มาดูการโคจรแบบสรุปๆของดาวเคราะห์หลักและพยากรณ์ภาพรวมของปี2563กันก่อน แต่ถ้าอยากดูพยากรณ์ดวงชะตาแต่ละราศี เชิญดูได้ที่ พิเภกพยากรณ์ดวงชะตาประจำปี 2563 (ตอนที่๒ พยากรณ์ ๑๒ ราศี)
ดาวพฤหัส(๕)
1 มกราคม ถึง 17 มีนาคม สถิตราศีธนู
17 มีนาคม ถึง 17 กรกฎาคม สถิตราศีมังกร
17 กรกฎาคม ถึง 14 พฤศจิกายน สถิตราศีธนู
14 พฤศจิกายน ถึง 31 ธันวาคม สถิตราศีมังกร
17 กรกฎาคม ถึง 14 พฤศจิกายน สถิตราศีธนู
14 พฤศจิกายน ถึง 31 ธันวาคม สถิตราศีมังกร
ดาวเสาร์(๗)
1 มกราคม ถึง 2 มีนาคม สถิตราศีธนู
2 มีนาคม ถึง 12 กรกฎาคม สถิตราศีมังกร
12 กรกฎาคม ถึง 5 ธันวาคม สถิตราศีธนู
5 ธันวาคม ถึง 31 ธันวาคม สถิตราศีมังกร
2 มีนาคม ถึง 12 กรกฎาคม สถิตราศีมังกร
12 กรกฎาคม ถึง 5 ธันวาคม สถิตราศีธนู
5 ธันวาคม ถึง 31 ธันวาคม สถิตราศีมังกร
ดาวราหู(๘)
1 มกราคม ถึง 10 กันยายน สถิตราศีเมถุน
10 กันยายน ถึง 31 ธันวาคม สถิตราศีพฤษภ
จากการโคจรของดวงดาวข้างต้น ผมสรุปการให้คุณให้โทษได้ดังนี้
ดาวพฤหัส(๕) ให้คุณแรงแบบจริงๆจังๆเพียงแค่ 2-17 มีนาคม เท่านั้น !!! โดยได้ตำแหน่งเกษตรในราศีธนู ส่วนช่วงเวลานอกเหนือจากนี้ ให้โทษล้วนๆ(หรือไม่ให้คุณนั่นเอง) ได้แก่
1 มกราคม ถึง 2 มีนาคม สถิตราศีธนู กุมดาวเสาร์(๗)คู่อริ
17 มีนาคม ถึง 17 กรกฎาคม สถิตราศีมังกร ได้ตำแหน่งนิจ
17 กรกฎาคม ถึง 14 พฤศจิกายน สถิตราศีธนู กุมดาวเสาร์(๗)คู่อริ
14 พฤศจิกายน ถึง 31 ธันวาคม สถิตราศีมังกร ได้ตำแหน่งนิจ
ปี2563นี้ ดาวพฤหัส(๕)ดูน่าสงสารมากเลยนะครับ ถึงจะได้ตำแหน่งเกษตรในราศีธนู แต่ก็ไม่สามารถให้คุณแรงๆตามทฤษฎีได้เนื่องจากโคจรผิดปกติ เร็วบ้าง ถอยหลังบ้าง และป้วนเปี้ยนเข้าใกล้กับดาวเสาร์(๗)คู่อริมากเกินไปนั่นเองครับ ถ้าจะให้คุณ ก็ให้ได้แบบไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย ให้สิ่งที่ไม่อยากได้ บางทีกลับจะเป็นโทษเสียด้วยซ้ำ !!!
สำหรับการพยากรณ์ดวงเมืองไทย อันดาวพฤหัส(๕)นี้ หมายถึง ผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมือง พระเถระชั้นผู้ใหญ่ ศาลสถิตยุติธรรม นักวิชาการ การต่างประเทศ ... เมื่อการโคจรมีลักษณะเช่นนี้ในช่วงเวลาที่ไม่ให้คุณดังกล่าว ก็จะมีผลให้ผู้หลักผู้ใหญ่ไฮโซผู้มีชื่อเสียงทั้งหลายตามที่สาธยายข้างต้น อาจจะถึงคราวเคราะห์หามยามร้าย ล้มหายตายจากกันไปบ้าง หรือบางท่านก็ไม่อาจทำหน้าที่ของตัวเองได้ หรือบางท่านก็ฉวยโอกาสละเลย เพิกเฉย ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ หรือบางท่านก็โกงแม่งซะเลย ... (ฮา)
ดาวเสาร์(๗) ให้คุณต่อเนื่องจากปีที่แล้ว ส่วนใหญ่เป็นเรื่องของอภินิหารทางกฎหมาย แต่ปีนี้มีเรื่องเพิ่มเติมของชนชั้นกรรมาชีพผู้ใช้แรงงานทั้งหลาย จะเหน็ดเหนื่อยแสนสาหัส เพื่อให้ได้มาซึ่งผลประโยชน์อันใหญ่หลวงที่คาดหวังไว้ ดังนี้
1 มกราคม ถึง 2 มีนาคม สถิตราศีธนู เล็งดาวราหู(๘)คู่มิตร
2 มีนาคม ถึง 12 กรกฎาคม สถิตราศีมังกร ในตำแหน่งเกษตร
12 กรกฎาคม ถึง 10 กันยายน สถิตราศีธนู เล็งดาวราหู(๘)คู่มิตร
5 ธันวาคม ถึง 31 ธันวาคม สถิตราศีมังกร ในตำแหน่งเกษตร
และให้โทษแบบจริงจัง ในช่วง 10 กันยายน ถึง 5 ธันวาคม เนื่องจากไม่มีดาวราหู(๘)คู่มิตรเล็งอีกแล้วสถิตราศีธนูซึ่งเป็นเรือนศุภะของดวงเมือง ... ถือเป็นช่วงเวลาที่ผู้ใช้ประโยชน์ทางกฎหมายพึงสังวรณ์ไว้และระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะเวรกรรมกำลังจะตามทัน และย้อนกลับมาตามสนองบาปกรรมที่ทำไว้ในช่วงปีที่ผ่านมา แบบแสบๆร้อนๆ รวมถึงพระสงฆ์องคเจ้า ผู้หลักผู้ใหญ่ที่เป็นที่เคารพของบ้านเมืองก็ไม่พ้นกฎแห่งกรรมนี้เช่นเดียวกัน
ส่วนดาวราหู(๘) ให้คุณต่อเนื่องจากปีที่แล้วเช่นกันในเรือนสหัสชะของดวงเมือง ส่วนใหญ่เป็นเรื่องทางเทคโนโลยีการสื่อสาร เช่น AI, Big Data, Online Marketing ไปจนถึงโซเชียลแอปต่างๆ จะยังคงรุ่งเรืองฟูเฟื่องในช่วงเวลาต่อไปนี้
1 มกราคม ถึง 2 มีนาคม สถิตราศีเมถุน เล็งดาวเสาร์(๗)คู่มิตร
12 กรกฎาคม ถึง 10 กันยายน สถิตราศีเมถุน เล็งดาวเสาร์(๗)คู่มิตร
และช่วงเวลาที่เริ่มให้โทษแบบยาวๆก็คือ 2 มีนาคม ถึง 12 กรกฎาคม สถิตราศีเมถุนหรือเรือนสหัสชะของดวงเมือง ไม่มีดาวเสาร์(๗)เล็งแล้วนะครับ ... ผู้ที่ทำหน้าที่สื่อต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ สิ่งพิมพ์ต่างๆ การโฆษณาประชาสัมพันธ์ จะพบกับฝันร้ายกลายเป็นจริง เกิดปัญหาให้ต้องแก้ไขกันทุกหย่อมหญ้า เรียกได้ว่าเป็นช่วงขาขึ้นมาก่ายหน้าผากกันเลยทีเดียว
ช่วงถัดมาคือ 10 กันยายน ถึง 31 ธันวาคม 2564 สถิตราศีพฤษภซึ่งเป็นเรือนกดุมภะของดวงเมือง ในตำแหน่งนิจ ... เป็นช่วงที่การคลังการเงินของประเทศอ่อนแอสิ้นดี คล้ายๆกับช่วงหลังเหตุการณ์"ต้มยำกุ้ง" การจับจ่ายใช้สอยของประชาชนฝืดเคืองเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ไม่เฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น แต่เป็นไปทั้งโลก ธุรกิจข้ามชาติอาจถึงขั้นถอนการลงทุน มนุษย์เงินเดือนคงต้องเตรียมเนื้อเตรียมตัวมองหาอาชีพที่สอง สาม สี่ กันแล้วล่ะครับ
กล่าวโดยรวมคือ ดาวพฤหัส(๕) ซึ่งมักจะให้คุณโดยธรรมชาติ ก็ดูจะง่อยเปลี้ยเสียขาแทบตลอดทั้งปี เรียกได้ว่า ถึงคราวซวยกันแล้วล่ะครับ รวมถึงดาวราหู(๘)ที่เริ่มแผลงฤทธิ์ลงโทษอย่างไร้ความปราณีเป็นเวลาประมาณ8เดือนของปี2563นี้กันเลยทีเดียว ส่วนดาวเสาร์(๗)ก็แผลงฤทธิ์น้อยลงนิดหน่อย แค่เกือบๆ3เดือนของปี2563นี้เท่านั้นเอง !!!
เมื่อพินิจพิจารณาถึงเหตุการณ์ที่ผมต้องพยากรณ์ว่าแย่ที่สุดแล้ว ช่วงเวลาที่ท่านทั้งหลายควรให้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะดาวหลักทั้งสามดวงให้โทษอย่างพร้อมเพรียงกัน ก็คือช่วง 10 กันยายน ถึง 5 ธันวาคม เตรียมตัวกันให้ดีๆนะครับ เพราะมีโอกาสที่จะเกิดเรื่องร้ายแรงใดๆก็ได้ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุ การเงิน การทะเลาะวิวาท ฯลฯ ขึ้นอยู่กับวาสนาของแต่ละท่านว่าจะประคองเหตุการณ์ต่างๆได้ดีเพียงใดครับ
อ้อ! ตอนต่อไปผมจะเริ่มพยากรณ์ดวงชะตาแต่ละราศี แล้วมาดูกันว่า ปี 2563 นี้ ... ใครจะดีใครจะอยู่
10 กันยายน ถึง 31 ธันวาคม สถิตราศีพฤษภ
จากการโคจรของดวงดาวข้างต้น ผมสรุปการให้คุณให้โทษได้ดังนี้
ดาวพฤหัส(๕) ให้คุณแรงแบบจริงๆจังๆเพียงแค่ 2-17 มีนาคม เท่านั้น !!! โดยได้ตำแหน่งเกษตรในราศีธนู ส่วนช่วงเวลานอกเหนือจากนี้ ให้โทษล้วนๆ(หรือไม่ให้คุณนั่นเอง) ได้แก่
1 มกราคม ถึง 2 มีนาคม สถิตราศีธนู กุมดาวเสาร์(๗)คู่อริ
17 มีนาคม ถึง 17 กรกฎาคม สถิตราศีมังกร ได้ตำแหน่งนิจ
17 กรกฎาคม ถึง 14 พฤศจิกายน สถิตราศีธนู กุมดาวเสาร์(๗)คู่อริ
14 พฤศจิกายน ถึง 31 ธันวาคม สถิตราศีมังกร ได้ตำแหน่งนิจ
ปี2563นี้ ดาวพฤหัส(๕)ดูน่าสงสารมากเลยนะครับ ถึงจะได้ตำแหน่งเกษตรในราศีธนู แต่ก็ไม่สามารถให้คุณแรงๆตามทฤษฎีได้เนื่องจากโคจรผิดปกติ เร็วบ้าง ถอยหลังบ้าง และป้วนเปี้ยนเข้าใกล้กับดาวเสาร์(๗)คู่อริมากเกินไปนั่นเองครับ ถ้าจะให้คุณ ก็ให้ได้แบบไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย ให้สิ่งที่ไม่อยากได้ บางทีกลับจะเป็นโทษเสียด้วยซ้ำ !!!
สำหรับการพยากรณ์ดวงเมืองไทย อันดาวพฤหัส(๕)นี้ หมายถึง ผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมือง พระเถระชั้นผู้ใหญ่ ศาลสถิตยุติธรรม นักวิชาการ การต่างประเทศ ... เมื่อการโคจรมีลักษณะเช่นนี้ในช่วงเวลาที่ไม่ให้คุณดังกล่าว ก็จะมีผลให้ผู้หลักผู้ใหญ่ไฮโซผู้มีชื่อเสียงทั้งหลายตามที่สาธยายข้างต้น อาจจะถึงคราวเคราะห์หามยามร้าย ล้มหายตายจากกันไปบ้าง หรือบางท่านก็ไม่อาจทำหน้าที่ของตัวเองได้ หรือบางท่านก็ฉวยโอกาสละเลย เพิกเฉย ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ หรือบางท่านก็โกงแม่งซะเลย ... (ฮา)
ดาวเสาร์(๗) ให้คุณต่อเนื่องจากปีที่แล้ว ส่วนใหญ่เป็นเรื่องของอภินิหารทางกฎหมาย แต่ปีนี้มีเรื่องเพิ่มเติมของชนชั้นกรรมาชีพผู้ใช้แรงงานทั้งหลาย จะเหน็ดเหนื่อยแสนสาหัส เพื่อให้ได้มาซึ่งผลประโยชน์อันใหญ่หลวงที่คาดหวังไว้ ดังนี้
1 มกราคม ถึง 2 มีนาคม สถิตราศีธนู เล็งดาวราหู(๘)คู่มิตร
2 มีนาคม ถึง 12 กรกฎาคม สถิตราศีมังกร ในตำแหน่งเกษตร
12 กรกฎาคม ถึง 10 กันยายน สถิตราศีธนู เล็งดาวราหู(๘)คู่มิตร
5 ธันวาคม ถึง 31 ธันวาคม สถิตราศีมังกร ในตำแหน่งเกษตร
และให้โทษแบบจริงจัง ในช่วง 10 กันยายน ถึง 5 ธันวาคม เนื่องจากไม่มีดาวราหู(๘)คู่มิตรเล็งอีกแล้วสถิตราศีธนูซึ่งเป็นเรือนศุภะของดวงเมือง ... ถือเป็นช่วงเวลาที่ผู้ใช้ประโยชน์ทางกฎหมายพึงสังวรณ์ไว้และระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะเวรกรรมกำลังจะตามทัน และย้อนกลับมาตามสนองบาปกรรมที่ทำไว้ในช่วงปีที่ผ่านมา แบบแสบๆร้อนๆ รวมถึงพระสงฆ์องคเจ้า ผู้หลักผู้ใหญ่ที่เป็นที่เคารพของบ้านเมืองก็ไม่พ้นกฎแห่งกรรมนี้เช่นเดียวกัน
ส่วนดาวราหู(๘) ให้คุณต่อเนื่องจากปีที่แล้วเช่นกันในเรือนสหัสชะของดวงเมือง ส่วนใหญ่เป็นเรื่องทางเทคโนโลยีการสื่อสาร เช่น AI, Big Data, Online Marketing ไปจนถึงโซเชียลแอปต่างๆ จะยังคงรุ่งเรืองฟูเฟื่องในช่วงเวลาต่อไปนี้
1 มกราคม ถึง 2 มีนาคม สถิตราศีเมถุน เล็งดาวเสาร์(๗)คู่มิตร
12 กรกฎาคม ถึง 10 กันยายน สถิตราศีเมถุน เล็งดาวเสาร์(๗)คู่มิตร
และช่วงเวลาที่เริ่มให้โทษแบบยาวๆก็คือ 2 มีนาคม ถึง 12 กรกฎาคม สถิตราศีเมถุนหรือเรือนสหัสชะของดวงเมือง ไม่มีดาวเสาร์(๗)เล็งแล้วนะครับ ... ผู้ที่ทำหน้าที่สื่อต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ สิ่งพิมพ์ต่างๆ การโฆษณาประชาสัมพันธ์ จะพบกับฝันร้ายกลายเป็นจริง เกิดปัญหาให้ต้องแก้ไขกันทุกหย่อมหญ้า เรียกได้ว่าเป็นช่วงขาขึ้นมาก่ายหน้าผากกันเลยทีเดียว
ช่วงถัดมาคือ 10 กันยายน ถึง 31 ธันวาคม 2564 สถิตราศีพฤษภซึ่งเป็นเรือนกดุมภะของดวงเมือง ในตำแหน่งนิจ ... เป็นช่วงที่การคลังการเงินของประเทศอ่อนแอสิ้นดี คล้ายๆกับช่วงหลังเหตุการณ์"ต้มยำกุ้ง" การจับจ่ายใช้สอยของประชาชนฝืดเคืองเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ไม่เฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น แต่เป็นไปทั้งโลก ธุรกิจข้ามชาติอาจถึงขั้นถอนการลงทุน มนุษย์เงินเดือนคงต้องเตรียมเนื้อเตรียมตัวมองหาอาชีพที่สอง สาม สี่ กันแล้วล่ะครับ
กล่าวโดยรวมคือ ดาวพฤหัส(๕) ซึ่งมักจะให้คุณโดยธรรมชาติ ก็ดูจะง่อยเปลี้ยเสียขาแทบตลอดทั้งปี เรียกได้ว่า ถึงคราวซวยกันแล้วล่ะครับ รวมถึงดาวราหู(๘)ที่เริ่มแผลงฤทธิ์ลงโทษอย่างไร้ความปราณีเป็นเวลาประมาณ8เดือนของปี2563นี้กันเลยทีเดียว ส่วนดาวเสาร์(๗)ก็แผลงฤทธิ์น้อยลงนิดหน่อย แค่เกือบๆ3เดือนของปี2563นี้เท่านั้นเอง !!!
เมื่อพินิจพิจารณาถึงเหตุการณ์ที่ผมต้องพยากรณ์ว่าแย่ที่สุดแล้ว ช่วงเวลาที่ท่านทั้งหลายควรให้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะดาวหลักทั้งสามดวงให้โทษอย่างพร้อมเพรียงกัน ก็คือช่วง 10 กันยายน ถึง 5 ธันวาคม เตรียมตัวกันให้ดีๆนะครับ เพราะมีโอกาสที่จะเกิดเรื่องร้ายแรงใดๆก็ได้ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุ การเงิน การทะเลาะวิวาท ฯลฯ ขึ้นอยู่กับวาสนาของแต่ละท่านว่าจะประคองเหตุการณ์ต่างๆได้ดีเพียงใดครับ
อ้อ! ตอนต่อไปผมจะเริ่มพยากรณ์ดวงชะตาแต่ละราศี แล้วมาดูกันว่า ปี 2563 นี้ ... ใครจะดีใครจะอยู่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น