วันพฤหัสบดีที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2564

พยากรณ์ดวงเมืองไทย ปีพ.ศ.2565

อย่างที่เคยเกริ่นไว้ว่า ปีพ.ศ.2565นี้จะยกการพยากรณ์ดวงเมืองออกมาเขียนเป็นบทความต่างหากจากการพยากรณ์ดวงชะตาประจำปี เนื่องจากการโคจรย้ายราศีของดาวเคราะห์ดวงหลักในปีนี้ ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างกระทันหัน ปัจจุบันทันด่วน และเป็นเรื่องใหญ่โตที่กระทบกับทุกคนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ที่สำคัญคือส่วนใหญ่เป็นเรื่องไม่ค่อยดีนัก จะเกิดเหตุการณ์อะไรบ้างนั้น เรามาดูกันครับ

ก่อนอื่น ขอกล่าวถึงดวงเมืองไทยโดยสรุปเกี่ยวกับการเมือง การปกครอง เศรษฐกิจ การเงิน ดังนี้


ดาวอาทิตย์(๑) เจ้าเรือนปุตตะ สถิตเรือนตนุ และ ดาวอังคาร(๓) เจ้าเรือนตนุ สถิตเรือนกดุมภะ กุมดาวเกตุ(๙) พยากรณ์ได้ว่า ประเทศไทยเป็นผู้นำในภูมิภาค ปกครองโดยชนชั้นนำที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับวงการทหาร แต่ระบอบการเมือง การปกครอง มีความผันผวนสูง สับสนวุ่นวายไม่จบสิ้น แต่ก็ถือได้ว่ามีความสงบสุขจากศาสนา และมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองให้อยู่รอดปลอดภัย

ดาวอังคาร(๓) เจ้าเรือนตนุ สถิตเรือนกดุมภะ กุมดาวเกตุ(๙) และ ดาวศุกร์(๖) เจ้าเรือนกดุมภะ สถิตเรือนวินาสน์ พยากรณ์ได้ว่า ประเทศไทยเป็นแหล่งรายได้ การค้า การลงทุน ที่น่าสนใจ แต่มีความผันผวนวุ่นวายสูง มีการทุจริตคอรัปชั่นสูง ในขณะเดียวกันก็มีสินทรัพย์ที่ปกปิดไว้หรือสะสมไว้มากมาย ซึ่งในปัจจุบันอาจเรียกว่า การฟอกเงิน ถ้าจะมองในแง่ดีก็คือการมีทรัพยากรมากมายในประเทศ


การเมือง การปกครอง ... จบหรือยัง?

ดวงเมือง
วันที่ 30 มีนาคม พ.ศ.2565

มุมสัมพันธ์ในการโคจรของดวงดาวในปีนี้ มีความน่าสนใจเป็นอย่างยิ่งจนทำให้ผมต้องไปค้นหาข้อมูลย้อนหลังหลายปีเพื่อนำมาเป็นสถิติอ้างอิง แง่มุมที่ว่านี้คือ การโคจรสวนกันระหว่างดาวราหู(๘)จรและดาวมฤตยู(๐)จร ระหว่างวันที่ 30 มีนาคม ถึง วันที่ 7 กรกฎาคม ในราศีเมษ เหตุการณ์ที่สำคัญเชิงการเมืองในอดีต มีดังนี้

ปีพ.ศ.2489 โคจรสวนกันในราศีพฤษภ โดยวันที่ 9 มิถุนายน รัชกาลที่ 8 ต้องพระแสงปืนสวรรคต และวันที่ 8 สิงหาคม มีการจัดการเลือกตั้งตามวาระ หลังจากเหตุการณ์นั้นจนถึงปัจุบัน ก็ยังเป็นเรื่องให้ถกเถียงกันระหว่างกลุ่มบุคคลต่างๆไม่จบสิ้น

ปีพ.ศ.2503-4 โคจรสวนกันในราศีสิงห์ น่าแปลกตรงที่ไม่มีเหตุการณ์รุนแรงในเชิงการเมือง อาจเป็นเพราะดาวราหู(๘)จรอยู่ในตำแหน่งประ ซึ่งเป็นตำแหน่งที่อ่อนแรงเต็มที่ และไม่มีดาวกำเนิดใดๆตั้งรับอยู่

ปีพ.ศ.2519 โคจรสวนกันในราศีตุลย์ วันที่ 6 ตุลาคม เกิดการประท้วงของนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จนนำไปสู่การล้อมปราบ ทำให้มีผู้สูญหายและล้มตายจำนวนมาก ในที่สุดเกิดการรัฐประหารรัฐบาลม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช โดยพล.ร.อ.สงัด ชลออยู่

ปีพ.ศ.2535 โคจรสวนกันในราศีธนู วันที่ 22 มีนาคม มีการเลือกตั้ง และได้เชิญพล.อ.สุจินดา คราประยูร ซึ่งได้ทำรัฐประหารในปีพ.ศ.2534 ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี จนเกิดการประท้วงนำโดยพล.ต. จำลอง ศรีเมือง ในวันที่ 17 พฤษภาคม เรียกกันติดปากว่า เหตุการณ์พฤษภาทมิฬ เนื่องจากมีข่าวว่ามีคนล้มตายและสูญหายจำนวนมาก

และล่าสุดปีพ.ศ.2549 โคจรสวนกันในราศีกุมภ์ มีการเลือกตั้งในวันที่ 2 เมษายน และพล.อ.สนธิ บุญรัตกลินได้ทำการรัฐประหารในวันที่ 19 กันยายน

หลังจากดาวมฤตยู(๐)จรโคจรยกย้ายออกจากราศีเมษไปแล้วในวันที่ 7 กรกฎาคม ก็ปล่อยให้ดาวราหู(๘)จรส่งผลเสียต่อดวงเมืองต่อไปตลอดทั้งปี

ย้อนหลังไปเมื่อปีพ.ศ.2546-7 ดาวราหู(๘)จรดวงเดียวในราศีเมษก็ส่งผลให้เกิดการจลาจลที่สถานทูตไทยและธุรกิจของคนไทยในประเทศกัมพูชา เนื่องจากเกิดข่าวลือว่าดาราไทยคนหนึ่งกล่าวว่านครวัดเป็นของไทย จนรัฐบาลในสมัยนั้นต้องส่งเครื่องบินไปรับคนไทยกลับประเทศ ปิดชายแดน ลดระดับความสัมพันธ์ทางการทูต และให้กัมพูชาชดใช้ค่าเสียหาย พร้อมกับชี้แจงเหตุการณ์ที่ขึ้น

นอกจากนี้ ในช่วงปีนั้น ยังมีการเสียชีวิตของบุคคลสำคัญผู้มีชื่อเสียงด้านต่างๆ ผู้มียศถาบรรดาศักดิ์ ชนชั้นสูง พระสงฆ์องคเจ้า นักการเมือง หรือแม้กระทั่งดารา  และที่สำคัญที่สุด เกิดเหตุการณ์ "สึนามิ" ทางภาคใต้ทำให้ผู้คนล้มหายตายจากกันไปหลายพันคน

ผมขอย้อนหลังไปอีกในปีพ.ศ.2528 ที่ดาวราหู(๘)จรสถิตราศีเมษดวงเดียว ในปีนั้นก็เกิดเหตุการณ์สำคัญทางการเมืองได้แก่ เหตุการณ์กบฏ 9 กันยา หรือ กบฏ 2 พี่น้อง นำโดย พ.อ.มนูญกฤต และ น.ท.มนัส รูปขจร ร่วมกับนายทหารนอกราชการท่านอื่นๆเช่น พล.อ.เสริม ณ นคร พล.อ.เกรียงศักดิ์ ชมะนันท์ ...

จากเหตุการณ์ในอดีตที่ผ่านมาข้างต้น คงไม่สามารถพยากรณ์ไปในทางที่ดีได้เลย โดยสรุปแล้วก็คงต้องพยากรณ์ว่า จะเกิดความขัดแย้ง ความวุ่นวาย ความรุนแรง การจลาจล ของกลุ่มบุคคลต่างๆ จนอาจก่อให้เกิดการปฏิวัติรัฐประหารอีกครั้ง ถึงแม้ว่าจะมีการเลือกตั้งแล้วก็ตาม จะมีบุคคลสำคัญถึงแก่กรรมอย่างปัจจุบันทันด่วน ประชาชนล้มหายตายจากเป็นจำนวนมาก ความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้านไม่สู้ดี อาจมีการปิดพรมแดนเพื่อรักษาเสถียรภาพทางการเมืองระหว่างประเทศอีกด้วย

ทีนี้มาดูดาวมฤตยู(๐)จรที่โคจรยกย้ายจากราศีเมษเข้าสู่ราศีพฤษภในวันที่ 7 กรกฎาคม หลังจากที่สถิตราศีเมษกุมลัคนาดวงเมืองมานานเป็นเวลาประมาณ 7 ปี ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองคล้ายๆกับช่วงที่เปลี่ยนแปลงการปกครองในปีพ.ศ.2475 ... แต่หลังจากวันที่ 7 กรกฎาคมนี้เป็นต้นไป ใครที่คิดว่าเป็นจุดสิ้นสุดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองแล้ว ขอบอกว่า ท่านกำลังคิดผิด เพราะการที่ดาวมฤตยู(๐)จรย้ายเข้าสู่ราศีพฤษภ ซึ่งเป็นเรือนการเงินของดวงเมืองนั้น อย่าลืมว่า มีดาวอังคาร(๓)กำเนิด ซึ่งเป็นดาวเกษตรของราศีเมษที่ลัคนาของดวงเมืองสถิตอยู่ ... โอ้ย งง 

อธิบายง่ายๆว่า ดาวอังคาร(๓)กำเนิดของดวงเมือง ก็ถือเป็นเรือนตนุของลัคนาด้วยเช่นกัน ศัพท์เทคนิคเรียกว่า "ตนุลัคน์" ดังนั้นการที่ดาวมฤตยู(๐)จรโคจรกุมตนุลัคน์ จึงพยากรณ์ได้คล้ายๆกับ 7 ปีที่ผ่านมานั่นเอง คือ ... อีกประมาณ 7 ปีถัดไปนับจากวันที่ 7 กรกฎาคมนี้ การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองการปกครอง ก็ยังคงดำเนินไปอยู่เช่นเดิม แต่จะถึงขั้นมีการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองเหมือนปีพ.ศ.2475หรือไม่นั้น ผมฝากให้ติดตามกันต่อไปดีกว่า

แต่ไม่ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรก็ตาม ก็ไม่มีเสถียรภาพทางการเมืองแน่นอน เพราะดวงเมืองถูกสร้างหรือกำหนดมาให้เป็นแบบนั้น ถ้าต้องการเสถียรภาพ ก็คงต้องย้ายเมืองหลวง แล้ววางฤกษ์กันใหม่ล่ะครับ ... รับรอง ... จบ


เศรษฐกิจ การเงิน จะเป็นอย่างไร

ดวงเมือง
วันที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ.2565

หลังจากเศรษฐกิจและการเงินบักโกรกมาตั้งแต่ปีที่แล้ว เป็นผลมาจากดาวราหู(๘)จรโคจรสถิตราศีพฤษภซึ่งเป็นเรือนการเงินของดวงเมือง ประชาชนทั่วไปเหนื่อยยากแสนสาหัส แต่ก็ยังสามารถปรับตัวได้ทันตามสถานการณ์ แม้ว่ารายได้จะน้อยลงบ้าง เจ้าของธุรกิจรายใหญ่ไม่เดือดร้อนมากนัก แตกต่างจากช่วง "ต้มยำกุ้ง" ซึ่งตอนนั้นสถาบันการเงิน และบริษัทใหญ่ๆ เจ๊งกันไปเป็นแถวๆก่อนเป็นลำดับแรก เพราะกู้เงินต่างชาติไว้เยอะ พอโดนโจมตีค่าเงินบาท ทำให้ค่าเงินบาทตกต่ำลงมาก ใครเป็นหนี้ต่างชาติก็ถึงกับต้องขายกิจการให้ต่างชาติไป เพราะหนี้ท่วมมากกว่าเดิม แต่ผู้คนหรือพนักงานส่วนใหญ่ก็ยังทำงานที่เดิม เพียงแต่เปลี่ยนเจ้าของใหม่เท่านั้นเอง

มาปีนี้ ดาวราหู(๘)จรจะโคจรยกย้ายสู่ราศีเมษในวันที่ 30 มีนาคม และดาวพฤหัส(๕)จรโคจรยกย้ายเข้าสู่ราศีมีนในวันที่ 8 เมษายน ได้ตำแหน่งเกษตรกุมดาวศุกร์(๖)ซึ่งเป็นดาวการเงินของดวงเมือง พยากรณ์ได้ว่า เศรษฐกิจ และการเงินของดวงเมืองจะเริ่มดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ตั้งแต่ 30 มีนาคมเป็นต้นไป ประชาชนเริ่มมีรายได้มากขึ้น แต่ก็ยังคงเหน็ดเหนื่อยแสนสาหัสเช่นเดิม ธุรกิจใต้ดิน ใต้โต๊ะ การทุจริตทางการเงิน จะรุ่งเรืองเฟื่องฟู การคอรัปชั่นเบ่งบานเป็นดอกเห็ด

หันมาดูดาวมฤตยู(๐)จรโคจรย้ายเข้าสู่ราศีพฤษภในวันที่ 7 กรกฎาคมเป็นต้นไป อันดาวมฤตยู(๐)นั้น ถ้าสถิตในเรือนใดก็ตาม ก็มักจะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงแบบปัจจุบันทันด่วน หรือแตกต่างจากเรื่องเดิมโดยสิ้นเชิง และโดยปกติจะมีคาบของช่วงเวลาที่ยาวนานถึง 7 ปีโดยประมาณ นั่นหมายถึง การเปลี่ยนแปลงจากหน้ามือเป็นหลังมือจะเกิดภายในเวลา 7 ปีนั่นเอง

พยากรณ์ได้ว่า แหล่งรายได้ เงินตรา จะถูกปฏิวัติ ปรับปรุง เปลี่ยนแปลง คล้ายๆกับการเปลี่ยนเงินพดด้วงเป็นเงินรู(สตางค์รู) หรือเปลี่ยนเงินรูเป็นธนบัตร ยุคต่อไปก็สมควรเป็นเงินในรูปแบบดิจิตัลหรือเงินคริปโต(Crypto currency)นั่นเอง ซึ่งจะส่งผลกระทบในวงกว้างกับธุรกิจการเงินทุกประเภทด้วย เช่น สถาบันการเงินต่างๆ  แหล่งเงินกู้นอกระบบ ฯลฯ รวมถึงรูปแบบของการหารายได้และการใช้จ่ายก็จะถูกกระทบไปด้วย เรียกว่า ระบบการเงินของประเทศจะเปลี่ยนแปลงไปโดยสิ้นเชิง


ข้อพิจารณาทางโหราศาสตร์ (Consideration)

ดาวมฤตยู(๐)
- สถิตภพตนุ(ราศีเมษ) กุมดาวอาทิตย์(๑)กำเนิด ตั้งแต่ 1 มกราคม ถึง 7 กรกฎาคม
- สถิตภพกดุมภะ(ราศีพฤษภ) กุมดาวอังคาร(๓)กำเนิดและดาวเกตุ(๙)กำเนิด ตั้งแต่ 7 กรกฎาคม ถึง 31 ธันวาคม

ดาวเสาร์(๗)
- ให้คุณในภพกัมมะ
 ตั้งแต่ 1 มกราคม ถึง 31 ธันวาคม สถิตราศีมังกร ในตำแหน่งเกษตร

ดาวราหู(๘)
- ให้โทษในภพกดุมภะ ตั้งแต่ 1 มกราคม ถึง 30 มีนาคม สถิตราศีพฤษภ ในตำแหน่งนิจ
- ให้โทษในภพตนุ ตั้งแต่ 30 มีนาคม ถึง 31 ธันวาคม สถิตราศีเมษ

ดาวพฤหัส(๕)
- ให้คุณในภพลาภะ ตั้งแต่ 1 มกราคม ถึง 8 เมษายน สถิตราศีกุมภ์
- ให้คุณในภพวินาสน์ ตั้งแต่ 8 เมษายน ถึง 31 ธันวาคม สถิตราศีมีน ในตำแหน่งเกษตร




  

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น