วันอาทิตย์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2558

ฤกษ์คลอด ตอนที่ ๗ - วิชาการ

เรื่องของฤกษ์คลอดไม่ใช่เรื่องของการทำพิธีมงคลเพียงอย่างเดียว แต่เป็นการคำนวณหาเวลาตกฟากที่ดีที่สุดในช่วงวันที่แพทย์กำหนดให้คลอดได้ เพื่อให้มีชะตาชีวิตที่ดีที่สุด

การให้ฤกษ์พิธีมงคลต่างๆ โหรจะบอกวันที่ที่สามารถทำพิธีได้แต่บางทีก็ไม่ได้บอกเวลา ส่วนฤกษ์คลอดนั้นนอกจากวันที่แล้ว โหรจะต้องบอกด้วยว่าเวลาตกฟากควรจะเป็นช่วงเวลาเท่าไร มีนิสัยใจคอเป็นอย่างไร มีชะตาชีวิตที่โดดเด่นเพียงใด

โหรที่ใช้หลักวิชาทางโหราศาสตร์ที่สำคัญได้ครอบคลุมที่สุด ย่อมสร้างโอกาสให้กับเด็กที่เกิดมาประสบความสำเร็จในชีวิตได้มากที่สุด และย่อมสร้างความน่าเชื่อถือให้ตนเองได้มากที่สุดเช่นกัน ส่วนจะมีการพิจารณาหลักเกณฑ์อะไบ้างนั้น ขออธิบายอย่างคร่าวๆ เพื่อให้เป็นการรู้เท่าทันโหร ถึงจะไม่เข้าใจรายละเอียดทั้งหมด แต่ก็พอจะเข้าใจได้ว่า โหรทำงานอย่างไรและการเลือกโหรที่ดีนั้น ดูได้จากเรื่องอะไรบ้าง

ลิ้งค์บทความที่เกี่ยวข้อง
1. ฤกษ์คลอด ตอนที่ ๖ - ปัญจมหาบุรุษโยค ดวงฤกษ์ของเจ้าคนนายคน
2. ฤกษ์คลอด ตอนที่ ๘ - วิชาการ (จบ)


1. สถานที่เกิด

โดยทั่วไปแล้ว เราจะใช้จังหวัดหรือเมืองในการบอกสถานที่เกิด แต่จะทราบได้อย่างไรว่าอยู่ ณ ที่ใดในโลก เพื่อให้ง่ายในการที่จะบอกตำแหน่ง เราจึงมีการกำหนดจุดตัดของเส้น 2 เส้นในแนวตั้งและแนวนอนตามรูปสัณฐานทรงกลมของโลก

เส้นแนวนอนเราเรียกว่า เส้นรุ้ง(Latitude-แลตติจูด)

เส้นแนวตั้ง เรียกว่า เส้นแวง(Longitude-ลองจิจูด)

จำได้ว่าตอนเด็กๆคุณครูสอนให้จำว่า "รุ้งตะแคงแวงตั้ง" ครับ

เส้นที่แบ่งโลกออกเป็นซีกบน(เหนือ)และล่าง(ใต้)เรียกว่า เส้นศูนย์สูตร(Equator)

เส้นที่แบ่งโลกซีกซ้าย(ตะวันตก)และขวา(ตะวันออก) เรียกว่า เส้นเมริเดียน(Meridian) ประชาคมโลกได้ตกลงกันว่าให้เมืองกรีนิช ประเทศอังกฤษเป็นเส้นเมริเดียนเส้นแรกที่ลากผ่าน

ทีนี้เนื่องจากโลกของเราเป็นทรงกลม ตามหลักวิชาเรขาคณิต ในวงกลมจะแบ่งได้เป็น 360 องศา ดังนั้นซีกเหนือ-ใต้และตะวันออก-ตะวันตกก็จะถูกแบ่งกันซีกละ 180 องศา

ยกตัวอย่างเช่น จังหวัดกรุงเทพมหานครของเรา จะอยู่ เส้นรุ้งที่ 13 องศา 45 ลิปดา เหนือ เส้นแวงที่ 100 องศา 31 ลิปดา ตะวันออก โดยเทียบกับเมืองกรีนิช ประเทศอังกฤษ

ในทางโหราศาสตร์ "สถานที่เกิด" ใช้สำหรับการคำนวณเรื่อง "เวลานาฬิกา" ในหัวข้อถัดไป

2. เวลานาฬิกา

ทุกคนทราบกันดีอยู่แล้วว่าโลกหมุนรอบตัวเอง 1 รอบ เท่ากับ 1 วัน เท่ากับ 24 ชั่วโมง และเนื่องจากโลกมีสัณฐานเป็นทรงกลม ดังนั้นโลกหมุนรอบตัวเอง 1 รอบ จึงเท่ากับ 360 องศา เท่ากับ 24 ชั่วโมง

ดังนั้นถ้าโลกหมุนไป 1 ชั่วโมงหรือ 60 นาที จะได้ระยะ = 360องศา/24ชั่วโมง = 15 องศา พูดง่ายๆว่า โลกหมุนรอบตัวเอง 1 ชั่วโมงได้ 15 องศา
ถ้าโลกเคลื่อนไป 1 องศา จะใช้เวลา = 60นาที/15องศา = 4 นาที หรือพูดง่ายๆว่า โลกหมุนรอบตัวเอง  4 นาทีได้ 1องศาพอดีเช่นกัน

แต่เพราะว่าแต่ละประเทศเห็นพระอาทิตย์ขึ้นและตกไม่เท่ากัน จึงมีการแบ่งเขตเวลาไว้เพื่อที่แต่ละประเทศจะได้เทียบเวลากันได้ โดยใช้เมืองกรีนิช ประเทศอังกฤษเป็นเขตแบ่งเช่นเดิม แล้วตกลงกันว่าประเทศไหนจะใช้เขตเวลาอะไร

เขตเวลาที่อยู่ทางตะวันตกของเมืองกรีนิช จะมีตั้งแต่ +1, +2, +3, ..., +12
เขตเวลาที่อยู่ทางตะวันออกของเมืองกรีนิช จะมีตั้งแต่ -1, -2, -3, ..., -12

ตัวอย่างเช่น ประเทศไทยใช้เขตเวลา +7 หรือเร็วกว่าเมืองกรีนิช 7 ชั่วโมง นั่นหมายถึงจะใช้ตำแหน่งที่ 7ชั่วโมงx60นาที/4นาที = 105 องศาตะวันออกในการบอกเวลาของทั้งประเทศไทยซึ่งอยู่ที่ผาชนะได จังหวัดอุบลราชธานี

ได้กล่าวแล้วว่า กรุงเทพมหานครอยู่เส้นแวงที่ 100 องศา 31 ลิปดาตะวันออก ห่างจาก ผาชนะได 4 องศา 29 ลิปดา จึงสามารถกล่าวได้ว่า จริงๆแล้วเวลาที่กรุงเทพจะช้ากว่าผาชนะไดอยู่ 4นาทีx4องศา + 29ลิปดาx4นาที/60ลิปดา = 16 + 1.9333 = 17 นาที 56 วินาที

"เวลานาฬิกา" จะใช้สำหรับการคำนวณหา "ตำแหน่ง(สมผุส)ของดวงดาว" 

3. เวลาอาทิตย์อุทัย

การโคจรของโลกรอบดวงอาทิตย์ไม่ได้เป็นวงกลม แต่มีลักษณะเป็นวงรี และแกนโลกก็ไม่ได้ตั้งในแนวดิ่ง แต่จะเอียงเล็กน้อยประมาณ 23.5 องศา จึงมีช่วงที่ซีกโลกเหนือและใต้อยู่ใกล้และไกลจากดวงอาทิตย์ไม่เท่ากัน จึงได้รับความร้อนจากดวงอาทิตย์ไม่เท่ากัน ทำให้เกิดเป็นฤดูกาลขึ้น

ช่วงที่ซีกโลกเหนือโคจรหันเข้าหาดวงอาทิตย์จะเป็นฤดูร้อน ช่วงที่ซีกโลกเหนือโคจรหันออกจากดวงอาทิตย์ก็จะเป็นฤดูหนาว

ถ้าเราสังเกตเวลาดวงอาทิตย์ขึ้น ในแต่ละฤดูกาลจะขึ้นไม่ตรงกัน ดวงอาทิตย์จะขึ้นเร็วในฤดูร้อน ส่วนในฤดูหนาวดวงอาทิตย์จะขึ้นช้ากว่า แต่โดยเฉลี่ยแล้วเราอาจกล่าวได้ว่าดวงอาทิตย์ขึ้นเวลา 6 นาฬิกา ทำให้โหรบางท่านใช้เวลานี้ในการคำนวณซึ่งไม่ค่อยจะถูกต้องนัก เพราะในความเป็นจริง เวลาพระอาทิตย์ขึ้นจะไม่เท่ากันตลอดทั้งปี

"เวลาอาทิตย์อุทัย" ใช้สำหรับคำนวณหา"ลัคนา"ที่แท้จริงของเจ้าชะตาซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่สุด

ลิ้งค์บทความที่เกี่ยวข้อง
1. เรื่องของ"ลัคนา"

4. สมผุสหรือตำแหน่งของดาว

สงสัยหรือไม่ว่าในปฏิทินโหราศาสตร์ที่มีวางขายในร้านหนังสือที่บอกสมผุสดาวแต่ละดวงเป็นองศาลิปดานั้น คำนวณมาอย่างไร ? คำตอบคือได้มาจากสูตรคำนวณทางดาราศาสตร์

เคยสงสัยหรือไม่ว่า ทำไมในปฏิทินจึงแสดงสมผุสเพียงตำแหน่งเดียวต่อวัน ? คำตอบคือถ้าแสดงสมผุสทุกชั่วโมงนาที ก็จะต้องแสดงถึง 1440 บรรทัดต่อวัน ซึ่งคงไม่มีใครพิมพ์ออกมาขายแน่นอน

และเคยสงสัยหรือไม่ว่า สมผุสในปฏิทินเป็นสมผุสที่เวลาใด ? คำตอบคือบางเล่มเป็นสมผุสที่เวลาเที่ยงคืน บางเล่มก็แสดงสมผุสที่เวลา 7 โมงเช้า

ทำอย่างไรจึงจะสามารถทราบสมผุสดาวได้ตลอดเวลา ? เหมือนกับว่าเมื่อไรก็ตามที่เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าก็จะทราบสมผุสของดาวได้ทันที

ถ้าเราทราบสมผุสดาวตลอดเวลาทุกชั่วโมงนาที จะมีประโยชน์อย่างไร ? จำเป็นหรือไม่ที่จะต้องทราบ ? และเป็นไปได้หรือไม่ที่จะทราบ ?

มีคำถามต่างๆมากมายที่หลายคนสงสัยเกี่ยวกับสมผุสในปฏิทิน แต่ก็ยังหาความกระจ่างไม่ได้ แต่ถ้ามีความพยายามรับรองว่าจะตอบปัญหาเหล่านี้ได้อย่างแน่นอน

ความจริงในสมัยโบราณเรามีการคำนวณสมผุสดาวแบบที่เรียกว่า "พิชัยสงคราม" ซึ่งเป็นการคำนวณแบบละเอียดตามเวลาที่ต้องการ แต่โหรในปัจจุบันมักจะใช้วิธีเปิดปฏิทินแล้วนำสมผุสมาใช้เลยทันทีโดยไม่ทราบว่าอาจจะทำให้การคำนวณหาลัคนาหรือตัวแทนของเจ้าชะตาคลาดเคลื่อนไปจากความเป็นจริง โหรบางท่านก็ทราบเรื่องนี้ แต่ก็ละเลยไปเสีย

โหรที่สามารถคำนวณสมผุสแบบพิชัยสงครามได้ จะทราบดีว่านำไปใช้ในการพยากรณ์ได้อย่างแม่นยำเพียงใด ยิ่งยุคนี้เป็นยุคที่มีเทคโนโลยีทันสมัย ถ้ามีโปรแกรมคอมพิวเตอร์มาช่วยด้วยแล้ว รับรองได้เลยว่าจะไม่อยากกลับไปเปิดปฏิทินเป็นเล่มๆอีกเลย


5. ลัคนาที่แท้จริง

แผ่นจานสำหรับหมุนหาลัคนาแบบกระดาษแข็งหุ้มพลาสติก
โดยปกติการคำนวณหาลัคนาแบบที่ใช้จานหมุน เพียงทราบเวลาตกฟาก สมผุสดาวอาทิตย์ ก็พอแล้ว และตั้งลูกศรให้ชี้ไปที่ 6 นาฬิกา แล้วอ่านค่าตรงตำแหน่งเวลาเกิดว่าตรงกับราศีใด ลัคนาก็คือราศีนั้น

ในความเป็นจริงเวลาอาทิตย์อุทัยและ เวลาตกฟากไม่ได้เป็นไปตามเวลาประเทศไทย ปัจจัยที่ทำให้แตกต่างกันก็คือสถานที่เกิด ดังนั้นถ้ามีการปรับเรื่องเวลา ก็จะทำให้การคำนวณหาลัคนามีความแม่นยำเที่ยงตรงมากยิ่งขึ้น

ในการคำนวณหาลัคนาที่แท้จริงนั้น สิ่งที่ต้องทราบก็คือ เวลาตกฟาก เวลาอาทิตย์อุทัย สมผุสดาวอาทิตย์ และสถานที่เกิด ในที่นี้จะไม่แสดงวิธีคำนวณ เนื่องจากมีรายละเอียดค่อนข้างมาก แต่จะสรุปขั้นตอนอย่างย่อๆเพื่อทำความเข้าใจเท่านั้น ถ้าสนใจจริงๆ อาจจะต้องลองค้นหาจากตำราโหราศาสตร์ไทยซึ่งคงมีน้อยมากที่จะแสดงวิธีคำนวณเช่นนี้

ในขั้นแรก ก็ต้องมีการปรับเรื่องเวลาตกฟากและเวลาอาทิตย์อุทัย ให้ตรงตามสถานที่เกิดเสียก่อน

ขั้นที่สอง ก็ควรจะปรับสมผุสของดาวอาทิตย์ให้ตรงตามเวลาตกฟากจริงๆ

ขั้นสุดท้าย เป็นการนำเวลาตกฟาก เวลาอาทิตย์อุทัย และสมผุสดาวอาทิตย์ที่ปรับแล้ว มาคำนวณ ก็จะได้ลัคนาที่แท้จริงตามความประสงค์

สำหรับผู้ที่มีโปรแกรมช่วยคำนวณ ก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าปวดหัวอีกต่อไป แต่ต้องเลือกใช้โปรแกรมที่สามารถปรับการคำนวณให้เป็นไปตามเวลาจริงหรือคำนวณแบบพิชัยสงครามได้ด้วยนะครับ

ยังมีกฎเกณฑ์อีกหลายข้อที่ควรทราบและนำไปใช้ในการวางฤกษ์คลอดเพื่อให้มีความแม่นยำและเชื่อถือได้ แต่ผมจะเขียนบรรยายให้ได้อ่านกันในตอนต่อไปครับ









วันเสาร์ที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2558

ฤกษ์คลอด ตอนที่ ๖ - ปัญจมหาบุรุษโยค ดวงฤกษ์ของเจ้าคนนายคน

จากประสบการณ์การดูดวงของผม พบว่ามีกฎเกณฑ์หนึ่งของโหราศาสตร์ไทย ที่สามารถบอกเราได้ว่า แต่ละบุคคลจะอยู่ในระดับใดของสังคมที่ตนเองดำรงชีวิตอยู่ ไม่ว่าจะเป็นแวดวงการเมือง ข้าราชการ องค์กรเอกชน หรือแม้กระทั่งวงการบันเทิง เกณฑ์นี้มีปรากฎในตำราโหราศาสตร์ไทยหลายๆเล่ม และเกณฑ์นี้ผมได้เคยกล่าวไว้ในบทความเรื่อง "ผูกดวงนายกรัฐมนตรีของไทย ตอนที่ 4 (จบ)" แต่ไม่ได้อธิบายลงลีกในรายละเอียดมากมายนัก เนื่องจากต้องการแค่เพียงแสดงข้อมูลเป็นสถิติไว้ว่า บุคคลระดับสูงมักจะมีดวงแบบนี้ครับ เรียกเกณฑ์นี้ว่า "ปัญจมหาบุรุษโยค"
ตารางแสดงเกณฑ์ต่างๆที่ปรากฎในดวงของนายกรัฐมนตรีของไทย
จากสถิติในบทความนั้น เกณฑ์ปัญจมหาบุรุษโยค จะเป็นเกณฑ์ที่ส่วนใหญ่จะปรากฎในดวงของนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นบุคคลระดับสูงในแวดวงการเมือง ส่วนในวงการอื่นๆ เท่าที่ผมได้ประสบพบมา เราสามารถใช้เกณฑ์นี้เป็นตัวชี้วัดระดับวาสนาได้เช่นกัน

ก่อนอื่นเรามาดูนิยามหรือความหมายกันครับว่าวิธีการพิจารณาดวงชะตาที่มีเกณฑ์แบบนี้เป็นอย่างไร
คำอธิบายจากตำรา"ปฐมภาคแห่งโหราศาสตร์"ของท่านอาจารย์พลูหลวง
จากรูปข้างต้น ผมขออธิบายอย่างนี้ครับ คำว่า "ปัญจ" แปลว่าห้า ซึ่งหมายถึงดาว 5 ดวงได้แก่ ดาวอังคาร(๓) ดาวพุธ(๔) ดาวพฤหัส(๕) ดาวศุกร์(๖) และดาวเสาร์(๗)

ในดวงชะตาใดก็ตาม ถ้ามีดาวใดดาวหนึ่งใน 5 ดาวนี้อยู่ในตำแหน่งอุจจ์หรือเกษตร และสถิตในภพตนุ หรือ พันธุ หรือ ปัตนิ หรือ กัมมะ จะถือว่าดวงนั้นได้เกณฑ์ปัญจมหาบุรุษโยค

แต่วาสนาจะไปได้สูงขนาดไหน ก็ต้องดูด้วยนะครับว่ามีดาวดวงอื่นๆไปสถิตยังทุสถานะภพมากน้อยแค่ไหน ถ้ามาก ก็อาจจะลำบากมากหน่อยกว่าจะขึ้นไปถึงจุดสูงสุด

อย่างไรก็ตามผู้ที่มีดวงแบบนี้ ผมรับรองว่าต้องได้เป็นระดับหัวหน้าขึ้นไปแน่นอนครับ

ทีนี้เรามาดูกันครับว่าในปีพ.ศ.2558นี้ มีช่วงวันหรือเดือนใดบ้างที่มีโอกาสเกิดดวงแบบนี้ โดยการพิจารณาดูว่ามีดาวใดบ้างที่อยู่ในตำแหน่งเกษตรหรืออุจจ์นั่นเอง

มิถุนายน - กรกฎาคม 2558

มิถุนายน 2558
วันที่ 1 - 30 ดาวพฤหัส(๕) ได้ตำแหน่งอุจจ์ ในราศีกรกฎ
วันที่ 29 - 30 ดาวพุธ(๔) ได้ตำแหน่งเกษตร ในราศีเมถุน

กรกฎาคม 2558
วันที่ 1 - 10 ดาวพฤหัส(๕) ได้ตำแหน่งอุจจ์ ในราศีกรกฎ
วันที่ 1 - 16 ดาวพุธ(๔) ได้ตำแหน่งเกษตร ในราศีเมถุน





สิงหาคม - กันยายน 2558


สิงหาคม 2558
วันที่ 20 - 31 ดาวพุธ(๔) ได้ตำแหน่งเกษตร ในราศีกันย์


กันยายน 2558
วันที่ 1 - 4 ดาวพุธ(๔) ได้ตำแหน่งเกษตร ในราศีกันย์





ธันวาคม 2558



ธันวาคม 2558
วันที่ 2 - 26 ดาวศุกร์(๖) ได้ตำแหน่งเกษตร ในราศีตุลย์









และเช่นเคยครับ ถ้าใครต้องการวัน เวลาตกฟากและลัคนาที่เหมาะสมในการวางฤกษ์คลอดให้แก่บุตรหลาน ก็ลองปรึกษาโหรที่ท่านไว้วางใจและสามารถวางฤกษ์ได้กันนะครับ เพราะถ้าให้เขียนบอกตอนนี้ คงต้องใช้เวลาเขียนกันเป็นปีล่ะครับ




วันจันทร์ที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2558

ลีลาการโคจรของดวงดาวปี 2559

ในปีพ.ศ.2559นี้ ผมได้ตรวจดูลีลาลักษณะการโคจรว่ามีความปั่นป่วนหรือผิดปกติอย่างไรหรือไม่ ปรากฎว่าดวงดาวเกือบทุกดวงโคจรได้น่ารักมาก ไม่ค่อยมีสิ่งผิดปกติให้เห็นเหมือนปีก่อนๆ ทำให้ผมรู้สึกสบายใจมาก เพราะการพยากรณ์จะทำได้ง่ายขึ้น เนื่องจากไม่ต้องคอยระแวงระวังว่าเหตุการณ์ต่างๆจะถูกเลื่อนออกหรือเลื่อนเข้าจากที่ควรจะเป็น ส่วนจะเป็นอย่างไรนั้น มาดูกันครับ


ลิ้งค์บทความที่เกี่ยวข้อง
2. ดวงดาวโคจรย้ายราศีปี 2558

นอกจากการโคจรย้ายราศีของดวงดาวแล้ว สิ่งหนึ่งที่โหรควรจะนำมาพิจารณาประกอบการพยากรณ์ให้มีความละเอียดละออมากยิ่งขึ้น ก็คือลักษณะการโคจร

การโคจรของดวงดาวมีลักษณะแตกต่างกัน เนื่องจากความเร็วในการโคจรไม่เท่ากันนั่นเอง และที่ความเร็วไม่เท่ากัน ก็เพราะวงโคจรไม่ได้เป็นวงกลมซะทีเดียว แต่เป็นวงรีนิดหน่อยครับ

โดยปกติ ลักษณะการโคจรของดวงดาวที่ผิดปกติในทางโหราศาสตร์มี 3 ลักษณะดังนี้

1. พักร์ - โคจรถอยหลัง
ในความเป็นจริง ดวงดาวไม่ได้โคจรถอยหลังจริงๆนะครับ แต่เป็นช่วงที่ความเร็วในการโคจรช้ากว่าโลก เมื่อมองออกไปจากโลก ก็เลยเห็นเหมือนดาวกำลังถอยหลัง คล้ายๆกับการที่เราขับรถเร็วกว่าคันอื่นๆ เราก็จะเห็นรถคันอื่นกำลังถอยหลังห่างจากเราไปนั่นเอง

2. มณฑ์ - โคจรช้าหรือหยุดนิ่ง
เป็นช่วงที่โลกโคจรด้วยความเร็วพอๆกับดาวที่เราสังเกตุ เมื่อมองออกไปจากโลก ก็เลยเห็นว่าโคจรช้าหรือหยุดนิ่ง

3. เสริด - โคจรเดินหน้าอย่างรวดเร็ว (อ่านว่า เสิด)
เป็นช่วงที่โลกโคจรช้ากว่า เมื่อมองออกไปจากโลก ก็เลยเห็นเหมือนดาวกำลังโคจรห่างจากเราไปเรื่อยๆ เหมือนกับการที่เราขับรถช้ากว่าคันอื่นๆ เราก็จะเห็นรถคันอื่นหนีห่างจากเราไปเช่นกัน

ตำราบางเล่มบอกว่า การโคจรทั้ง 3 ลักษณะนี้ เป็นการโคจรที่ผิดปกติ ทำให้ดาวดวงนั้นๆให้โทษ แต่ตำราบางเล่มก็บอกว่าเป็นการชะลอหรือเร่งเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น

สำหรับผมแล้วถูกทั้งสองแบบครับ คือถ้าเราพิจารณาดาวในดวงกำเนิด ดาวที่โคจรผิดปกติ ผมจะถือเป็นดาวที่ให้โทษ ส่วนในดวงจรที่ใช้พยากรณ์เหตุการณ์ในปัจจุบัน ผมจะถือว่าเป็นการชะลอหรือเร่งเหตุการณ์ครับ

ทีนี้เรามาดูว่าดาวแต่ละดวง มีลักษณะการโคจรเป็นอย่างไรในปี 2559 นี้

หมายเหตุ
1. ตัวหนังสือสีเขียว คือช่วงเวลาที่ดาวให้คุณ
2. ตัวหนังสือสีแดง คือช่วงเวลาที่ดาวให้โทษ
3. ดาวที่ได้ตำแหน่ง เกษตร อุจจ์ มหาจักร ราชาโชค องค์เกณฑ์ ถือว่าให้คุณ
4. ดาวที่ได้ตำแหน่ง ประนิจ ถือว่าให้โทษ
5. ดาวศุภเคราะห์ที่ไม่ได้ตำแหน่งใดๆ ถือว่าให้คุณโดยปกติ ได้แก่ ดาวพฤหัส(๕) ดาวพุธ(๔) ดาวศุกร์(๖)
6. ดาวบาปเคราะห์ที่ไม่ได้ตำแหน่งใดๆ ถือว่าให้โทษโดยปกติ ได้แก่ ดาวเสาร์(๗) ดาวราหู(๘) ดาวอังคาร(๓)


ตำแหน่งของดาวเสาร์ในปี 2559
ดาวเสาร์ (๗)
1 มกราคม - 31 มีนาคม พ.ศ. 2559
โคจรเดินหน้าในราศีพิจิก ให้คุณในตำแหน่งราชาโชค

31 มีนาคม - 4 สิงหาคม พ.ศ. 2559
โคจรพักร์ในราศีพิจิก ชะลอการให้คุณในตำแหน่งราชาโชค

4 สิงหาคม - 31 ธันวาคม พ.ศ. 2559
โคจรเดินหน้าในราศีพิจิก ให้คุณในตำแหน่งราชาโชค





ตำแหน่งของดาวราหูในปี 2559
ดาวราหู (๘)
1 มกราคม - 16 มกราคม พ.ศ. 2559
โคจรพักร์ตามปกติในราศีกันย์ ให้โทษโดยปกติ ให้คุณกับลัคนาราศีกันย์ในตำแหน่งนรเกณฑ์

16 มกราคม - 31 ธันวาคม พ.ศ. 2559
โคจรพักร์ตามปกติในราศีสิงห์ ให้โทษในตำแหน่งประ





ตำแหน่งของดาวพฤหัสในปี 2559
ดาวพฤหัส (๕)
1 มกราคม - 13 มกราคม พ.ศ. 2559
โคจรเดินหน้าในราศีกันย์ ให้โทษ ในตำแหน่งประ ให้คุณกับลัคนาราศีกันย์ในตำแหน่งนรเกณฑ์

13 มกราคม - 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559
โคจรพักร์ในราศีกันย์ ชะลอการให้โทษ ในตำแหน่งประ ชะลอการให้คุณกับลัคนาราศีกันย์ในตำแหน่งนรเกณฑ์

9 กุมภาพันธ์ - 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2559
โคจรพักร์ในราศีสิงห ชะลอการให้คุณโดยปกติ

17 พฤษภาคม - 7 สิงหาคม พ.ศ. 2559
โคจรเดินหน้าในราศีสิงห์ ให้คุณโดยปกติ

7 สิงหาคม - 31 ธันวาคม พ.ศ. 2559
โคจรเดินหน้าในราศีกันย์ ให้โทษในตำแหน่งประ ให้คุณกับลัคนาราศีกันย์ในตำแหน่งนรเกณฑ์



ตำแหน่งของดาวอังคารในปี 2559
ดาวอังคาร (๓)
มกราคม - 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559
โคจรเดินหน้าในราศีตุลย์ ให้โทษในตำแหน่งประ ให้คุณกับลัคนาราศีตุลย์ ในตำแหน่งนรเกณฑ์

19 กุมภาพันธ์ - 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2559
โคจรเดินหน้าในราศีพิจิก ให้คุณในตำแหน่งเกษตร

4 พฤษภาคม - 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2559
โคจรพักร์ในราศีพิจิก ให้คุณลดลงในตำแหน่งเกษตร

8 กรกฎาคม - 15 กันยายน พ.ศ. 2559
โคจรเดินหน้าในราศีพิจิก ให้คุณในตำแหน่งเกษตร

15 กันยายน - 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559
โคจรเดินหน้าในราศีธนู ให้โทษโดยปกติ

1 พฤศจิกายน - 9 ธันวาคม พ.ศ. 2559
โคจรเดินหน้าในราศีมังกร ให้คุณในตำแหน่งอุจจ์

9 ธันวาคม - 31 ธันวาคม พ.ศ. 2559
โคจรเดินหน้าในราศีกุมภ์ ให้โทษโดยปกติ ให้คุณกับลัคนาราศีกุมภ์ในตำแหน่งนรเกณฑ์ และให้คุณกับลัคนาราศีพฤษภในตำแหน่งปัศวเกณฑ์



ตำแหน่งของดาวอาทิตย์ในปี 2559
ดาวอาทิตย์ (๑)
1 - 15 มกราคม พ.ศ. 2559
โคจรเดินหน้าในราศีธนู

15 มกราคม - 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559
โคจรเดินหน้าในราศีมังกร

13 กุมภาพันธ์ - 14 มีนาคม พ.ศ. 2559
โคจรเดินหน้าในราศีกุมภ์ ให้โทษในตำแหน่งประ ให้คุณกับลัคนาราศีพฤษภในตำแหน่งปัศวเกณฑ์ และให้คุณกับลัคนาราศีกุมภ์ในตำแหน่งนรเกณฑ์


14 มีนาคม - 13 เมษายน พ.ศ. 2559
โคจรเดินหน้าในราศีมีน

13 เมษายน - 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2559
โคจรเดินหน้าในราศีเมษ ให้คุณในตำแหน่งอุจจ์

14 พฤษภาคม - 15 มิถุนายน พ.ศ. 2559
โคจรเดินหน้าในราศีพฤษภ ให้คุณกับลัคนาราศีสิงห์ในตำแหน่งปัศวเกณฑ์


15 มิถุนายน - 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2559
โคจรเดินหน้าในราศีเมถุน ให้คุณในตำแหน่งราชาโชค


16 กรกฎาคม - 17 สิงหาคม พ.ศ. 2559
โคจรเดินหน้าในราศีกรกฎ  ให้คุณในตำแหน่งมหาจักร


17 สิงหาคม - 17 กันยายน พ.ศ. 2559
โคจรเดินหน้าในราศีสิงห์ ให้คุณในตำแหน่งเกษตร


17 กันยายน - 17 ตุลาคม พ.ศ. 2559
โคจรเดินหน้าในราศีกันย์ ให้คุณกับลัคนาราศีกันย์ในตำแหน่งนรเกณฑ์


17 ตุลาคม - 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559
โคจรเดินหน้าในราศีตุลย์ ให้โทษในตำแหน่งนิจ ให้คุณกับลัคนาราศีตุลย์ในตำแหน่งนรเกณฑ์


16 พฤศจิกายน - 16 ธันวาคม พ.ศ. 2559
โคจรเดินหน้าในราศีพิจิก

16 ธันวาคม - 31 ธันวาคม พ.ศ. 2559
โคจรเดินหน้าในราศีธนู




ตำแหน่งของดาวพุธในปี 2559
ดาวพุธ (๔)
1 - 16 มกราคม พ.ศ. 2559
โคจรพักร์ในราศีธนู ลดการให้โทษในตำแหน่งประ

16 มกราคม - 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559
โคจรเดินหน้าในราศีธนู ให้โทษในตำแหน่งประ

8 - 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559
โคจรเดินหน้าในราศีมังกร ให้คุณโดยปกติ

26 กุมภาพันธ์ - 13 มีนาคม พ.ศ. 2559
โคจรเดินหน้าในราศีกุมภ์ ให้คุณโดยปกติ

13 - 31 มีนาคม พ.ศ. 2559
โคจรเดินหน้าในราศีมีน ให้โทษในตำแหน่งประและนิจ


31 มีนาคม - 22 เมษายน พ.ศ. 2559
โคจรเดินหน้าในราศีเมษ ให้คุณโดยปกติ


22 เมษายน - 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2559
โคจรพักร์ในราศีเมษ ชะลอการให้คุณโดยปกติ


12 พฤษภาคม - 4 มิถุนายน พ.ศ. 2559
โคจรเดินหน้าในราศีเมษ ให้คุณโดยปกติ


4 มิถุนายน - 21 มิถุนายน พ.ศ. 2559
โคจรเดินหน้าในราศีพฤษภ ให้คุณโดยปกติ

21 มิถุนายน - 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2559
โคจรเดินหน้าในราศีเมถุน ให้คุณ ในตำแหน่งเกษตร


7 - 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2559
โคจรเดินหน้าในราศีกรกฎ ให้คุณโดยปกติ

24 กรกฎาคม - 18 สิงหาคม พ.ศ. 2559
โคจรเดินหน้าในราศีสิงห์ ให้คุณในตำแหน่งราชาโชคและมหาจักร


18 สิงหาคม - 7 กันยายน พ.ศ. 2559
โคจรพักร์ในราศีสิงห์ ชะลอการให้คุณในตำแหน่งราชาโชคและมหาจักร


7 - 30 กันยายน พ.ศ. 2559
โคจรเดินหน้าในราศีสิงห์ ให้คุณในตำแหน่งราชาโชคและมหาจักร

30 กันยายน - 18 ตุลาคม พ.ศ. 2559
โคจรเดินหน้าในราศีกันย์ ให้คุณในตำแหน่งเกษตรและอุจจ์

18 ตุลาคม - 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559
โคจรเดินหน้าในราศีตุลย์ ให้คุณโดยปกติ

4 พฤศจิกายน - 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559
โคจรเดินหน้าในราศีพิจิก ให้คุณโดยปกติ

24 พฤศจิกายน - 10 ธันวาคม พ.ศ. 2559
โคจรเดินหน้าในราศีธนู ให้โทษในตำแหน่งประ


10 ธันวาคม - 21 ธันวาคม พ.ศ. 2559
โคจรพักร์ในราศีธนู ชะลอการให้โทษในตำแหน่งประ


21 - 29 ธันวาคม พ.ศ. 2559
โคจรพักร์ในราศีพิจิก ชะลอการให้คุณโดยปกติ


29 - 31 ธันวาคม พ.ศ. 2559
โคจรเดินหน้าในราศีพิจิก ให้คุณโดยปกติ



ตำแหน่งของดาวศุกร์ในปี 2559
ดาวศุกร์ (๖)
1 - 20 มกราคม พ.ศ. 2559
โคจรเดินหน้าในราศีพิจิก ให้โทษในตำแหน่งประ

21 มกราคม - 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559
โคจรเดินหน้าในราศีธนู ให้คุณในตำแหน่งมหาจักร

13 กุมภาพันธ์ - 9 มีนาคม พ.ศ. 2559
โคจรเดินหน้าในราศีมังกร ให้คุณโดยปกติ

9 มีนาคม - 3 เมษายน พ.ศ. 2559
โคจรเดินหน้าในราศีกุมภ์ ให้คุณโดยปกติ

3 - 27 เมษายน พ.ศ. 2559
โคจรเดินหน้าในราศีมีน ให้คุณในตำแหน่งอุจจ์

27 เมษายน - 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2559
โคจรเดินหน้าในราศีเมษ ให้โทษในตำแหน่งประ ให้คุณกับลัคนาราศีมังกร ในตำแหน่งอัมพุเกณฑ์

22 พฤษภาคม - 15 มิถุนายน พ.ศ. 2559
โคจรเดินหน้าในราศีพฤษภ ให้คุณในตำแหน่งเกษตร

15 มิถุนายน - 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2559
โคจรเดินหน้าในราศีเมถุน ให้คุณโดยปกติ

9 กรกฎาคม - 3 สิงหาคม พ.ศ. 2559
โคจรเดินหน้าในราศีกรกฎ ให้คุณในตำแหน่งราชาโชค

3 - 28 สิงหาคม พ.ศ. 2559
โคจรเดินหน้าในราศีสิงห์ ให้คุณโดยปกติ

28 สิงหาคม - 21 กันยายน พ.ศ. 2559
โคจรเดินหน้าในราศีกันย์ ให้โทษในตำแหน่งนิจ ให้คุณกับลัคนาราศีกันย์ ในตำแหน่งนรเกณฑ์

21 กันยายน - 16 ตุลาคม พ.ศ. 2559
โคจรเดินหน้าในราศีตุลย์ ให้คุณในตำแหน่งเกษตร

16 ตุลาคม - 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559
โคจรเดินหน้าในราศีพิจิก ให้โทษในตำแหน่งประ

10 พฤศจิกายน - 5 ธันวาคม พ.ศ. 2559
โคจรเดินหน้าในราศีธนู ให้คุณในตำแหน่งมหาจักร

5 - 30 ธันวาคม พ.ศ. 2559
โคจรเดินหน้าในราศีมังกร ให้คุณโดยปกติ

30 - 31 ธันวาคม พ.ศ. 2559
โคจรเดินหน้าในราศีกุมภ์ ให้คุณโดยปกติ



เอาล่ะครับ ตอนนี้เรามีข้อมูลการยกย้ายราศีของดวงดาวและลักษณะการโคจรที่บ่งบอกการให้คุณหรือโทษของดาวแต่ละดวงแล้วนะครับ ต่อไปเราก็จะสามารถเริ่มพยากรณ์ดวงชะตาปี 2559 กันซะที ติดตามกันให้ได้นะครับ