2490
สถิตราศีเมษ
เหตุการณ์ต่อไป เป็นเหตุการณ์ที่ทำให้ท่านต้องลี้ภัยไปต่างประเทศ ถึงแม้จะกลับมาเพื่อยึดอำนาจคืน แต่ก็ไม่สำเร็จ จนต้องลี้ภัยอีกครั้งและไม่กลับมายังบ้านเกิดเมืองนอนอีกเลย

นั่นคือการทำรัฐประหารในวันที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ.2490

เหมือนคณะรัฐประหารทราบว่าดาวราหู(๘)กำลังจะย้ายราศีในวันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ.2490จากราศีพฤษภมายังราศีเมษซึ่งเป็นตำแหน่งนิจที่ให้โทษแก่ท่านปรีดี ทำให้เกิดการพลัดพราก แยกจากครอบครัว ตามภาษาโหรเรียกว่า ดวงแตก

นอกจากนี้ ยังมีดาวเสาร์(๗)ที่โคจรอยู่ในตำแหน่งประ ให้โทษในราศีกรกฎ ซึ่งเป็นเรือนกัมมะ หมายถึงการทำงานหรือกิจกรรมอะไรก็แล้วแต่ จะมีปัญหาจนไม่สามารถที่จะแก้ไขได้

ดาวอาทิตย์(๑)เจ้าเรือนลาภะ ก็โคจรให้โทษในตำแหน่งนิจกุมลัคนา ก็เป็นดาวเสริมอีกดวงหนึ่งที่ทำให้ไม่มีโชคหรือโอกาสที่จะประสบความสำเร็จได้เลยในช่วงนั้น

ดวงวันที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ.2526
และเหตุการณ์สุดท้ายที่จะต้องกล่าวถึง คือการถึงแก่อสัญกรรมในวันที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ.2526 ที่ประเทศฝรั่งเศส

ดาวดวงแรกที่ต้องดูก่อนก็คือดาวศุกร์(๖)เจ้าเรือนลัคนา กำลังโคจรสถิตภพมรณะ ซึ่งตามสถิติที่ผมพบมาก็มักจะต้องล้มหมอนนอนเสื่อ หรือไม่ก็มีเรื่องต้องเข้าโรงพยาบาลบ่อยๆ ด้วยปัญหาสุขภาพ

ดาวเสาร์(๗)ที่ดูเหมือนจะให้คุณ ก็ให้คุณแรงมากเนื่องจากได้ตำแหน่งอุจ แต่การให้คุณของดาวเสาร์(๗)ซึ่งเป็นดาวประเภทบาปเคราะห์ ก็ต้องให้โทษซะก่อนครับ

ดาวดวงสุดท้ายที่ส่งผลแรงมาก และส่วนใหญ่โหรมักจะเรียกว่าเป็นดาวฆาต คือดาวราหู(๘)นั่นเอง จะเห็นว่ากำลังกุมดาวศุกร์(๖)ในดวงกำเนิดที่ราศีเมถุน ภพศุภะ และดาวศุกร์(๖)นี่เองที่เป็นดาวประจำตัวของชาวราศีตุลย์ครับ

ด้วยเหตุการณ์ในช่วงเวลาต่างๆ เมื่อดูตำแหน่งดาวเทียบกับดวงกำเนิด ก็พอจะอนุมานได้อย่างค่อนข้างมั่นใจว่า ราศีตุลย์คือลัคนาของอดีตนายกฯท่านนี้ครับ

ดวงนายปรีดี พนมยงค์ ถือเป็นกรณีศึกษาที่ผมจะนำไปใช้ในการพยากรณ์ดวงของอดีตนายกฯท่านต่อไปที่ลี้ภัยไปต่างประเทศไม่ว่าจะด้วยสาเหตุอะไรก็ตาม และท่านสามารถจะกลับมายังบ้านเกิดเมืองนอนของท่านได้หรือไม่ ติดตามกันได้ในบทความถัดไป เร็วๆนี้ ถ้าไม่มีเรื่องราวเร่งด่วนอื่นๆมาขัดจังหวะนะครับ





วันพฤหัสบดีที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2557

ดวงพระชาตาพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕

เนื่องจากในวันที่ 23 ตุลาคม ของทุกปี เป็นวันคล้ายวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ปีนี้ผมขออัญเชิญดวงพระชาตาของพระองค์ท่านมาเพื่อเป็นข้อมูลในการศึกษาวิชาโหราศาสตร์ไทย และเพื่อเป็นการยืนยันว่าวิชานี้มีหลักการคล้ายวิชาสถิติผนวกกับกฎเกณฑ์ทางดาราศาสตร์จริงๆครับ

เริ่มจากการหาข้อมูลส่วนพระองค์เช่นวันและเวลาพระราชสมภพซึ่งได้มาจากหนังสือ "ปฐมภาคแห่งโหราศาสตร์"ของท่านอาจารย์พลูหลวง

ส่วนเหตุการณ์สำคัญต่างๆ ได้มาจากเว็บไซต์วิกิพีเดีย ตามลิ้งค์นี้ครับ <พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว>

ผมใช้โปรแกรม"พิเภก ๒๕๕๖" ผูกดวงวางพระลัคนาตามวันพระราชสมภพ 20 กันยายน พ.ศ. 2396 เวลา 18 นาฬิกา 51 นาที ได้ดังนี้ครับ

พระลัคนาสถิตราศีมีน พระองค์จึงเป็นผู้มีจิตใจดี โอบอ้อมอารี รักความสงบ ไม่ชอบขัดแย้งกับใคร ชอบการประนีประนอม

ดาวพุธ(๔)ได้ตำแหน่งมหาอุจจ์และเกษตรในภพเกณฑ์เรียกว่า "ปัญจมหาบุรุษโยค" บ่งบอกถึงวาสนาบารมีสูงมาก มักจะเป็นเกณฑ์ของบุคคลสำคัญ อยู่ในตำแหน่งใดก็จะเด่นดังในตำแหน่งนั้น พระองค์จึงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่

เมื่อดาวพุธ(๔)เด่น ทำให้พระองค์เป็นผู้ที่มีความฉลาดเฉลียวอย่างมาก และเมื่อกุมกับดาวอาทิตย์ พระองค์จึงเป็นผู้ที่กล่าวสุนทรพจน์ได้อย่างยอดเยี่ยม ชักจูงใจคนเก่ง อีกทั้งเป็นนักวิชาการ นักประชาสัมพันธ์ ที่หาใครมาเทียบได้ยาก

ดาวพฤหัส(๕)เจ้าเรือนพระลัคนาสถิตภพศุภะ พระองค์จึงมีความสนใจเรื่องการต่างประเทศ มีความสุขเมื่อได้เดินทางไปต่างประเทศ

นอกจากนี้พระองค์ยังสนใจในวิทยาการสมัยใหม่ เทคโนโลยี วิทยาศาสตร์ พระองค์สามารถนำวิทยาการใหม่ๆจากต่างประเทศมาปรับใช้เพื่อการพัฒนาประเทศได้อย่างเหมาะสมดังเช่นที่ปรากฏให้เห็นตราบจนกระทั่งปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นพระราชกรณียกิจทางด้านการปกครอง การศึกษา การคมนาคม สังคม ศิลปะและวัฒนธรรม

ดาวศุกร์(๖)ให้คุณในตำแหน่งเกษตรแต่สถิตในภพมรณะ ทำให้พระองค์ทรงโปรดเรื่องรักๆใครๆแต่ไม่ยั่งยืนนัก ดังจะเห็นได้จากการมีพระชายาหลายพระองค์

ดาวอังคาร(๓)ให้โทษในตำแหน่งนิจ ทำให้พระองค์มีพระพลานามัยที่ไม่ค่อยจะแข็งแรงนัก อีกทั้งเป็นตำแหน่งพินธุบาทว์ในภพปุตตะ จึงเป็นเหตุให้พระองค์ทรงเป็นทุกข์โทมนัสในเรื่องของ พระราชโอรส พระราชธิดา ข้าราชบริพารและพสกนิกรอยู่เนืองๆ

ดาวราหู(๘)ให้โทษในตำแหน่งนิจ สถิตภพสหัสชะ ทำให้พระองค์มีพระสหายที่ดูจะไม่จริงใจมากนัก บางครั้งก็ลอบแทงข้างหลัง บางทีก็อยู่ในสถานะที่พึ่งพาไม่ค่อยได้ หรือถ้าช่วยเหลือได้ก็มักจะต้องแลกกับผลตอบแทนมหาศาล

คราวนี้เรามาดูเหตุการณ์ที่สำคัญบางเหตุการณ์ในรัชสมัยของพระองค์กันนะครับ

พระบรมราชาภิเษก 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2411
เหตุการณ์แรกคือการได้รับพระบรมราชาภิเษก

อย่างแรกเลย เรามาดูที่ดาวพฤหัส(๕) ซึ่งเป็นดาวเจ้าเรือนพระลัคนา กำลังโคจรสถิตภพตนุ ให้คุณในตำแหน่งเกษตร มีความโดดเด่นที่สุดในขณะนั้น ทำให้พระองค์ดูเด่นที่สุดในบรรดาพระราชโอรส

ดาวพฤหัส(๕)เป็นเจ้าเรือนภพกัมมะ สถิตภพตนุ หมายถึงพระองค์ต้องทรงได้รับพระราชกรณียกิจหรือภาระหน้าที่ที่ยิ่งใหญ่นั่นคือการได้ครองราชย์นั่นเอง

ดาวเสาร์(๗)เจ้าเรือนภพลาภะกำลังโคจรสถิตภพศุภะ ให้คุณในตำแหน่งราชาโชค หมายถึงการประสบความสำเร็จจากการสนับสนุนช่วยเหลือของผู้หลักผู้ใหญ่ แต่ก็ต้องแลกกับการสูญเสียพระราชบิดาไปก่อนหน้านี้

สูญเสียดินแดน 23 กรกฎาคม พ.ศ.2431
เหตุการณ์ต่อไปเป็นการสูญเสียดินแดนมากที่สุดในรัชสมัยของพระองค์ ตรงกับวันที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2431

ถึงแม้ว่าดาวพฤหัส(๕)ซึ่งเป็นดาวเจ้าเรือนพระลัคนาจะให้คุณในตำแหน่งเกษตรสถิตภพกัมมะ หมายถึงการมีพระราชกรณียกิจที่โดดเด่นและสำคัญต่อพระองค์

แต่ดาวราหู(๘)ซึ่งเป็นดาวที่ให้โทษ กำลังโคจรสถิตภพพันธุ ซึ่งหมายถึงทรัพย์สินส่วนพระองค์กำลังจะต้องถูกปล้นชิงไป

ส่วนดาวเสาร์(๗)กำลังโคจรให้โทษในตำแหน่งประ สถิตภพปุตตะ หมายถึงการขาดแคลนข้าราชบริพารที่มีฝีมือ อีกทั้งยังกุมกับดาวอังคาร(๓)ในดวงพระชาตากำเนิด ทำให้พระราชกรณียกิจต่างๆมีปัญหามากมาย จึงเป็นเหตุให้ไม่สามารถรักษาดินแดนไว้ได้

เสด็จสวรรคต 23 ตุลาคม พ.ศ. 2453

เหตุการณ์สุดท้ายคือวันเสด็จสวรรคตของพระองค์ ตรงกับวันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2453

ดาวพฤหัส(๕)เจ้าเรือนพระลัคนาโคจรเป็นพินธุบาทว์ในเรือนมรณะ หมายถึงการที่ดวงพระชาตาอ่อนแอเป็นอย่างมาก

ดาวราหู(๘)ดาวร้ายประจำพระองค์โคจรกุมดาวจันทร์ในดวงกำเนิด รวมทั้งดาวเสาร์(๗)โคจรให้โทษในตำแหน่งนิจกุมดาวจันทร์เช่นกัน ดาวจันทร์(๒)ในดวงกำเนิดนี้เองที่เป็นจุดเปราะบางในทุกดวงชะตา

ขอยกคำกลอนตามคัมภีร์ดังนี้

"เสาร์ทับพระจันทร์ ชนนั้นบมิสบาย 
ทรัพย์สินจะสูญหาย อุปสรรคจะมีมา
ค่าคนและลูกเมีย ก็จะเสียแลโศกา
ขอคุณพระรักษา ชนมชีพจะยืนนาน"

"ราหูปะทะจันทร์ อริอันจะหมองหมาย
ยอลาภพลีหมาย ก็สมัครสมาการ"

ดาวบาปเคราะห์ที่ให้โทษทั้งสองดวงกุมแบบนี้ ตามคำทำนายข้างต้น ไม่ใช่เรื่องดีๆแน่นอน

นอกจากนี้ ดาวอังคาร(๓)ถึงแม้จะโคจรให้คุณในตำแหน่งมหาจักรกุมดาวอาทิตย์ในดวงกำเนิด แต่การให้คุณของดาวบาปเคราะห์มักจะให้โทษก่อนเสมอ กรณีนี้คือการเจ็บไข้ได้ป่วย ดาวอังคาร(๓)ซึ่งเป็นดาวบาปเคราะห์ดวงเล็ก คงไม่สามารถต้านทานดาวบาปเคราะห์ดวงใหญ่ทั้งสองข้างต้นได้หรอกครับ

ส่วนดาวศุกร์(๖)ซึ่งเคยให้คุณในดวงกำเนิด ก็แปรเปลี่ยนมาให้โทษ เนื่องจากอยู่ในตำแหน่งพินธุบาทว์กับดวงพระชาตาขณะนั้น

จากตำแหน่งดาวที่กล่าวมาข้างต้น เป็นสาเหตุให้พระองค์เสด็จสวรรคตอย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยง



ด้วยสถิติของเหตุการณ์บุคคลสำคัญหลายท่าน และการโคจรของดวงดาวในตำแหน่งต่างๆ จะเห็นความสอดคล้องต้องกันในทุกดวงชาตา ไม่ว่าบุคคลนั้นจะมีวาสนามากหรือน้อยประการใด ก็มักจะได้พบเจอกับเหตุการณ์ใกล้เคียงกันทั้งสิ้น ต่างกันที่บุคคลนั้นอยู่ในระดับใดของสังคมเท่านั้นเอง.


หมายเหตุ ขอขอบคุณภาพจากวิกิพีเดียครับ

วันอาทิตย์ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2557

ดวง 30 ก.ค. 57 - 16 ม.ค. 59 "ราหู" อาจไม่ร้ายอย่างที่คิด

เห็นหมอดูหลายคนมักจะออกมาพูดเกี่ยวกับดาวราหู ว่าจะให้โทษอย่างนั้นอย่างนี้ ราศีโน้น นั้น นี้ ระวังให้ดีๆ ผมก็เลยรู้สึกว่า เรากำลังมองดาวราหูในแง่ร้ายเกินไปหรือเปล่าครับ ลองมาดูกัน

ในทางดาราศาสตร์ ไม่มีดาวราหูนะครับ แต่ราหูคือเงาของโลกที่ไปตกกระทบกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งเช่นไปตกกระทบกับดวงจันทร์ ก็จะเรียกว่าราหูอมจันทร์หรือจันทรคราสนั่นเอง

ในทางโหราศาสตร์ ดาวราหูอยู่ในกลุ่มของดาวบาปเคราะห์ หมายถึงดาวที่ให้โทษมากกว่าให้คุณ การเกิดคุณหรือโทษจะเกิดแบบรวดเร็วและแรง ส่วนจะมากหรือน้อยนั้น ขึ้นอยู่กับตำแหน่งของดาวราหู ว่ากำลังให้คุณหรือโทษรุนแรงประการใด

ตำแหน่งที่ให้โทษรุนแรงมากของดาวราหู คือขณะที่กำลังโคจรอยู่ที่ราศีพฤษภและราศีสิงห์
ตำแหน่งที่ให้คุณเอนกอนันต์ คือขณะที่กำลังโคจรอยู่ที่ราศีพิจิกและราศีกุมภ์
ส่วนตำแหน่งอื่นๆ จะให้ทั้งคุณและโทษปานกลาง โดยพิจารณาจากลัคนาเป็นราศีไป

ดาวราหูโคจรในราศีกันย์
30ก.ค.57 - 16ม.ค.59
ระหว่างวันที่ 30 ก.ค. 2557 ถึง 16 ม.ค. 2559 ดาวราหูโคจรอยู่ในราศีกันย์ 

ท่านที่ลัคนาสถิตราศีมีน ในช่วงเวลาดังกล่าว ดาวราหูจะให้โทษรุุนแรงกว่าราศีอื่นๆ เนื่องจากดาวราหูอยู่ในตำแหน่งพินทุบาทว์ เรียกเป็นภาษาง่ายๆที่ได้ยินกันทั่วไปว่า "ดวงแตก"

ท่านที่ลัคนาสถิตราศีกันย์ ในช่วงนี้ ดาวราหูจะให้คุณมากกว่าราศีอื่นๆ เพราะจากการพิจารณาเรื่องขององค์เกณฑ์ซึ่งเป็นที่ยอมรับของโหราจารย์ ดาวราหูกำลังสถิตในตำแหน่งที่เรียกว่า "นรเกณฑ์" หมายถึงการให้คุณไม่ว่าจะอยู่ในสถานะใด

เพื่อความแน่นอนและแม่นยำ คุณควรจะให้โหรตรวจดวงคุณก่อนนะครับ ว่าโดยปกติดาวราหูให้คุณหรือให้โทษกับคุณ เพราะเป็นไปไม่ได้ที่ดาวราหูจะให้โทษกับทุกคน ไม่อย่างนั้น ซวยกันทั้งประเทศสิครับ ! (ฮา)

ต่อไปนี้เรามาดูกันว่า ในช่วงเวลาที่ดาวราหูโคจรในราศีกันย์ จะมีเรื่องดีร้ายอย่างไร เกี่ยวกับเรื่องอะไรในแต่ละราศี เอาแบบย่อๆพอเป็นแนวทางก็แล้วกันนะครับ 



ราศีเมษ
ปัญหา อุปสรรคต่างๆ ศัตรูคู่เกาเหลา จะไม่มีอะไรมาต่อกรกับคุณได้ เพราะตัวเขาเองยังเอาตัวไม่รอดเลย


ราศีพฤษภ 
บุตรบริวารทำให้หนักใจ ต้องคอยดูแลเป็นพิเศษ เหมือนคนป่วยคนหนึ่งเลยทีเดียว


ราศีเมถุน
บุพการีสุขภาพไม่ค่อยดี รถรา บ้านช่อง ก็มีเรื่องต้องซ่อมแซม อยู่บ่อยๆ


ราศีกรกฎ
การเจรจาติดต่อจะไม่ราบรื่น  ขาดตอน ต้องคอยติดตาม หรือไม่ก็เพื่อนฝูงใกล้ๆตัว ไม่อยากคุยด้วย

ราศีสิงห์
การเงินไหลออกมากกว่าไหลเข้า มีเรื่องให้ต้องใช้จ่ายอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว เข้าทำนองราหูล้วงทรัพย์


ราศีกันย์
สุขภาพไม่ค่อยดีแต่ดูจะมีอำนาจมากกว่าเก่า เหมือนมีวิญญาณมาเฟียเข้าสิง


ราศีตุลย์
ระวังเรื่องลับๆไว้ให้ดีก็แล้วกัน เพราะมันอาจถูกเปิดเผยออกมาให้อื้อฉาวได้ถ้าไม่ระมัดระวัง

ราศีพิจิก
ประสบความสำเร็จได้ยากยิ่ง โชคลาภก็ไม่ค่อยจะมี อาจมีเหตุให้ต้องไปเยี่ยมเพื่อนเก่าๆมากหน่อย

ราศีธนู
การทำงานไม่มีความต่อเนื่อง ทำๆหยุดๆ มีการอิจฉาริษยาปัดแข้งปัดขากัน



ราศีมังกร
จะหาคนสนับสนุนได้ยาก ผู้หลักผู้ใหญ่ที่เคยพึ่งพากันจะช่วยได้ไม่ตลอดรอดฝั่ง



ราศีกุมภ์
ระวังความไม่ระมัดระวังจะทำให้เจ็บเนื้อเจ็บตัว ทางที่ดีหันเข้าหาวัดหรือตรวจสุขภาพบ่อยๆ

ราศีมีน
เข้าเกณฑ์ดวงแตก คือต้องมีการแยกตัวกับใครๆที่คุ้นเคย คุณหรือคู่ของคุณต้องได้เจอแน่นอน